“ในปี 2560 สุโขทัยมีประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขั้นไป 37.2% ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับ 10 ของประเทศ และอันดับ 2 ของภาคเหนือตอนล่าง แม้ว่าในปี 2564 จะลดลงมาอยู่ที่ 30.0%) แต่ก็ยังมากกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ (28.0%) นอกจากนี้ ประชากรวัยรุ่น อายุ 15-19 ปี ของสุโขทัย มีอัตราการดื่ม เท่ากับ 19.6% ซึ่งสูงกว่าอัตราชุกระดับประเทศซึ่งอยู่ที่ 13.6% อยู่ในลำดับที่ 3 ของประเทศ”
พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา เจ้าอาวาสวัดคลองกระจง อ.สวรรคโลก และผู้ประสานงานเครือข่ายงดเหล้าจังหวัดสุโขทัย กล่าวในเวทีโครงการประชาคมลดปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และปัจจัยเสี่ยงจังหวัดสุโขทัย ปี 2565 ซึ่งเพิ่งจัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ลิฟวิว รีสอร์ท อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย ถึงสถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน จ.สุโขทัย และที่น่าเป็นห่วงคือ “สัดส่วนการดื่มแล้วขับขี่ยานพาหนะ จังหวัดสุโขทัย อยู่ที่ร้อยละ 62.6 สูงเป็นอันดับ 7 ของประเทศ” และอันดับ 2 ของภาคเหนือตอนล่าง อีกทั้งยังพบสถานบันเทิงปล่อยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการ
ในเวทีครั้งนี้ซึ่งคณะทำงานจาก สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ลงพื้นที่ติดตามการทำงานและรับฟังข้อเสนอแนะของเครือข่ายองค์กรงดเหล้า พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา ได้กล่าวต่อไปว่า การดำเนินงานนอกจากรณรงค์ ลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญประเพณีแล้ว ยังมุ่งเป้าป้องกันไม่ให้มีนักดื่มหน้าใหม่โดยเฉพาะในเยาวชนอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ในการทำงานที่ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานภาคราชการ “นอกจากประเด็นเรื่อง ลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว อยากจะขยายและหาแนวร่วมการทำงานมากขึ้น ไม่เฉพาะเรื่องแอลกอฮอล์อย่างเดียว” จึงเห็นพ้องกันในการวางเป้าหมายต่อไป คือ “การเป็นอำเภอสร้างสุข” ขณะเดียวกันยังมองว่า เยาวชนเป็นอนาคตของชาติและเป็นอนาคตของชุมชน จึงเปิดรับข้อเสนอหรือแนวคิดจากเยาวชนในพื้นที่ว่า อนาคตเขาอยากให้พื้นที่ของเขาเป็นพื้นที่ที่มีความสุขในมิติใดบ้าง
“จากข้อเสนอดังกล่าว นำไปสู่การสรุปเป็นกรอบการทำงานได้ 4 แนวทาง คือ 1.ส่งเสริมให้ประชาชน ลด ละ เลิก การดื่มสุรา สูบบุหรี่และปลอดอบายมุขและลดนักดื่มหน้าใหม่ 2.ส่งเสริมงานบุญประเพณีสร้างสุขให้ปลอดเหล้าและสิ่งอบายมุขทุกประเภท 3.เกิดความปลอดภัยของคนใช้รถใช้ถนน ปลอดจากอุบัติเหตุ และ 4.ลดจำนวนขยะมูลฝอยจนนำไปสู่อำเภอสวรรคโลกปลอดขยะ” พระครูสุมณฑ์ธรรมธาดา กล่าว
นายจิรชาติ นาคสวัสดิ์ นายอำเภอสวรรคโลก จ.สุโขทัย กล่าวว่า การที่นำเอาข้อเสนอแนะของเยาวชนในพื้นที่มาเป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงาน เพราะต้องรับฟังคนรุ่นใหม่ เพราะพวกเขา คือ อนาคตของชุมชน ทั้งนี้ ในการณรงค์ลดละเลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลุ่มเป้าหมายสำคัญเน้นไปที่เด็กนักเรียน เยาวชนพยายามสกัดนักดื่มหน้าใหม่ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมาย การจัดระเบียบสังคมเรื่องของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในเรื่องของสภาวะแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ ในชุมชน “การที่จะทำให้ยั่งยืนได้ต้องทำในคนรุ่นต่อไปซึ่งก็คือเด็กและเยาวชน” นอกจากที่จะป้องกันนักดื่มหน้าใหม่แล้วยังให้เขาเป็นกลไกหลักในการทำงานขับเคลื่อนร่วมกัน สร้างความรู้ความเข้าใจให้เยาวชนเข้าใจ ใน 4 ภารกิจหลักแล้วก็ให้มาสานต่อตรงนี้ให้ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการส่งต่อรุ่นต่อไป โดยการทำให้ยั่งยืนนั้นเน้นเรื่องของการทำงานเป็นทีมให้ความสำคัญกับทุกความคิด ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต้องมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ
เช่น กระทรวงมหาดไทย สรรพสามิต กรมการปกครองท้องถิ่น สาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และภาคประชาสังคม ร่วมระดมความคิดมันสมองเป็นหลักเพื่อให้เกิดการระเบิดจากข้างใน เหมือนที่พูดว่า “เมื่อเป็นปัญหาในพื้นที่ คนในพื้นที่ก็ต้องเข้ามาช่วยดูแลแก้ปัญหาด้วยตนเอง” ทั้งในระดับครอบครัว ชุมชน ขยับขึ้นมาในระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอและจังหวัดต่อไป
“จากกรอบทั้ง 4 แนวทาง ได้ร่างคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้การขับเคลื่อนมีทิศทาง ได้ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตรงตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ทั้งเรื่องลดละเลิกอบายมุข ป้องกันนักดื่มหน้าใหม่มีกฎหมายหลายฉบับเข้ามาเกี่ยวข้อง และหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง ฝ่ายการศึกษา สาธารณสุข สรรพสามิตการทำงานมีทั้งเครือข่ายท้องถิ่น หน่วยงานราชการ ภาคประชาสังคม ช่วยกันขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งสร้างจิตสำนึกให้กับเด็กเยาวชน ให้มีความรู้ ความเข้าใจใน 4 แนวทาง ของโครงการอำเภอสวรรคโลกสร้างสุข ตรงนี้ก็จะยั่งยืนและมีความต่อเนื่องในอนาคต” นายจิรชาติ กล่าว
นายศรีสุวรรณ ควรขจร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส. กล่าวว่า อำเภอสวรรคโลก เป็นพื้นที่น่าสนใจ ซึ่งน่าจะเป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้ เป็นแบบอย่างที่ดีได้ในอนาคต ทั้งนี้ การนำข้อเสนอของเด็กมาเป็นกรอบในการทำงาน เป็นเรื่องที่ดี ซึ่งเป็นการสะท้อนว่าเยาวชนในพื้นที่มีการตอบสนองต่อปัญหาท้องถิ่น เขาอยากเห็นอะไรในอนาคต ผู้ใหญ่หรือหน่วยงานราชการในท้องถิ่นก็ตอบสนอง โดยไม่ได้รอคำสั่งมาจากส่วนกลาง
ซึ่งปัญหาในท้องถิ่น หน่วยงานราชการก็พยายามสร้างสรรค์ช่องทางในการดำเนินงานในการตอบโจทย์ของท้องถิ่นตนเอง แน่นอนว่าหน่วยงานราชการก็มีหน่วยชี้วัด หรือ KPI เป้าหมายในการทำงานที่ได้รับมอบหมายจากส่วนกลาง แต่ที่นี่กลับสามารถนำมาบูรณาการให้ทำงานร่วมกันได้ ส่วนประชาสังคมก็ลงไปช่วยชาวบ้าน เกิดเป็นภาพความสามัคคี มีวิธีการทำงานร่วมกันที่ตอบโจทย์การป้องกันปัจจัยเสี่ยง ไม่ได้เฉพาะเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่รวมถึงเรื่องอื่นๆ ด้วย ทั้งความปลอดภัยทางถนน ปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพจิต สามารถเชื่อมโยงกันได้ทุกมิติ
“สิ่งที่น่าสนใจ คือ เจ้าหน้าที่ที่ร่วมขับเคลื่อนงาน ส่วนใหญ่เป็นคนในท้องถิ่นของที่นี่ ส่วนหนึ่งเขาไม่ได้ทำเพียงเพื่อสนองต่อนโยบายส่วนกลางเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เขาทำเพื่อบ้านเกิดของตนเอง พื้นที่ที่เขาอยู่ต้องดีกว่านี้ เพราะหลังเกษียณเขาต้องอยู่ที่นี่ หากประเด็นนี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคี การโยกย้ายราชการก็น่าจะคำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย โดยนำคนท้องถิ่นกลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง เพราะสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องกลับมาอยู่ที่นี่ ดังนั้น ควรให้คนท้องถิ่นที่เก่ง มีความรู้ความสามารถและมีความมุ่งมั่นได้กลับมาทำคุณประโยชน์ให้กับท้องถิ่นตนเอง” นายศรีสุวรรณ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี