ดับเซ่นโควิด35ศพสะสม3ปี31,730ศพ
ป่วยใหม่2.3พันราย
โคม่า-ใส่ท่อทะลุพัน
ยอดติดเชื้อโควิดรายวันของไทยยังทรงตัวที่ 2,316 คน เสียชีวิตเพิ่ม 35 ศพ ตายสะสมตั้งแต่ปี’63เซ่นโควิดไปแล้ว 3.1 หมื่นศพ เฉพาะระลอกมกราคม 2565ทะลุหมื่นคน ด้านผู้ป่วยปอดอักเสบ 919 ใส่ท่อหายใจ 463 คนรวม 1,382ราย ฉีดวัคซีนสะสมยังได้แค่ 142 ล้านโดส
เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ประจำวันว่า ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 2,316 ราย สะสม 4,614,057 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 35คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 31,730 ราย คิดอัตราการเสียชีวิตเฉลี่ยย้อนหลัง 7 วัน อยู่ที่ 3 รายต่อล้านประชากร เมื่อพิจารณาจำนวนผู้เสียชีวิตในระลอกเดือนมกราคม 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-11 สิงหาคม 2565 ไทยมีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งสิ้น 10,032 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น 35 รายนั้น เป็นเพศชาย 22 ราย หญิง 13 ราย เป็นผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป 28 ราย ต่ำกว่า 60 ปีอีก 7 รายโดยมีประวัติโรคเรื้อรัง เป็นโรคมะเร็ง 2 ราย โรคไต 5 ราย โรคอ้วน 2 ราย หลอดเลือดสมอง 3 ราย หัวใจ 6 ราย และติดเตียง 1 ราย
ขณะที่ผู้ป่วยที่อยู่ในระบบการรักษา 21,304 ราย อาการรุนแรง 919 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 463 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 อยู่ที่ร้อยละ 15.50 อัตราเฉลี่ย 14 วันย้อนหลัง ในผู้ป่วยรายใหม่ 2,142 ราย ผู้ป่วยปอดอักเสบ 919 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 463 ราย คิดเป็นอัตราเสียชีวิตเฉลี่ย 31 ราย
ส่วนข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทยสะสมทั้งหมด 142,056,749 โดส การฉีดวันที่ 10 สิงหาคม จนถึงเวลา 18.00 น. เพิ่มขึ้นรวม 46,799 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 ฉีด 4,924 โดส สะสม 57,181,163 โดส คิดเป็นร้อยละ 82.2 ของประชากร เข็มที่ 2 ฉีด 7,872 โดส สะสม 53,581,538 โดส คิดเป็นร้อยละ 77.0 ของประชากร และ เข็มที่ 3 ฉีด 34,003 โดส สะสม 31,294,048 โดส คิดเป็นร้อยละ 45.0 ของประชากร
ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป ในประชากรเป้าหมาย 12,704,543 คน ฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 10,743,330 โดส คิดเป็นร้อยละ 84.6 ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 10,243,403 โดส คิดเป็นร้อยละ 80.6 และฉีดเข็มที่ 3 แล้ว 6,320,245 โดส คิดเป็นร้อยละ 49.7 ส่วนเด็กอายุ 5-11 ปีประชากรเป้าหมาย 5,150,082 คน ฉีดเข็มที่ 1 แล้ว 3,269,655 โดส คิดเป็นร้อยละ 63.5 ฉีดเข็มที่ 2 แล้ว 2,335,985 โดส คิดเป็น ร้อยละ 45.4 ศบค.ยังรายงานสถานการณ์ระบาดทั่วโลกประจำวันด้วยว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 774,633 ราย สะสมแล้ว 592,129,086 ราย ผู้ป่วยอาการรุนแรง 44,176 ราย ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 2,044 ราย สะสม 6,444,786 ราย ประเทศที่ติดเชื้อใหม่สูงสุดคือ สหรัฐอเมริกา 95,530 ราย สะสม 94,348,507 ราย เสียชีวิตรายใหม่ 429 ราย สะสม 1,060,755 ราย
วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานสถานการณ์ระบาดในต่างประเทศว่า หลายเมืองของจีนประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์และข้อจำกัดครั้งใหม่ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจท้องถิ่น ยกเว้นผู้มีเหตุจำเป็น เช่น ไปตรวจหาเชื้อโควิดหรือไปโรงพยาบาล โดยล่าสุดทางการเมืองอี้วู ศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในมณฑลเจ้อเจียง ทางตะวันออกของจีน ประกาศให้ประชาชนส่วนใหญ่ห้ามออกนอกพื้นที่กำหนด และสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ ยังสั่งปิดสถานที่สาธารณะทั้งหมด 3 วันเช่นกัน ยกเว้นโรงพยาบาลและสถานบริการที่จำเป็น
ขณะที่เขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางตะวันตกของจีน อนุญาตให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 3 เมืองของจังหวัดอักซู ออกจากบ้านไปทำงานได้ แต่ยังคงใช้คำสั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ยกเว้นผู้มีกิจธุระจำเป็นเท่านั้น เช่นเดียวกับ อีกหลายพื้นที่สำคัญในนครอุรุมชีของเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ก็ยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ 5 วัน เริ่มตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ด้านคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานว่า จีนพบผู้ป่วยโควิดรายใหม่ 1,993 คน แบ่งเป็นผู้ป่วยมีอาการ 614 คน และผู้ป่วยไม่แสดงอาการ 1,379 คน แต่ไม่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมมากกว่า 5.84 ล้านคน และผู้เสียชีวิตมากกว่า 24,000 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี