จากกรณีมีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ เเมวเหมียว ในเมืองหนาว ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ขณะคนร้ายเป็นชาย 1 คนสวมเสื้อกันฝนปีนรั้วเข้ามาขโมยของภายในร้านขายน้ำ พร้อมโพสต์ข้อความว่า #ขโมย อดยาก# ครั้งนี้เข้ามาขโมยผงโกโก้และครีมเมอร์ ก่อนหน้านี้ก็สายชาร์จโทรศัพท์ คัตเตอร์ มีด กรรไกร รถมอเตอร์ไซค์ เหรียญจากเครื่องซักผ้า คุณโจรคะที่บ้านยังขาดอะไรอีกไหมคะ
วันนี้ (3 ส.ค.65) ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ร้านชาไข่มุกแห่งหนึ่งภายในซอยวัดไผ่เหลือง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบกับ น.ส.ภัทราพร สงกรด อายุ 49 ปี เจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้โพสต์ เปิดเผยว่า มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน เข้ามาขโมยของภายในร้านแค่เดือนเดียวโดนไป 4 ครั้ง คนร้ายคนเดิมและชอบมาในคืนฝนตกครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 ปีนรั้วเข้ามาภายในร้านขโมย มีดคัดเตอร์ สายชาร์จโทรศัพท์ ของเล็กๆ น้อย ๆ ครั้งแรกไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี
ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 18 ก.ค.65 ห่างกันแค่ 7 วันคนร้ายคนเดิม ปีนรั้วเข้ามาในร้านอีก แต่ครั้งนี้ไม่ได้อะไรไป ก่อนจะปีนรั้วข้ามออกไปและใช้ครีมตัดเหล็กที่เตรียมมาตัดกุญแจคล้องประตูรั้วเข้าไปขโมยรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ ขับหลบหนีไปครั้งนี้ได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.บางบัวทอง พร้อมกับขอดูกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านก็พบว่าคนร้ายที่เข้ามาลักรถเป็นชาย 1 คน
ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 20 ก.ค.65 ห่างกันแค่ 2 วัน คนร้ายคนเดิมกลับมาอีก ครั้งนี้ใช้ครีมตัดเหล็กเข้ามาตัดกุญแจตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ตั้งไว้หน้าบ้านได้เงินไปอีกจำนวนหนึ่ง จึงตัดสินใจติดตั้งกล้องวงจรปิดเองเพราะเกิดเหตุแต่ละครั้งต้องไปขอดูภาพจากเพื่อนบ้าน จนกระทั่งล่าสุดครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 1 ส.ค.65 เวลา 23.50 น.คนร้ายคนเดิมสวมเสื้อกันฝนเดินฝ่าสายฝนที่กำลังตกปีนรั้วเข้ามาขโมยของภายในร้านอีกครั้งได้อุปกรณ์การชงเครื่องดื่มไป ซึ่งครั้งนี้กล้องสามารถบันทึกพฤติกรรมการก่อเหตุไว้ได้อย่างชัดเจน
น.ส.ภัทราพร กล่าวอีกว่า คนร้ายคนนี้เข้ามาก่อเหตุที่ร้านของตนเดือนเดียวรวมแล้ว 4 ครั้ง แต่ละครั้งจะมาในคืนที่มีฝนตกและสวมเสื้อกันฝนเข้ามาก่อเหตุทุกครั้ง ตอนนี้คนที่นอนอยู่ที่ร้านพอฝนตกไม่เป็นอันหลับอันนอน ต้องคอยตื่นขึ้นมาดูตลอดเกรงว่าคนร้ายกลับเข้ามาก่อเหตุอีก และที่เจ็บใจมากที่สุดขนาดฝนตกยังมีความพยายามที่จะเข้ามาขโมยของโดยใส่เสื้อกันฝนเข้ามาก่อเหตุสงสัยคงกลัวไม่สบาย แต่กลับไม่กลัวถูกจับติดคุก จึงได้นำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปโพสต์ลงเฟสบุ๊คส่วนตัวเพื่อเตือนภัยให้ระวังโจรคนดังกล่าว
"ครั้งนี้จะไม่ไปแจ้งความ เพราะเคยไปเเจ้งความแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด อีกอย่างโรงพักกับที่ร้านก็อยู่ไกลกันพอสมควร ถ้าไปแจ้งความแล้วเรื่องจะเงียบอีกก็จะเสียความรู้สึกเปล่าๆ ตอนนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ส่งตำรวจสายตรวจมาลงพื้นที่กวดขันให้มากกว่านี้ และขอให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด" น.ส.ภัทราพร กล่าว - 003