เตือนกทม.-10 จว.รับมือ

เจ้าพระยาเพิ่มสูงจากฝนตกถึง 29 ก.ค.

ผู้ว่าฯกทม.สั่งอุด 20 จุดรับน้ำทะเลหนุน

กรมชลฯ เผยน้ำเหนือยังเพิ่มสูง เตือนประชาชนสองฝั่งเจ้าพระยา 10 จังหวัด-กทม. เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจากฝนตกหนักถึง 29 กรกฎาคม นี้ ด้าน “ชัชชาติ” พร้อมรับมือน้ำหนุน เร่งอุดจุดฟันหลอกว่า 20 จุด

เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน

และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมาก บริเวณลุ่มน้ำน่านและลำน้ำสาขารวมถึงแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำป่าสัก คาดการณ์ว่าใน 1-3 วันข้างหน้าหรือในช่วงนี้ถึงวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,200-1,300 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่สถานี C.19 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที รวมกับปริมาณน้ำท่าจากลำน้ำสาขาอื่นๆ อีกประมาณ 150 ลบ.ม.ต่อวินาที

ทั้งนี้ ส่งผลให้ปริมาณน้ำที่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,450-1,550 ลบ.ม.ต่อวินาที มีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ในอัตราระหว่าง 1,000-1,250 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.50 เมตร ได้แก่ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน หากมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีกจะแจ้งให้ทราบต่อไป

อย่างไรก็ดี กรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมกับแจ้งเตือน 11 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม.รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แจ้งเตือนบริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้น และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันเดียวกัน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงการรับมือสถานการณ์น้ำทะเลหนุนสูงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคมนี้ ว่าจะมีการสร้างเขื่อนริมน้ำ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 88 กิโลเมตร แต่มีจุดที่เป็นฟันหลอประมาณกว่า 20 จุด โดยปีนี้ได้รับงบประมาณดำเนินการ13 จุด อยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ได้เตรียมกระสอบทรายไว้อุดจุดที่ฟันหลอแล้ว ยอมรับว่ามีบางจุดที่ยังมีปัญหา เช่น ทรงวาด ตลาดน้อย ที่เอกชนยังไม่เข้าดำเนินการ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อม และได้เน้นย้ำให้เฝ้าระวังจุดฟันหลอแล้ว เพราะจุดดังกล่าวถึงแม้สถานการณ์น้ำน้อยก็สามารถเอ่อท่วมได้

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า สถานการณ์น้ำหนุนขณะนี้ยังไม่น่าเป็นเป็นห่วง เพราะมีการเตรียมตัวตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ในจุดที่เป็นของเอกชน ซึ่งยังเข้าดำเนินการไม่ได้ ต้องไปดูว่าสามารถตีเขื่อนล้อมได้หรือไม่ เพื่อไม่ให้น้ำเอ่อท่วมบ้านของประชาชน และยอมรับว่า 13 จุดฟันหลอไม่สามารถดำเนินการทำแนวกั้นได้เสร็จทันในฤดูฝนนี้ แต่ในสัญญาของผู้รับเหมาระบุให้เตรียมการรับมือไว้ด้วย พร้อมยืนยันว่าไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณ แต่เป็นเรื่องเวลาที่มีจำกัด โดยเฉพาะระเบียบขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้าง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลใจในช่วงวันหยุดยาวนี้ ขอให้หยุดพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เพราะ กทม.จะดูแลบริหารจัดการแก้ปัญหาน้ำฝนอย่างเต็มที่ซึ่งขณะนี้ก็ได้กองทัพที่เข้ามาช่วยขุดลอกท่อแล้ว ตั้งแต่พื้นที่คลองลาดพร้าวจนถึงคลองบางบัว โดยจะพร่องน้ำช่วงกลางคืน -70 เซนติเมตรถึง -90 เซนติเมตร แต่ช่วงเช้าก็ปล่อยให้เดินเรือตามปกติ หากฝนตกหนักไม่มากก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว