สาวนครพนมแสบเช่ารถจากร้อยเอ็ด เมื่อครบกำหนดกลับไม่ยอมส่งคืน ตามเช็ค GPS ไปเจอจอดซุกในบ้านอดีตตำรวจ แถมปลอมแปลงเอกสารครอบครองรถเป็นชื่อของตัวเองอ้างถูกเอามาจำนำ 1.5 แสนบาท พอนัดส่งมอบคืนกลับแอบตัดสัญญาณเคลื่อนย้ายรถหนีไปเก็บไว้อีกอำเภอ โชคดีติด GPS ไว้ถึง 4 ตัว สุดท้ายตามคืนมาได้ แถมถูกสับทะเบียน คาดเตรียมส่งข้ามฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 เวลา 10.00 น. น.ส.ณิชาภา มหาวณิชธนัญญู อายุ 34 ปี ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.นิธิมา เวียงสมุทร อายุ 39 ปี เจ้าของบริษัท VIP 101 จำกัด เลขที่ 83 หมู่ 5 บ้านจานทุ่ง ต.ดินดำ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบริษัทให้เช่ารถยนต์ในเครือบริษัทไอลินออโต้คาร์ จ.สระบุรี นำเอกสารการครอบครองรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น C-HR สีขาว ทะเบียน 9 กฎ 5622 กรุงเทพมหานคร ที่ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.สมัย มงคลชู สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองร้อยเอ็ด กรณีดำเนินคดีกับ น.ส.ณัฐกัญญา อายุ 38 ปี ชาวจ.นครพนม ในข้อหายักยอกทรัพย์รถยนต์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 บริเวณลานจอดรถห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาร้อยเอ็ด เข้าแสดงต่อ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จวนครพนม รักษาการ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม
สืบเนื่องจากวันที่ 30 กรกฎาคม 2565 น.ส.ณัฐกัญญา ได้เดินทางมาขอเช่ารถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น C-HR สีขาว ทะเบียน 9 กฎ 5622 กรุงเทพมหานคร เป็นเวลา 2 วัน โดยอ้างว่ารถยนต์ของตนเองเข้าอู่ซ่อม จึงมีความต้องการรถยนต์ไปใช้งานในพื้นที่ จ.นครพนม ปรากฏว่าหลังส่งมอบรถที่ห้างบิ๊กซีแล้ว น.ส.ณัฐกัญญาผู้เช่าได้นำรถไปโดยไม่ยอมส่งคืนตามที่ระบุไว้ แต่ในตัวรถได้ติดตั้งสัญญาณ GPS ไว้รวม 4 ตัว ทำให้สามารถรู้พิกัดว่ารถอยู่ในพื้นที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม วันที่ 10 ส.ค.จึงเดินทางจาก จ.ร้อยเอ็ด เพื่อขอรถยนต์ส่งคืนบริษัท พบว่ารถจอดอยู่ในบ้านของนายวิชัย (สงวนนามสกุล) อดีตข้าราชการตำรวจบำนาญ ตนจึงนำเอกสารการครอบครองรถแสดง ซึ่งนายวิชัยหลังตรวจสอบเอกสารแล้ว ได้อ้างว่าน.ส.ณัฐกัญญา ซึ่งเป็นรู้จักกันนำรถยนต์คันนี้มาจำนำไว้ในราคา 150,000 บาท โดยปลอมแปลงเอกสารว่ารถยนต์คันนี้เป็นของตนเอง ด้วยความเชื่อใจจึงรับจำนำไว้ ไม่คิดว่า น.ส.ณัฐกัญญาจะปลอมแปลงเอกสารการครอบครองรถมาจำนำไว้กับตน ซึ่งนายวิชัยอ้างจะขอคืนรถที่ สภ.เรณูนคร ในวันรุ่งขึ้นคือวันที่ 11 สิงหาคม เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ด้วยความไว้ใจตนพร้อมเพื่อนจึงไปเปิดที่พักนอนค้างคืนกัน
น.ส.ณิชาภาเล่าต่อว่า ระหว่างอยู่ในห้องพัก ปรากฏว่ามีสัญญาณแจ้งเตือนจากระบบดาวเทียม ว่า มีคนไปตัดสายสัญญาณในรถยนต์คันดังกล่าว เมื่อเปิดกล้องดูพบว่าเป็นนายวิชัยกำลังตัดสัญญาณ GPS ตนจึงชวนเพื่อนรีบออกมาตามเอารถคืนทันที ซึ่งนายวิชัยไม่รู้ว่าทางบริษัทได้ซ่อนสัญญาณ GPS ไว้ในจุดต่างๆถึง 4 ตัว เมื่อตัดไปตัวหนึ่ง อีกสามตัวก็ยังคงทำงานอยู่ และพบว่ามีการเคลื่อนย้ายรถออกจาก อ.เรณูนคร ในเวลา 22.00 น. โดยขับเข้ามาในพื้นที่ อ.ธาตุพนม และสัญญาณระบุพิกัดว่ารถจอดอยู่ในเขตบ้านต้อง หมู่ 5 ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม แต่ด้วยเป็นเวลาดึกแล้วพวกตนจึงไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 เพื่อนำไปยังจุดที่ GPS ระบุพิกัดไว้
โดยสัญญาณดาวเทียมยิงพิกัดว่ารถจอดนิ่งไม่ได้เคลื่อนที่ ตนจึงใช้กุญแจสำรองกดรีโมทไล่เช็คว่ารถจอดอยู่ที่ไหน กระทั่งได้ยินเสียงปลดล็อคในบ้านเลขที่ 4 หมู่ 5 บ้านต้อง ต.ฝั่งแดง อ.ธาตุพนม จึงให้ผู้ใหญ่บ้านเข้าไปเรียกเจ้าของบ้านออกมา พบว่ารถยนต์ถูกเปลี่ยนทะเบียน เชื่อว่าอาจจะมีการนำข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ธาตุพนม มาอายัดรถไว้ตรวจสอบ ซึ่งหลังตรวจสอบเอกสารครบถ้วนและสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานสอบสวน สภ.ธาตุพนม จึงมอบรถยนต์คันดังกล่าวคืนแก่ผู้ครอบครอง เพื่อนำไปประกอบคดีที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด ในการติดตามตัวผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี