‘สมศักดิ์’จี้‘กรมราชทัณฑ์-คุมประพฤติ’บูรณาการร่วม ส่งผู้ต้องขัง 1 พันคน ทำงานให้ทันความต้องการเอกชนกว่า 50 บริษัท เล็งตั้ง‘กรม’ใหม่เพื่อความรวดเร็ว
4 สิงหาคม 2565 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ ว่า ตนได้เรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการส่งผู้ต้องขังออกไปทำงาน พร้อมสั่งการให้บูรณาการร่วมกับกรมคุมประพฤติ ที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องกำไลอีเอ็ม (EM) ว่า เราจะแก้ปัญหาที่สุมเอาไว้ คือ ผู้ต้องขังจำนวนไม่น้อยเมื่อพ้นโทษก็จะออกไปทำผิดซ้ำ ดังนั้นกระทรวงยุติธรรม ต้องปรับเป็นกระทรวงกึ่งหางาน เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับผู้ต้องขังที่ใกล้จะพ้นโทษแล้ว เพราะจากข้อมูลพบว่าสาเหตุที่ผู้พ้นโทษกลับไปทำผิดซ้ำ เนื่อง จากไม่มีงานทำ สังคมไม่ยอมรับ จึงเลือกทางผิดแบบเดิม
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้เราสามารถส่งผู้ต้องขังใส่กำไลอีเอ็มออกไปทำงานได้แล้ว แต่ยังได้จำนวนไม่มาก จึงต้องเร่งให้กรมราชทัณฑ์ พิจารณาผู้ต้องขังให้ทันต่อความต้องการของผู้ประกอบการ เพราะขณะนี้มีผู้ประกอบการกว่า 50 บริษัท ต้องการจ้างงานกว่า 1 พันคน ดังนั้นต้องรีบประสานกรมคุมประพฤติ ให้เตรียมพร้อมเรื่องกำไลอีเอ็ม และประสานกับผู้ประกอบการล่วงหน้า ซึ่งกรมราชทัณฑ์ ต้องพยายามลดขั้นตอน และทุกอย่างจะเร็วขึ้น
“ขณะนี้เรามีองค์กรที่พร้อม เพรียง แต่ยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้เร็ว โดยในตอนต้นคนยังไม่เยอะ เรายังสามารถบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานไหว แต่ถ้าเริ่มมีอัตราการจ้างงานที่สูงก็อาจจะต้องตั้งเป็นกรม เพื่อให้มีการบริหารจัดการที่เป็นระบบมากขึ้นและรวดเร็ว แต่ตอนนี้ผมอยากให้ดึงภาคเอกชนเข้ามาช่วยเหลือก่อน ซึ่งจะทำให้การทำงานของเราเร็วขึ้นมาก ส่วนอนาคตหากกำไลอีเอ็มไม่เพียงพอ ก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาว่าเราจะทำลักษณะใดได้บ้าง เพราะผมต้องการแก้ปัญหานี้แบบยั่งยืน โดยหากผู้ต้องขังมีงานทำในช่วงใกล้พ้นโทษ ก็จะมีเงินทุนติดตัวไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ จะช่วยลดการกลับไปกระทำผิดซ้ำได้อย่างเป็นรูปธรรม” นายสมศักดิ์ กล่าว
-005