วัชระทำหน้าที่ผู้แทนนอกสภาร้องยธ.เร่งเยียวยาผู้ค้าในศูนย์อาหาร ถูกหลอก ย้ำคำชี้แจงกระทรวงยังไม่เคลียร์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา นายวัชระ เพชรทอง อดีตสส.พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวกรณีที่ได้รับหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากผู้ประกอบการร้านค้าภายในศูนย์อาหารของกระทรวงยุติธรรมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.2565 กรณีบริษัท ทาร์ปอน แมเนจเม้นท์ จำกัด มี นายชัชวาลย์ ชินะโปดก เป็นเจ้าของและกรรมการฐานะผู้บริหารงานศูนย์อาหารของกระทรวงยุติธรรม มีพฤติกรรมโฆษณาชวนเชื่อและหลอกลวงเพื่อให้ผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุนเช่าพื้นที่ขายอาหารภายในศูนย์อาหารของกระทรวงยุติธรรม และเมื่อทำสัญญาแล้วกลับพบปัญหาต่างๆ เช่น จำนวนผู้ที่มาใช้บริการไม่เป็นไปตามที่โฆษณา มีการข่มขู่ผู้เช่า ทำให้ได้รับความเสียหายนั้น
ต่อมาวันที่ 20 ก.ค. 2565 นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม ได้ออกคำแถลงข่าวชี้แจงว่า กระทรวงยุติธรรมไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้หารือกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยชี้แจงทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ร้องจนเข้าใจและคลี่คลายได้ในระดับหนึ่ง โดยผู้ร้องส่วนใหญ่ ได้รับข้อเสนอของบริษัท เนื่องจากสามารถบรรเทาความเดือดร้อนได้ ในส่วนที่ผู้ร้องบางรายขอให้กระทรวงยุติธรรมช่วยเหลือจัดหาทนายความให้แก่กลุ่มผู้ร้องนั้น จะได้รับคำขอของผู้ร้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการในการปรับปรุงการให้บริการต่อไป และจะตรวจสอบมาตรฐานการจัดการ พื้นที่ภายในศูนย์อาหารฯ อาทิ เรื่องความสะอาด สภาพปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้พื้นที่ที่ไม่เป็นธรรม และจัดทำแบบสำรวจความพึงพอใจเกี่ยวกับการใช้บริการศูนย์อาหารฯ ของผู้บริโภค และผู้ประกอบการร้านอาหารด้วยนั้น
นายวัชระกล่าวว่า จากคำชี้แจงดังกล่าวของกระทรวงยุติธรรมนั้น ยังไม่เป็นที่พอใจของกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าบางราย เนื่องจากหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อหลอกลวงและเกินความจริงในสื่อโซเชียล
เพื่อให้มาลงทุนจำหน่ายอาหารภายในกระทรวงยุติธรรม ในเรื่องจำนวนพนักงานและเวลาในการจำหน่ายสินค้า ทำให้ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง มีบางรายเสียหายถึง 3 แสนบาท จึงต้องการขอคืนเงินแรกเข้าที่จ่ายให้กับบริษัทที่ได้รับสัมปทานเข้ามาบริหารศูนย์อาหาร ภายในกระทรวงยุติธรรม จำนวน 75,000 บาท และร้องเรียนเงินเยียวยา จากกระทรวงกรณีค่าเสียเวลาและเงินลงทุนในการจัดซื้อวัตถุดิบในจำหน่ายอาหารที่ไม่ได้รับกำไรจากการลงทุน
ทั้งนี้ ในข้อแถลงดังกล่าวยังไม่เป็นความจริงหลายข้อคือ 1.เรื่องที่แถลงเป็นเรื่องเก่าที่เคยเจรจาแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขและยังไม่ได้รับค่าเสียหายที่ร้องเรียนไป 2.ทางกระทรวงยังไม่ได้มาเจรจากับผู้เสียหายหลังจากยื่นเอกสารร้องเรียนไปในครั้งล่าสุด 3.ข้อชี้แจงที่ว่ากระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจในการแก้ปัญหา แต่ทางผู้เสียหายได้ยื่นข้อร้องเรียนไปตั้งแต่ส.ค. 2564 จนถึงปัจจุบัน ก็ยังดำเนินการแก้ปัญหาไม่เสร็จเรียบร้อย 4.ทางผู้เสียหายร้องเรียนในเรื่องการขอเงินคืน แต่ได้รับการแก้ปัญหา จำนวน 1 รายเท่านั้น และยังคืนเงินไม่ครบตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับกระทรวงและบริษัทที่ได้รับสัมปทานจากกระทรวง 5.ผู้เสียหายไม่เคยร้องเรียนเรื่องความสะอาดของกระทรวง ซึ่งไม่ตรงประเด็นที่ร้องเรียนไป 6.ในการยื่นเอกสารร้องเรียนไปทุกครั้งไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจน หรือเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรจากกระทรวง และ 7.ในเอกสารร้องเรียน ทางผู้เสียหายระบุชัดเจนว่าขอเงินแรกเข้าทั้งหมดคืนจากบริษัทที่ได้สัมปทานจากกระทรวง แต่ในกรณีนี้กระทรวงไม่เคยกล่าวถึงแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี