หลอกจับ‘ครูแดน’ผู้กำกับคิวบู๊ชื่อดัง ยัดคุก‘ว้าแดง’ รีดค่าไถ่ 24 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมกราคม ยังไม่รู้ชะตากรรม เปิดจดหมายระบายสุดทุกข์ทรมาน ถูกบังคับใช้งานหนัก ขู่ยิงทิ้ง ด้าน ‘แม่’ร้องกระทรวงการต่างประเทศช่วย
11 กรกฎาคม 2565 ความคืบหน้ากรณีนายระม้าย โมริพันธ์ หรือ “ครูแดน” ครูสอนคิวบู๊ชื่อดัง ถูกล่อลวงไปคุมขังอยู่ในพื้นที่ชนกลุ่มน้อยว้าแดง ประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่เมื่อกลางเดือนต้นปี 2565 โดยมีการเผยแพร่ภาพขณะครูแดนถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนตลอดเวลาสภาพอิดโรย ขณะเดียวกันมีการสัมภาษณ์แม่ของครูแดน ระบุว่า ลูกชายต้องทนทุกข์ทรมาน ถูกใช้แรงงานไม่ได้กลับมา ตนเองหมดหนทางที่จะช่วยลูก เพราะมีการเรียกค่าไถ่เป็นเงินถึง 24 ล้านบาท หากสิ้นเดือนไม่ติดต่อไปก็ให้รอรับศพได้เลยนั้น
ล่าสุดมีรายงานข่าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่าในช่วง 1-2 สัปดาห์ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและญาติของนายระม้าย โมริพันธ์ หรือ “แดนนี่” หรือ “ครูแดน” อายุ 40 ปี ชาว จ.สกลนคร มีอาชีพเป็นผู้กำกับละครและครูสอนศิลปะการต่อสู้ ให้กับดารานักแสดงในวงการบันเทิงของประเทศไทย ได้พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่เมียนมาและกองทัพว้า ในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) หรือว้าแดง ในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เพื่อขอให้มีการปล่อยตัวนายแดนนี่กลับประเทศไทย เนื่องจากได้ถูกทหารว้าจับไปคุมขังเอาไว้ที่เมืองโต๋น ห่างจากชายแดนไทย ประมาณ 150 กิโลเมตร โดยที่ไม่มีความผิดใดๆ
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวได้รับการเปิดเผยเมื่อได้มีนางคำ โมริพันธ์ มารดาของนายแดนนี่ ได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อให้ช่วยเหลือ
นางคำ แจ้งว่า บุตรชายได้ถูกหลอกเข้าไปทำงานในประเทศเมียนมา และต่อมาถูกหลอกให้ไปถูกคุมขังอยู่ที่เมืองโต๋น ก่อนถูกใช้แรงงานอย่างหนัก จากนั้นกลุ่มดังกล่าวบังคับให้นายแดนนี่ติดต่อกับตนเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 24 ล้านบาท แลกกับการปล่อยตัวกลับประเทศไทย มีการข่มขู่ว่าหากแจ้งเจ้าหน้าที่ไทยหรือขอความช่วยเหลือจะถูกฆ่า ทำให้ตนได้ร้องทุกข์ไปยังหลายฝ่าย ทั้งคณะกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ฝ่ายปกครอง จ.เชียงราย และกองกำลังผาเมือง ซึ่งเป็นหน่วยงานทหารที่ดูแลพื้นที่ชายแดนด้าน จ.เชียงราย แล้ว
รายงานข่าว แจ้งว่า เหตุการณ์นายระม้าย หายตัวไปในเขตรัฐฉาน ประเทศเมียนมา เกิดขึ้นช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมา และนางคำได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานต่างๆช่วงเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดนายระม้ายก็ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่เมืองโต๋น โดยที่ยังไม่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา รวมทั้งไม่ทราบชะตากรรม
อย่างไรก็ตาม ในหนังสือขอความช่วยเหลือ นางคำได้แนบจดหมายที่นายระม้ายได้แอบเขียนและส่งผ่านโชเซียลมีเดีย ระบุว่า “ตนถูกส่งไปอยู่ที่คุกเมืองโต๋น เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ถูกทารุณกรรมทั้งกายและจิตใจ ต้องใส่โซ่ตรวนที่ขาและถูกบังคับใช้แรงงานตั้งแต่เวลา 05.00 น. จนถึงค่ำทุกวัน งานที่ทำนั้นหนัก เช่น ตัดไม้ ฯลฯ ต้องตากแดดและฝนจนเจ็บไข้ กล้ามเนื้ออักเสบและไม่มียารักษา รวมทั้งมีอาการปวดบ่า และไหล่ทั้ง 2 ข้างเพราะกล้ามเนื้อฉีดขาด อาหารมีเพียงข้าวและน้ำต้มผักทุกวัน โดยผัก 1 กำกินกัน 10-20 คน ส่วนกลางคืนก็แทบไม่ได้นอนเพราะหนูเยอะมาก พลิกตัวก็มีโซ่กดทับขา เมื่อลุกเดินก็เดินไปได้ทีละคืบ โซ่รัดจนเป็นแผลที่ขาแต่ได้ฝืนทน ครั้นจะหนีก็มีคนบอกว่าจะยิงทิ้ง”
นายระม้าย ระบุอีกว่า ตนเคยถูกคนสั่งให้นำไปยิงทิ้งแล้ว 2 ครั้ง แต่คนดูแลสถานที่หรือพ่อเลี้ยงรู้ว่าตนไม่ได้ทำความผิดอะไรจึงทำให้รอดมาได้ ทั้งนี้นอกจากตนยังมีคนไทยถูกหลอกไปคุมขังเหมือนตนอีก 1 คน แล้วมักจะมีคนไปสอบถามว่าพวกตนเอาเงินไปใช่หรือไม่ ซึ่งพวกตนก็ได้แต่บอกว่าไม่ได้นำเงินไปและไม่รู้เรื่องใดๆ
ขณะที่แหล่งข่าวชายแดน ระบุว่า ก่อนที่นายระม้ายจะถูกคุมขังและต้องประสบกับทารุณกรรมในดินแดนของว้าแดงดังกล่าว เขาได้รับการประสานจากคนในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สาย ให้พาคณะหรือทีมงานไปถ่ายทำภาพยนตร์ทำให้นายระม้ายและพวก เข้าไปใน จ.ท่าขี้เหล็ก แต่ปรากฏว่ารองานอยู่นานหลายวันก็ไม่มีงานทำ ทำให้คนอื่นๆเดินทางกลับประเทศไทย ส่วนนายระม้ายได้ถูก “นายชัย” ผู้มีธุรกิจสีเทาและมีอิทธิพลอยู่ในเขตของว้าแดงแจ้งว่าจะพาไปพักที่แห่งใหม่ โดยให้คนไปรับ แต่ปรากฏว่าได้พาเดินทางไกลถึงเมืองโต๋น และคุมขังเหมือนเป็นนักโทษโดยที่ไม่มีความผิด จากนั้นบังคับให้ทำงานหนักและเรียกค่าไถ่ 24 ล้านบาทดังกล่าวนานกว่า 3-4 เดือน
แหล่งข่าว ระบุอีกว่า สำหรับสาเหตุที่นายระม้าย ถูกทำเช่นนี้คาดว่าอาจเกิดจากมีคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแล้วไม่นำเงินไปจ่ายที่ต้นทางการผลิต จึงได้ลักลอบพาตัวคนไทยไปกล่าวหาว่าเป็นคนนำยาเสพติดไป แล้วไม่จ่ายเงิน จากนั้นให้กองกำลังของว้าสอบปากคำและใช้งานหนักดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากกรณีนายระม้าย ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารคุก จึงลดการทำงานหนักลงแล้ว โดยให้ไปทำงานบ้านที่บ้านรองผู้บริหารคุกคนหนึ่ง บางคนออกไปจ่ายตลาดกับภรรยารองผู้บริหารคนดังกล่าว รวมทั้งครั้งหนึ่งเคยจะถูกปล่อยตัวกลับด้วย แต่ปรากฏว่าได้มีบุคคลคาดว่าคือนายชัย แจ้งไม่ให้ปล่อยตัวทำให้ต้องทนทุกข์ในแดนว้าจนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก เจบีแฟมิลี่ ชาแนล
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี