โฆษกศาลยุติธรรมแจงยิบปธ.ศาลฎีกาทราบเรื่อง อธ.ศาลภาค2 สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงผู้ต้องหาชาวเยอรมัน อนาจารเด็กหญิง ได้ประกันตัวแล้วขอบินกลับบ้านเกิด ไม่บินกลับมารายงานตัวศาล สั่งปรับ 7 แสน ศาลสั่งออกหมายจับปี 65 ไว้ รอจับตัวส่งศาล
ตามที่ปรากฏการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสกู๊ปข่าวคดีล่วงละเมิดทางเพศเด็กหญิงซึ่งมีผู้ต้องหาสัญชาติเยอรมันรายหนึ่งถูกจับและได้รับการปล่อยชั่วคราวระหว่างถูกดำเนินคดี แต่กลับหลบหนีไม่เดินทางมารายงานตัวตามนัดหลังได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศระหว่างประกันตัวเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น
วันที่ 4 ธันวาคม 66 นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าเรื่องนี้ประธานศาลฎีกาทราบข้อมูลตามที่ปรากฏข่าวแล้ว แต่ไม่ได้นิ่งนอนใจโดยได้ติดตามความคืบหน้าและให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเหตุและข้อเท็จจริงในคดีดังกล่าว ซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลภาค 2 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบดูแลในเขตศาลภาค 2 รวมถึงศาลจังหวัดพัทยาที่เป็นที่เกิดเหตุในกรณีนี้ได้มีคำสั่งให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน และลำดับเหตุการณ์ของคดีนี้ว่าเป็นมาอย่างไร เมื่อได้ผลสรุปการตรวจสอบเป็นอย่างไรแล้วจึงจะพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป
โดยคดีนี้ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองพัทยา นำตัว นายเจนส์ คริช (Mr.Jens Krich) อายุ 55 ปี สัญชาติเยอรมัน ผู้ต้องหา มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทยาครั้งแรก เมื่อวันที่ 26 กันยายน 65 ตามข้อกล่าวหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ซึ่งได้ร่วมประเวณีเด็กหญิง 3 ครั้ง
เหตุเกิดที่คอนโดแห่งหนึ่งต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยช่วงเดือนมิถุนายน 65 ซึ่งระหว่างการฝากขังชั้นสอบสวน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ผู้ร้องไม่คัดค้านการให้ปล่อยชั่วคราว และผู้ต้องหาก็ไม่คัดค้านการฝากขัง โดยชั้นฝากขังศาลอนุญาตตามคำร้อง ขณะที่เพื่อนคนไทยของผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เงินสด 200,000 บาท ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตปล่อยชั่วคราวระหว่างสอบสวน/พิจารณา/อุทธรณ์/ฎีกา ให้ทำสัญญาประกัน ตีราคาประกันตามาตรฐานกลาง วางหลักประกัน 200,000 บาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาล และให้แจ้ง ตม.ทราบคำสั่งด้วย ซึ่งตามสัญญาประกัน นายประกันรับว่าจะนำตัวผู้ต้องหามาส่งศาลตามนัดทุกครั้ง หลังจากมีการปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหายังมาติดต่อขอดำเนินการต่างๆ กับศาลอยู่
ต่อมาวันที่ 7 พฤศจิกายน 65 นายเจนส์ ผู้ต้องหา ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดพัทยา ขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรชั่วคราวกลับไปประเทศเยอรมัน ในวันที่ 7 พฤศจิกายน65 เนื่องจากมีความจำเป็นติดต่อธนาคารที่ประเทศเยอรมันเพื่อแสดงตนและขอให้ธนาคารเปิดการใช้ระบบการเบิกเงินออนไลน์ที่ถูกระงับไปเนื่องจากมีผู้พยายามเข้าใช้บัญชี 3 ครั้ง และกิจการเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาร่วมทำธุรกิจกับหุ้นส่วนในประเทศเยอรมันมีปัญหาที่เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาจำเป็นต้องเดินทางไปแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ซึ่งผู้ต้องหาระบุด้วยว่าไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาและประสงค์จะขอต่อสู้คดีถึงที่สุด โดยผู้ต้องหาจะเดินทางกลับประเทศไทยวันที่ 13 พฤศจิกายน 65 และจะรีบกลับมารายงานตัวต่อศาลทันทีในวันที่ 14 พฤศจิกายน 65 โดยผู้ต้องหายินดีวางประกันต่อศาลโดยเสนอวางเงินสด 500,000 บาท ปฏิบัติตามคำสั่ง หรือข้อบังคับที่ศาลกำหนดอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ศาลพิจารณาเอกสารคำร้องและเอกสารเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจที่ผู้ต้องหาแนบมาด้วยแล้วอนุญาตให้ผู้ต้องหาออกนอกราชอาณาจักรได้เป็นการชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่ามีที่อยู่เป็นหลักแหล่งในประเทศไทย มีธุรกิจในประเทศไทย มีภรรยาเป็นคนไทย และประสงค์ขอต่อสู้คดี ซึ่งผู้ต้องหามีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศตามเอกสารของธนาคารและหุ้นส่วนทางธุรกิจ โดยให้มารายงานตัววันที่14 พฤศจิกายน 65 มิฉะนั้นจะถือว่าผิดสัญญาประกัน แต่เพื่อเป็นการประกันการมาศาลตามกำหนด จึงเห็นสมควรให้ผู้ต้องหาวางหลักประกันเงินสด 500,000 บาท
ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายน 65 ทนายความผู้ต้องหายื่นขอขยายเวลารายงานตัวต่อศาลเป็นวันที่ 29 พฤศจิกาย 65 ซึ่งศาลมีคำสั่งอนุญาต แต่เมื่อถึงวันนัดดังกล่าวปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่ได้มารายงานตัวตามนัด ศาลจึงมีคำสั่งวันที่ 1 ธันวาคม 65 ให้ออกหมายจับผู้ต้องหา พร้อมสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันและยึดเงินวางประกันออกนอกประเทศ รวมทั้งหมด 700,000 บาท ซึ่งศาลมีหนังสือส่งถึง ผบ.ตร.ทราบในวันที่ 2 ธันวาคม 2565 แล้ว
ต่อมาวันที่ 16 ธันวาคม 65 พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา จึงนำสำนวนคดีมายื่นฟ้องนายเจนส์ เป็นจำเลบต่อศาลจังหวัดพัทยาคดีหมายเลขดำ อ.1210/2565 ความผิดตาม ป.อ.มาตรา 91 , 277 , 279
ท้ายฟ้องอัยการโจทก์ระบุว่า หากจำเลยยื่นคำร้องขอประกันตัวขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล ซึ่งวันเดียวกันศาลจังหวัดพัทยาได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตรวจสำนวนฝากขังแล้วพบว่าศาลมีคำสั่งออกหมายจับนายเจนส์ เลขที่ 457/2565 ลงวันที่ 1 ธันวาคม 65 และปรับนายประกัน ซึ่งจนถึงวันฟ้องยังจับตัวจำเลยไม่ได้และนายประกันยังไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาล ศาลจังหวัดพัทยาจึงให้ออกหมายจับใหม่ (ชั้นพิจารณาหลังถูกฟ้อง) และกรณียังไม่แน่ว่าจะจับตัวจำเลยได้เมื่อใด จึงให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความชั่วคราว หากจับจำเลยได้เมื่อใด ให้อัยการโจทก์แถลงศาลเพื่อให้ยกคดีมาพิจารณาใหม่ต่อไป โดยศาลมีหนังสือแจ้งถึง ผบ.ตร.และเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ทราบวันที่ 19 ธันวาคม 65 ดังนั้น ขณะนี้ ขั้นตอนจึงอยู่ระหว่างเจ้าพนักงานตำรวจจะติดตามตัวจำเลยตามหมายจับใหม่ มาส่งศาลเพื่อพิจารณาคดีต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี