สธ.รายงานยอดเสียชีวิตโควิดรายวันสูงขึ้นอยู่ที่ 34 ศพ ติดเชื้อใหม่เข้ารักษาตัวใน รพ. 2,253 คนปอดอักเสบสูงถึง 911 ราย “หมอมนูญ” เผยพบผู้ป่วยโควิดติดเชื้อ ครั้งที่ 2 ห่างจากรักษาหาย19 วัน อาการหนักกว่าเดิม ขณะที่ผู้ป่วยโควิดที่ใช้สิทธิประกันสังคมรับยา “เจอ แจก จบ”จากร้านยาในเครือ สปสช.ทั่วประเทศได้แล้ว
เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขสรุปสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประจำวัน โดยข้อมูลการติดเชื้อประจำวันที่ 5 สิงหาคม มีผู้ป่วยรายใหม่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) มี 2,253 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 2,253 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,377,543 ราย สำหรับจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 911 ราย ขณะที่ผู้หายป่วยกลับบ้าน 2,483 ราย ทำให้มีผู้หายป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2,379,845 ราย กำลังรักษา 21,113 ราย และมีผู้เสียชีวิต 34 ศพ เสียชีวิตสะสม 9,828 ศพนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม
ติดโควิดซ้ำหลังหาย19วันอาการหนัก
ด้าน นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธโพสต์เฟซบุ๊กให้ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19ว่าพบผู้ป่วยติดโควิดเป็นครั้งที่ 2 ห่างกันเพียงไม่กี่วัน โดยไวรัสโควิด-19 ติดครั้งที่ 2 ห่างกัน19วัน ผู้ป่วยชายไทยอายุ67ปี มาโรงพยาบาลด้วยไข้ไอ มีเสมหะ10 วัน ประวัติเดินทางไปเที่ยวประเทศอิตาลี ขึ้นเครื่องบินวันที่ 20 มิถุนายน 2565 หลังเดินทางไปถึงอิตาลี 4 วัน วันที่ 24 มิถุนายน เริ่มมีอาการไข้ ไอ เสมหะ ตรวจ ATKเองได้ผลบวก ภรรยาที่ไปด้วย มีอาการคล้ายกันและตรวจ ATKให้ผลบวกเหมือนกันทั้งสองคน กินฟ้าทะลายโจร อาการดีขึ้นหายเป็นปกติ เดินทางกลับถึงไทยวันที่ 9 กรกฎาคม หลังกลับถึงกรุงเทพ 4 วัน วันที่13 กรกฎาคม เริ่มมีอาการ ไข้ ไอและมีเสมหะอีก ตรวจ ATK เองให้ผลลบ กินยาปฏิชีวนะไม่ดีขึ้น ผู้ป่วยมีไข้ ไอ มีเสมหะต่อเนื่อง 10 วัน เริ่มเหนื่อย ผู้ป่วยเคยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองรักษาหายแล้ว หยุดยาทุกอย่าง 5 ปี ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ 1 ข็ม
นพ.มนูญกล่าวต่อว่า จากการตรวจร่างกาย มีไข้อุณหภูมิ 39.5 องศาเซลเซียส ฟังปอดผิดปกติทั้ง 2 ข้าง เอกซเรย์ปอดมีฝ้าขาวที่ปอดด้านซ้ายมากกว่าด้านขวา ระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วต่ำเล็กน้อย 94 ตรวจ ATK และ RT-PCR SARS-CoV2 ให้ผลบวก ค่า RdRp/N-gene (CT Value) 17.4 ส่งตรวจ respiratory virus และ bacteria PCR panel ไม่พบไวรัส และแบคทีเรียตัวอื่นที่ทำให้เกิดปอดอักเสบ ตรวจไม่พบเชื้อวัณโรคทั้งนี้ แพทย์วินิจฉัยเป็นปอดอักเสบจากการติดเชื้อโควิด ครั้งที่ 2 ให้ยาฉีดเรมเดซิเวียร์ (remdesivir) 5 วัน และเสตียรอยด์ทางหลอดเลือด คนไข้ดีขึ้น ไข้ลง ไอน้อยลง ไม่เหนื่อย เอกซเรย์ปอดดีขึ้น หยุดใช้ออกซิเจน ระดับออกซิเจนในเลือดกลับมาปกติ
“ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อโควิด 2 ครั้งห่างกันเพียง 19 วัน เชื่อว่าติดเชื้อต่างสายพันธุ์ระหว่างเดินทางในเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เพราะเวลากินอาหารในเครื่องบินต้องถอดหน้ากากอนามัย ติดเชื้อครั้งที่ 2 รุนแรงกว่าติดเชื้อครั้งแรก ทั้งๆที่ผู้ป่วยได้รับวัคซีน 3 เข็มแล้ว แต่ผู้ป่วยอาจมีภูมิคุ้มกันไม่ดี เนื่องจากเคยป่วยเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ถึงแม้จะรักษาหายขาด 5 ปีแล้วก็ตาม”นพ.มนูญกล่าว
‘ประกันสังคม’รับยาร้านยาได้แล้ว
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดได้ทั่วถึงรวดเร็ว ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมสั่งการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดระบบสำหรับผู้ป่วยสิทธิประกันสังคม (อาการไม่รุนแรง) สามารถรับยาโควิดแบบเจอ-แจก-จบ จากร้านยาที่ร่วมโครงการกับสปสช.ทั่วประเทศได้แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เปิดรับเฉพาะผู้ป่วยโควิดสิทธิบัตรทองเท่านั้น
สำหรับขั้นตอนรับยาที่ร้านยานั้น เมื่อผู้ที่ตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีด ทั้งสิทธิประกันสังคมและสิทธิบัตรทอง 30 บาท ไม่มีอาการหรืออาการไม่รุนแรง ไม่ใช่ผู้พิการหรือผู้ป่วยติดเตียงและไม่ใช่กลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด ไตวายเรื้อรัง หลอดเลือดสมอง โรคอ้วน มะเร็ง และเบาหวานและหญิงตั้งครรภ์ ให้โทรศัพท์ติดต่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อส่งผลตรวจ ATK คู่กับบัตรประชาชนผ่านไลน์ร้านยา โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ร้านยา ร้านยาซักประวัติข้อมูลทั่วไป แนะนำให้คำปรึกษาการใช้ยา ไม่จัดส่งยาทางไปรษณีย์ ผู้ป่วยไม่ควรมารับยาที่ร้านเอง แนะนำให้ญาติหรือคนอื่นมารับแทน ทั้งนี้ ผู้ป่วยโควิดทั้งสิทธิประกันสังคมและสิทธิบัตรทองตรวจสอบรายชื่อร้านยาที่เข้าร่วมโครงการกับ สปสช.ได้ที่ https://www.nhso.go.th/downloads/197
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
โคมาพุ่งย้ำกลุ่มเสี่ยงฉีดเข็มกระตุ้น
ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมติดตามสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะตัวเลขผู้ป่วยอาการหนักและเสียชีวิตที่มีนัยยะเพิ่มขึ้น ซึ่งรายงานพบว่าส่วนใหญ่ของผู้อาการหนักและเสียชีวิตยังไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นและอยู่ในกลุ่ม 608 จึงขอให้ประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่ม 608 และเด็กนักเรียนเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ครอบคลุมมากขึ้น ขณะนี้สถานพยาบาลภาครัฐและเอกชนหลายแห่งเปิด walk in เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนฟรีสำหรับประชาชนแล้ว
กำชับอย่าซื้อยาเถื่อนรักษาโควิด
พร้อมกันนี้ นายกฯยังย้ำไปถึงประชนให้หลีกเลี่ยงการซื้อยาเถื่อนรักษาโควิด-19 มารับประทานเอง เพราะหากได้รับยาที่ไม่มีคุณภาพทำให้เกิดการดื้อยา และไม่หายจากการเจ็บป่วย รวมทั้งยังเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นส่งผลถึงชีวิตได้ และขอเตือนผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยารักษาโควิดโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ต้องรับโทษทั้งปรับและจำคุก ซึ่งหากตรวจพบเจ้าหน้าที่ จะมีการดำเนินคดีถึงที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี