‘บิ๊กโจ๊ก’-กรมประมง บินประสานมาเลเซีย ขอเรือประมง IUU หลบหนีมาดำเนินคดีที่ไทย
20 กรกฎาคม 2565 จากกรณีที่เมื่อเดือนธันวาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการประมง ร่วมกับ ศรชล. จับกุมเรือประมงปลอมแปลงสัญชาติ ซึ่งลักลอบเข้ามาทำการประมงโดยผิดกฎหมาย จำนวน 5 ลำ พร้อมดำเนินคดีเจ้าของเรือและลูกเรือรวมจำนวน 22 ราย ซึ่งร่วมกันกระทำความผิดกรณีลักลอบเข้ามาในน่านน้ำไทย โดยไม่ได้มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทราบ และมีการปิดบังและเปลี่ยนแปลงชื่อเรือและสัญชาติ จากสัญชาติมาเลเซียเป็นสัญชาติอินโดนีเซีย ตามที่ทราบแล้ว นั้น
ความคืบหน้าในส่วนของคดีนั้น ศาลได้มีการพิจารณาคดีเกี่ยวกับเรือประมงดังกล่าวไปแล้วจำนวน 3 ลำ เนื่องจากผู้ต้องหารับสารภาพ โดยสั่งริบเรือประมง และปรับเงินจำนวนกว่า 19 ล้านบาท ส่วนอีก 2 ลำ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี ต่อมาในช่วงเดือนมีนาคม 2565 ระหว่างที่มีการดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องนั้น ในส่วนของเรือประมงที่ยึดไว้ทั้ง 5 ลำ ซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ กรมศุลกากรจังหวัดสงขลา ได้เข้าสู่กระบวนการประมูลเรือขายทอดตลาดของกรมศุลกากร แต่ปรากฏว่า หลังจากที่เรือประมงทั้ง 5 ลำ ถูกประมูลไปแล้วนั้น กลับฝ่าฝืนคำสั่งห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรของเจ้าหน้าที่ ลักลอบเดินทางออกไปยังน่านน้ำประเทศมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานกับทางการมาเลเซียเพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง 5 ลำ ดังกล่าว ซึ่งต่อมาในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 ทางการมาเลเซียได้แจ้งว่า สามารถติดตามจับกุมเรือประมงทั้ง 5 ลำ ไว้ได้ครบถ้วนแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายของทางการมาเลเซีย
ในการนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จึงได้สั่งการให้ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศพดส.ตร. และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร. ให้ดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซีย เพื่อขอความร่วมมือในการขอรับเรือประมงทั้ง 5 ลำ กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. จึงได้บูรณาการร่วมกับ นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เพื่อดำเนินการประสานงานกับทางการมาเลเซียต่อไป
ต่อมาในวันนี้ (20 กรกฎาคม 2565) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง และ นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ได้เดินทางไปพบกับ ดาโต๊ะ สรี ซัมรี บิน ยะฮ์ยา ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล ประเทศมาเลเซีย เพื่อประสานความร่วมมือในการนำเรือประมง 5 ลำ ดังกล่าวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย ณ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้มีการพบปะหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย ซึ่งการแสวงหาความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งกรณีเรือประมงทั้ง 5 ลำดังกล่าว จะถูกนำกลับมาดำเนินคดีในความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งห้ามออกนอกราชอาณาจักร และลักลอบออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการของกรมเจ้าท่า และตรวจคนเข้าเมือง
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ฯ กล่าวว่า การเดินทางมาเยือนประเทศมาเลเซียในครั้งนี้ เป็นการเดินทางมาเพื่อแสวงหาความร่วมมือและแนวทางร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU เนื่องจากประเทศมาเลเซียเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีอาณาเขตทั้งทางบกและทางน้ำติดกับประเทศไทย หากเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมีแนวทางในการร่วมมือกัน ปัญหาเรื่องการทำประมงผิดกฎหมายในภาพรวมจะต้องลดลงอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังได้มีการประสานความร่วมมือในการขอนำเรือประมง 5 ลำ ที่ประเทศไทยได้ร้องขอให้ทางการมาเลเซียช่วยเหลือในการติดตามจับกุมเอาไว้ให้ เพื่อนำกลับไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่ไทย เบื้องต้นอาจจะต้องรอให้การดำเนินคดีตามกฎหมายของทางการมาเลเซียเสร็จสิ้นก่อน ซึ่งภาพรวมวันนี้ถือว่า ได้รับความร่วมมือจากทางการมาเลเซียเป็นอย่างดี ในอนาคตจะได้มีการหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการในการป้องกันและปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี