รองเจ้าคณะภาค1-2-3ทำหนังสือถึงเจ้าอาวาส
สั่งปลดด่วน!
ไวยาวัจกรวัดธาตุทองฉาว-บริหารเงินไม่โปร่งใส
ขาดคุณสมบัติตามกฎมหาเถรสมาคม
ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
แจ้งผลกลับภายใน15วันหลังรับหนังสือ
รองเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) มีหนังสือด่วนถึง พระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติไวยาวัจกรและหรือถอดถอน ภายใน 15 วัน หลังตกเป็นข่าวถูกวิจารณ์ไม่โปร่งใสในการบริหารเงินวัด ขาดคุณสมบัติตามกฎมหาเถรสมาคม มีมลทินมัวหมองในความผิดเกี่ยวกับการเงิน
จากกรณีญาติโยมที่มาทำบุญในวัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา และเจ้าหน้าที่วัดได้วิพาษณ์วิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใสในการบริหารเงินบริจาคของวัดธาตุทองหลังพบมีคนภายในวัดขนตู้บริจาคขึ้นรถไปนับเงินที่บ้าน รวมทั้งความไม่โปร่งใสในการจัดงานช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค.65 ที่บริเวณลานจอดรถของวัด ตลอดจนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความร่ำรวยผิดปกติของเจ้าหน้าที่ภายในวัดบางคน
และเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาทางวัดธาตุทอง ได้มีหนังสือรายงานเกี่ยวกับคุณสมบัติของไวยาวัจกรวัดคนหนึ่งที่ดูแลการเงินของวัดไปยังสำนักงานเจ้าคณะภาค1-2-3 (ธรรมยุต) วัดตรีทศเทพวรวิหาร พร้อมกับขอให้ทางเจ้าคณะภาค 1-2-3 มีคำสั่งทางปกครองให้เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง ทำการถอดไวยาวัจกรคนดังกล่าวออกจากตำแหน่งหลังจากมีการตรวจสอบคุณสมบัติแล้วพบว่าไวยาวัจกรคนดังกล่าวขาดคุณสมบัติตามกฎมหาเถรสมาคม และมีมลทินมัวหมองในความผิดเกี่ยวกับการเงินตามที่ข่าวเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ก.ค. พระราชบัณฑิต รองเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ได้มีหนังสือที่ รค.02/2565 วัดธาตุทอง พระอารามหลวง เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ลงวันที่ 20 ก.ค.65 ถึงพระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติไวยาวัจกรและหรือถอดถอนไวยาวัจกรคนหนึ่งหลังออกจากตำแหน่งหลังตกเป็นข่าวฉาวมีความไม่โปร่งใสในการบริหารเงินของวัดภายใน 15 วัน
โดยหนังสือดังกล่าวมีรายละเอียดดังนี้ เรื่อง “ขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติไวยาวัจกรและหรือถอดถอนไวยาวัจกร” กราบเรียน “พระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง พระอารามหลวง” สิ่งที่ถวายมาด้วย “สำเนา คำพิพากษาศาลแขวงธนบุรี คดีหมายเลขแดงที่ 286/2552”
ด้วยปัจจุบันเกิดปัญหานานัปการภายในวัดธาตุทอง พระอารามหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือปัญหาเรื่องเงินของวัดธาตุทองจำนวนประมาณ 150,000,000 บาท (หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท) ถูกปิดบัญชีไปจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาประตูน้ำและสาขาลุมพินี ในขณะที่สมุดคู่ฝาก (บุ๊คแบงค์) ถูกเก็บรักษาไว้โดยเจ้าประคุณ สมเด็จพระวันรัต ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต การปิดบัญชีเงินฝากธนาคารดังกล่าว จึงเป็นการกระทำที่ไม่ปกติ ทั้งไม่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจในการเบิกครบทุกรูป ยิ่งไปกว่านั้น ณ เวลานี้ ไม่เป็นที่ปรากฎว่า เงินของวัดธาตุทองจำนวนประมาณ 150 ล้านดังกล่าวถูกนำไปฝากในธนาคารใด หรือถูกนำไปใช้ในกิจการใด ยังคงเหลืออยู่ตามจำนวนเดิมหรือไม่อย่างไร ทราบว่าบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดธาตุทองให้เป็นไวยาวัจกรวัดธาตุทอง เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องการปิดบัญชีเงินฝากธนาคารของวัดธาตุทองดังกล่าว ได้ตรวจสอบคุณสมบัติของบุคคลดังกล่าว พบว่าเป็นผู้ที่ขาดคุณสมบัติตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 18 (พ.ศ. 2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งพบว่าถอดถอนไวยาวัจกร หมวด 1 ข้อ 6 (9) ไม่เป็นผู้ที่เคยถูกลงโทษให้ออกจากราชการ หรือองค์การขอรัฐบาลหรือบริษัทห้างร้านเอกชนในความผิดหรือมีมลหินมัวหมองในความผิดเกี่ยวกับการเงิน รายละเอียดปรากฎตามคำพิพากษาศาลแขวงธนบุรี คดีหมายเลขแดงที่ 286/2552
ทั้งนี้ ได้มีหนังสือกราบเรียนเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ทราบแล้ว จึงขอให้เจ้าอาวาสวัดธาตุทองตรวจสอบข้อเท็จจริงและทำการถอนถอดผู้ที่ขาดคุณสมบัติไวยาวัจกร ผลเป็นประการใด ได้โปรดแจ้งให้ทราบภายใน 15 วัน (สิบห้าวัน) นับแต่วันที่ได้รับหนังสือนี้
อนึ่ง สำหรับไวยาวัจกรวัดธาตุทอง พระอารามหลวง มีทั้งหมด 10 คนประกอบด้วย 1.พลตำรวจเอกสันต์ ศรุตานนท์ 2.ดร.ชุมพล พรประภา 3.ดร.ทรงพร จั่นเทศ 4.นายประสิทธิ์ หิตะนันท์ (ทั้ง 4 คนที่ผ่านมาไม่เคยมา) 5.นายธนศักดิ์ ชูศรี 6.ดร.อำนาจ บัวศิริ (นานๆ จะมาครั้ง) 7.พันตำรวจเอก เจริญ ปานคล้าย 8.ว่าที่ร้อยเอก ณัฎฐกิตติ์ ชัยเฉลิมมงคล 9.นายธนัช ชูศรี (บุตรชายนายธนศักดิ์) 10.นายไพบูลย์ รอดเนียม (เสียชีวิตแล้ว)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี