ตัวแทนชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ยังเดินหน้าเคลื่อนไหวติดป้ายรอบหมู่บ้าน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ค้านไม่ให้บริษัทเอกชนเข้าไปสำรวจแร่ หรือตั้งโรงโม่หิน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติเขาคอก แหล่งกำเนิดภูเขาไฟหวั่นทำลายธรรมชาติโบราณสถานและวิถีชีวิต กังวลจะมีการใช้อำนาจหรือช่องโหว่ กม.ลักลอบดำเนินการโดยไม่ฟังเสียงและผลกระทบคนในพื้นที่
11 ส.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนชาวบ้าน หมู่ 1 และหมู่ 15 ต.เขาคอก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ยังเดินหน้าเคลื่อนไหวแสดงพลังคัดค้านไม่ให้มีการเข้าไปสำรวจแร่ ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเขาคอก ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดภูเขาไฟ 1 ใน 6 ลูกของจังหวัด โดยชาวบ้านได้ช่วยกันนำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ และป้ายที่เขียนใส่กระดาษด้วยข้อความต่างๆ ไปติดไว้ริมถนนทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ทางเข้าป่าสาธารณเขาคอก รวมถึงหน้าบ้านของชาวบ้านท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์คัดค้านไม่ให้เข้าไปสำรวจแร่หรือดำเนินการใดๆ ในเขตป่าสงวนเขาคอก ที่จะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ โบราณสถานและวิถีชีวิตของชาวบ้าน
หลังทราบว่ามี 2 บริษัทเอกชน ได้ทำเรื่องขออนุญาตเทศบาลตำบลเขาคอก เพื่อจะนำเครื่องจักรเข้าไปดำเนินการขุดเจาะสำรวจแร่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนเขาคอกดังกล่าว เมื่อต้นเดือน ก.ค.2565ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดให้ชาวบ้านทราบชัดเจนว่าสำรวจหาแร่อะไร แต่จากข้อมูลทราบว่าทั้ง 2 บริษัทประกอบกิจการเกี่ยวกับโรงโม่หิน ยิ่งทำให้ชาวบ้านกังวลว่าจะมีการเข้ามาสัมปทานระเบิดหิน หรือตั้งโรงโมหินในพื้นที่จึงอยากให้ทางจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณายกเลิกการสำรวจแร่หรือดำเนินการใดๆ ที่จะกระทบกับทรัพยากรธรรมชาติ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านด้วย
น.ส.ศุภรัตน์ พิมซันน์ ตัวแทนชาวบ้าน บอกว่าที่ชาวบ้านพากันนำป้ายมาติดในครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าไม่ต้องการให้ทั้ง 2 บริษัทเข้ามาสำรวจใดๆ ทั้งสิ้นในเขตป่าเขาคอกและที่ต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เพราะกังวลว่าจะมีการใช้อำนาจหรือช่องโหว่ของกฎหมายดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ที่จะเป็นการทำลายป่าโดยไม่สนผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เพราะตอนนี้ก็เริ่มมีบุคคลเข้าไปลักลอบตัดไม้ในเขตป่า ซึ่งอาจจะเป็นขบวนการที่ต้องการทำให้ป่าเสื่อมโทรม เพื่อจะได้เข้าไปสัมปทานหรือดำเนินการกิจการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนั้นชาวบ้านจึงได้ร่วมกันออกมาคัดค้านเพราะต้องการจะรักษาผืนป่านี้เอาไว้ให้คงความอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม แต่หากมีการสำรวจแร่หรือทำเหมืองหินก็จะกระทบทั้งผืนป่า โบราณสถาน และวิถีชีวิตของชาวบ้านแน่นอน
ขณะที่ น.ส.จิราภรณ์ นามประโคน ชาวบ้านอีกคน บอกว่า ผืนป่าแห่งนี้เปรียบเสมือนแหล่งทำมาหากินของชาวบ้าน เพราะในผืนป่ามีทั้งเห็ด ผักป่า พืชสมุนไพร ที่สามารถเข้าไปเก็บประกอบอาชีพบริโภคเหลือก็แบ่งปันเพื่อนบ้านและขายเป็นรายได้ในอีกทางหนึ่ง จึงอยากจะให้อนุรักษ์ไว้ไปจนถึงรุ่นลูกหลาน แต่หากไม่มีผืนป่าตรงนี้ชาวบ้านก็จะไม่มีแหล่งอาศัยหากิน จึงไม่อยากให้มีการสำรวจขุดเจาะที่จะเป็นการทรัพยากรป่าไม้และกระทบวิถีชีวิตชาวบ้าน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี