วันอังคาร ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เจอแต่ยังจ่ายไม่จบ! ‘กสม.’ถอดบทเรียน‘ประกันโควิด’ แนะผู้เกี่ยวข้องเร่งเยียวยา-ออกมาตรการล้อมคอก

เจอแต่ยังจ่ายไม่จบ! ‘กสม.’ถอดบทเรียน‘ประกันโควิด’ แนะผู้เกี่ยวข้องเร่งเยียวยา-ออกมาตรการล้อมคอก

วันศุกร์ ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567, 14.08 น.
Tag : กสม. โควิด แนวหน้าออนไลน์ ประกันภัยโควิด เยียวยาโควิด
  •  

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2567 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ร้องรายหนึ่ง เมื่อเดือนสิงหาคม 2565 และเดือนมกราคม 2566 ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้เห็นชอบให้บริษัทประกันวินาศภัยขายกรมธรรม์ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ และปล่อยให้บริษัทประกันวินาศภัย 5 แห่ง ขายกรมธรรม์จนประสบปัญหาการจ่ายค่าสินไหมทดแทน 

ต่อมาบริษัทประกันวินาศภัย 4 แห่ง ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ คปภ. จึงได้แต่งตั้งกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) เป็นผู้ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยของบริษัททั้งสี่ ผู้ร้องเห็นว่า คปภ. คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ กปว. คณะกรรมการบริหารกองทุนประกันวินาศภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการกำกับดูแลการดำเนินธุรกิจดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเหมาะสมและเพียงพอเพื่อปกป้องและคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค 

เมื่อผู้ร้องติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และได้ยื่นเอกสารเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากกรมธรรม์ประกันภัยประเภท “เจอจ่ายจบ” ผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัทประกันวินาศภัย 4 แห่งที่ได้ซื้อกรมธรรม์ไว้ ซึ่งต่อมาผู้ร้องต้องยื่นคำทวงหนี้ค่าสินไหมทดแทนต่อ กปว. แทนนั้น ผู้ร้องได้สอบถามความคืบหน้าไปยัง กปว. หลายครั้งแต่ไม่เคยได้รับแจ้ง และเห็นว่าการชำระหนี้คืนเป็นไปด้วยความล่าช้า จึงขอให้ตรวจสอบ

ซึ่ง กสม. ได้พิจารณาข้อเท็จจริงจากทุกฝ่าย หลักกฎหมาย และหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รับรองให้บุคคลมีสิทธิได้รับทราบและเข้าถึงข้อมูลในครอบครองของหน่วยงานของรัฐ เสนอเรื่องราวร้องทุกข์และได้รับแจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว และรับรองสิทธิของผู้บริโภค โดยรัฐต้องจัดให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพในการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค 

จากการตรวจสอบปรากฏข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่ปี 2563 - 2565 บริษัทประกันวินาศภัย 36 แห่ง ได้ขายกรมธรรม์ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รวมประมาณ 50 ล้านฉบับ โดยมี คปภ. เป็นผู้ให้ความเห็นชอบแบบ ข้อความ และอัตราเบี้ยประกันภัย ภายหลังปรากฏว่า มีผู้เอาประกันภัยจำนวนมากไม่ได้รับความสะดวกในการขอค่าสินไหมทดแทน มีการปฏิเสธการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือบอกเลิกสัญญากรณีตามคำร้องนี้เมื่อบริษัทประกันวินาศภัย 4 แห่ง จาก 5 แห่ง ไม่สามารถชำระค่าสินไหมทดแทนได้และถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 

โดย คปภ. ได้แต่งตั้ง กปว. เป็นผู้ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้แทนนั้น ปรากฏว่า มีผู้มายื่นคำทวงหนี้จาก กปว. กว่า 683,000 ราย รวมเป็นเงินมากกว่า 60,000 ล้านบาท แต่เงินกองทุนของ กปว. มีไม่เพียงพอ และมีข้อจำกัดที่ทำให้ไม่สามารถกู้เงินเพื่อนำมาชำระหนี้ได้ ส่งผลให้อาจต้องใช้เวลาถึง 40 ปี จึงจะชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยทุกรายได้ ขณะที่บริษัทประกันวินาศภัยแห่งที่ 5 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจ มีคำสั่งให้บริษัทประกันวินาศภัยแห่งที่ 5 หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ดี การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หากผู้เอาประกันภัยยื่นเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง บริษัทยังสามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนได้ โดยจากข้อเท็จจริงดังกล่าว มีประเด็นที่ต้องพิจารณา 3 ประเด็น ดังนี้ 

ประเด็นที่ 1 กรณีที่บริษัทประกันวินาศภัย 5 แห่ง เสนอขายกรมธรรม์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เห็นว่า บริษัทประกันวินาศภัยย่อมเห็นความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ แต่ยังคงขายกรมธรรม์ประกันภัยดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และประกอบกิจการโดยไม่มีมาตรการรองรับความเสี่ยงหรือประเมินความสามารถในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของตน จนไม่สามารถจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย จึงเป็นการดำเนินการที่กระทบสิทธิของผู้บริโภค 

อีกทั้งยังไม่เป็นไปตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UNGPs) จึงเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทประกันวินาศภัย 4 แห่ง ถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ กสม. จึงไม่อาจมีข้อเสนอแนะไปยังบริษัททั้งสี่ได้ แต่เห็นควรมีข้อเสนอแนะในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อบริษัทประกันวินาศภัยแห่งที่ 5

ประเด็นที่ 2 กรณีที่ คปภ. และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ให้ความเห็นชอบกรมธรรม์ประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แต่ไม่มีการกำกับดูแลบริษัทประกันวินาศภัยอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้บริษัทประกันวินาศภัย 4 แห่ง ถูกเพิกถอนใบอนุญาต และผู้เอาประกันภัยไม่ได้รับความสะดวกในการยื่นเรื่องขอรับค่าสินไหมทดแทนและติดตามเรื่อง เป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ประเด็นที่ 3 กรณีที่กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) และคณะกรรมการบริหารกองทุนประกันวินาศภัย (ผู้ถูกร้องที่ 9) ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยล่าช้า และไม่แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการ เห็นว่า ผู้ถูกร้องทั้งสองมีหน้าที่ต้องจัดให้มีมาตรการหรือกลไกที่มีประสิทธิภาพในการชำระหนี้ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด รวมถึงแจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการแก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัย เพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 รับรองไว้ การที่ กปว. ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยล่าช้าและไม่แจ้งความคืบหน้าในการดำเนินการให้ผู้ร้องทราบ จึงเป็นการกระทำหรือละเลยการกระทำอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ด้วยเหตุผลข้างต้น กสม. ในคราวประชุมด้านการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิมนุษยชน เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2567 จึงมีข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขการละเมิดสิทธิมนุษยชนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปได้ว่า (1) ให้บริษัทประกันวินาศภัยแห่งที่ 5 เร่งชำระค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย และให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ในฐานะนายทะเบียนกำกับดูแลการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ หากบริษัทไม่สามารถชำระค่าสินไหมทดแทนได้ ให้ คปภ. ร่วมกับคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจอย่างเคร่งครัด

(2) ให้ คปภ. และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เร่งแก้ไขพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อกำกับดูแลและเข้าแก้ไขปัญหาการดำเนินกิจการของบริษัทประกันวินาศภัยได้อย่างทันท่วงที โดยกำหนดแนวทางในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนเกี่ยวกับการยื่นขอรับชำระค่าสินไหมทดแทนและมีกระบวนการติดตามเรื่องที่มีประสิทธิภาพ

(3) ให้กองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) และคณะกรรมการบริหารกองทุนประกันวินาศภัย เร่งกู้เงินหรือจัดหาเงินจากสถาบันการเงินตามหน้าที่และอำนาจ เพื่อชำระหนี้ให้แก่ผู้เอาประกันภัย และหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงความเป็นไปได้ในการออกตราสารหนี้และกู้ยืมเงินเพื่อนำมาใช้ในการปรับโครงสร้างหนี้ รวมถึงการเพิ่มอัตราเงินสมทบจากการขายเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย และ (4) ให้กระทรวงการคลังและสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะเร่งพิจารณาจัดหางบประมาณ แหล่งเงินทุน หรือแนวทางการช่วยเหลืออื่น เพื่อให้ กปว. มีเงินเพียงพอสำหรับนำไปชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัย

นอกจากนี้ มีข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ไปยัง คปภ. และคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ให้กำหนดหลักเกณฑ์การให้ความเห็นชอบกรมธรรม์ประกันภัยที่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการชำระค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เอาประกันภัยขึ้นอีกในอนาคต และกำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยจัดทำสรุปรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยที่เสนอขายด้วยถ้อยคำที่เข้าใจได้ง่าย 

รวมทั้ง แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงบการเงินและรายงานการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัย ให้ผู้บริโภคใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อกรมธรรม์ประกันภัย ทั้งนี้ ให้หารือร่วมกับ กปว. เพื่อกำหนดประเภทของเอกสารที่ คปภ. ต้องส่งให้ กปว.โดยเร็วหลังจากมีคำสั่งให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย เพื่อให้ กปว. ใช้ประกอบการพิจารณาชำระบัญชีและชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ผู้เอาประกันภัยได้ภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ทั้งนี้ ยังมีข้อเสนอแนะให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กำหนดนโยบายที่เป็นรูปธรรมและแนวปฏิบัติที่ชัดเจนในการควบคุมดูแลบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ให้ปฏิบัติตามหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยเฉพาะการเยียวยาผู้มีส่วนได้เสียในห่วงโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชน และการป้องกันมิให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนในลักษณะเดียวกันขึ้นอีกในอนาคต
 

---017


เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘ชนินทร์’ถกสภาผู้บริโภค หนุนใช้รายได้ รฟม.อุดหนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ‘ชนินทร์’ถกสภาผู้บริโภค หนุนใช้รายได้ รฟม.อุดหนุนรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย
  • ‘วทบ.รุ่น69’ร่วมส่งกำลังใจสู่แนวหน้า หนุนจนท.ทหารชายแดน ปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่ ‘วทบ.รุ่น69’ร่วมส่งกำลังใจสู่แนวหน้า หนุนจนท.ทหารชายแดน ปกป้องอธิปไตยไทยเต็มที่
  • โควิดติดเชื้อพุ่งแค่สัปดาห์เดียว พรวด1.11แสน  เสียชีวิต31ศพ โควิดติดเชื้อพุ่งแค่สัปดาห์เดียว พรวด1.11แสน เสียชีวิต31ศพ
  • ‘รมว.แรงงาน’ นำทัพ Safe@Work 2025 ชู ‘ความปลอดภัย’ เป็น ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’ ‘รมว.แรงงาน’ นำทัพ Safe@Work 2025 ชู ‘ความปลอดภัย’ เป็น ‘ยุทธศาสตร์ชาติ’
  • โควิด’ป่วยพุ่ง  วันเดียว2หมื่น  ปิดรร.สระแก้ว พบระบาดหนัก โควิด’ป่วยพุ่ง วันเดียว2หมื่น ปิดรร.สระแก้ว พบระบาดหนัก
  • โควิดติดเชื้อพุ่ง หมอจุฬาชี้น่าเป็นห่วง สธ.ยันพร้อมรับมือได้ โควิดติดเชื้อพุ่ง หมอจุฬาชี้น่าเป็นห่วง สธ.ยันพร้อมรับมือได้
  •  

Breaking News

'สุวัจน์'ชูครัวอีสาน อาหารไทยกู้ภัยเศรษฐกิจ

พิชิต'ออฟฟิศซินโดรม' ทางออกสำหรับคนวัยทำงานยุคดิจิทัล

(คลิป) กองทัพอากาศ'ไทย-อินโดนีเซีย' ซ้อมรบร่วม พื้นที่อีสานตอนใต้

(คลิป) ‘อิ๊งค์’ขึงขัง! กร้าวไทยมีศักดิ์ศรี ไม่ยอมถูกข่มขู่

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved