3 สิงหาคม 2565 จากกรณีอุบัติเหตุรถยนต์และรถกระบะเฉี่ยวชนกันทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา บนถนนเส้นพิษณุโลก-กำแพงเพชร บริเวณโค้งบ้านแหลมเจดีย์ หมู่ 8 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 11 คน เสียชีวิต 2 คน ซึ่งเป็นแม่ลูกกันที่นั่งโดยสารมากับรถยนต์ โดยมีนายวีรนันท์ สีมาน อายุ 29 ปี เป็นคนขับ ส่วนรถกระบะคู่กรณีเป็นรถขนคนงานนั่งมาด้านท้าย ล่าสุดไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลบางระกำ 2 ราย
หลังจากนั้นฝั่งของนายวีรนันท์ ได้โพสต์เรื่องราวความสูญเสียของครอบครัว ที่ต้องมาเสียภรรยาสุดที่รักและลูกสาววัยกำลังน่ารัก สร้างความเศร้าสะเทือนใจน่าเวทนาสงสารเป็นอย่างมาก พร้อมกับขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวด้วย
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ที่วัดทองหลาง หมู่ 1 ต.มะขามสูง อ.เมืองพิษณุโลก พบกับนางมานิตย์ ส้มจีน อายุ 58 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า วันเกิดเหตุนายวีรนันท์ สีมาน ลูกเขย พร้อมกับ น.ส.จารุพร ส้มจีน ลูกสาว และ เด็กหญิงอายุ 3 ขวบ หลานสาว พาครอบครัวไปเยี่ยมปู่กับย่าที่ อ.บางระกำ และขับออกมาซื้อกับข้าวเพื่อไปกินกับครอบครัว
เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถกระบะขับมาด้วยความเร็วสูงพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ จากนั้นได้พุ่งมาชนกับรถยนต์ของลูกเขย ส่งผลทำให้ลูกสาวและหลานสาวเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ โดยตนเองและครอบครัวมาทราบเรื่องจนค่ำแล้ว และทราบว่ารถกระบะคู่กรณีก็มีผู้บาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตในเวลาต่อมา แต่ตำรวจกลับไม่ได้ตรวจแอลกอฮอล์คนขับรถคู่กรณีในทันที ว่ามีอาการมึนเมาขณะขับขี่ด้วยหรือไม่
ตอนนี้ทางลูกเขยสภาพจิตใจก็ย่ำแย่ เพราะว่ามีเสียงต่อว่าทางสื่อโซเชียลเชิงว่าทำไมถึงเอาฝั่งลูกเมียเข้าชนแทนตัวเอง ซึ่งเหตุการณ์ขณะนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วมากและเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สำหรับงานฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้จะมีพิธีฌาปนกิจของหลานสาวก่อน จากนั้นช่วงบ่ายก็จะฌาปนกิจลูกสาวต่อไป ซึ่งทางครอบครัวอยากจะขอความเป็นธรรมให้กับคนตายด้วย เพราะลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร เพราะขณะนี้ทางฝั่งคู่กรณีเองก็ยังไม่ติดต่อมาหรือรับผิดชอบอะไรเลย
ขณะที่ร.ต.อ.พงษ์ศิริ อำไพพิศ ร้อยเวร เจ้าของคดี ได้เชิญตัว นายอุดร ด้วงพิทักษ์ อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีดำ (คู่กรณี) มาสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมชี้ร่องรอยการเฉี่ยวชนโดยประสานตำรวจวิทยาการ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6
เบื้องต้นนายอุดร (คู่กรณี) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดเหตุขึ้นตนเองขับรถมาตามปกติ ความเร็วประมาณ 70 กม./ชม. ทางฝั่งตนบาดเจ็บสาหัส 8 คน เสียชีวิต 2 คน ส่วนตนเองบาดเจ็บเล็กน้อย ยอมรับว่าดื่มแอลกอฮอล์หลังเลิกงานมานิดหน่อย ตำรวจตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แล้วได้ 45 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งไม่เกินที่กฎหมายกำหนด
"ตนก็อยากจะกล่าวขอโทษกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก อยากจะไปร่วมงานศพแต่ฝั่งครอบครัวคู่กรณีคงโกรธตนอยู่ ส่วนฝั่งลูกน้องของตนเองที่เสียชีวิตก็ไปดูแลเยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และทำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ก่อนจะดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป" นายอุดร (คู่กรณี) กล่าว