ทนายวัดดังพบตร.

หอบหลักฐานแจง

ปัดพระยักยอกเงิน

ปปป.เดินหน้าสอบ

ทนายวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี หอบหลักฐาน ดอดพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ชี้แจงปมพระดังถูกกล่าวหาฉ้อโกง-ยักยอกเงินวัด ด้าน‘บิ๊กเต่า’เร่งสอบเส้นทางเงิน เผย‘สีกาที่เยอรมัน’จ่อเข้าพบ 2 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 22 กันยายน นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป.เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีที่พระคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ถูกร้องเรียนกรณีนำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ภายหลังมีผู้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีดังกล่าว โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานชี้แจง ว่ามีเนื้อหาอย่างไรบ้าง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นข้อสงสัยกรณีการร้องเรียนโต้แย้งกันระหว่างพระคึกฤทธิ์กับสีกา ที่เยอรมนี เท่าที่ประเมินน่าจะมีปัญหาส่วนตัวหรือความขัดแย้งบางอย่าง โดยสรุปแล้วคดีนี้เกี่ยวข้องกับการโอนเงินจากต่างประเทศ เพื่อสร้างสาขา หรือมูลนิธิที่เกี่ยวกับวัด แต่ต้องตรวจสอบว่าถูกต้องตามระเบียบหรือใช้เงินตามวัตถุประสงค์หรือไม่

รอง ผบช.ก.กล่าวถึงการตรวจสอบเส้นทางเงินต่างๆ ของวัด ว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องรอผลการตรวจสอบอย่างละเอียดให้แน่ชัดก่อน โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากพบว่ามีความผิดก็จะพิจารณาดำเนินคดี รวมทั้งกรณีเส้นเงิน 12.2 ล้านบาท ที่โอนจากบัญชีวัด เข้าบัญชีมูลนิธิพุทธวจน ประเทศเยอรมัน เพราะหากเงินบริจาคภายในวัดนาป่าพง มีความผิดจริง เงินที่โอนไปยังพุทธวจน ประเทศเยอรมัน ก็มีความผิดด้วย ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการ ต้องขอเวลาทำงานก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การนำเงินวัดไปอยู่ในบัญชีส่วนตัว รวมถึงพบว่าเงินบางส่วนอยู่ที่ประเทศเยอรมัน ทำให้เกิดข้อกังขาว่ามีเจตนาไม่ถูกต้องหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า คงต้องสอบถามข้อมูลจากมหาเถรสมาคม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จึงจะสามารถสรุปได้ชัดเจน สำหรับสีกา ที่เยอรมัน ซึ่งจะเดินทางกลับยังประเทศไทยเร็วๆ นี้ และได้นัดหมายเข้าพบพนักงานสอบสวนวันที่ 2 ตุลาคมนี้ จะมีการสอบปากคำอย่างละเอียดในข้อเท็จจริงประเด็นต่างๆ ส่วนความคืบหน้าของสำนวนคดีที่มีการแจ้งความไว้ ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยสามารถมอบหมายให้ บก.ปปป.มีอำนาจร่วมสอบสวน และรอผลการตรวจเส้นทางการเงินให้ชัดเจน

มีรายงานว่า เอกสารหลักฐานชี้แจงที่ทนายความวัดนาป่าพง นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ประกอบการพิจารณา เป็นกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่า พระคึกฤทธิ์ ฉ้อโกงหรือยักยอกเงินวัดช่วงปี 2555-2559 แต่มีการชี้แจงว่า เงินบริจาคของชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธา ได้ถูกนำไปใช้จัดทำโครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และพัฒนาวัดหลายโครงการ โดยมีโครงการหลักๆ 4 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการกองทุนผ้าป่าเพื่อซื้อและพัฒนาที่ดินด้านข้างวัดนาป่าป่าพง 2 แปลง 2.โครงการเผยแผ่ธรรมด้วยการจัดพิมพ์หนังสือธรรม 3.โครงการเผยแผ่พระพุทธศาสนาโดยการประชุมธรรมนานาชาติ ในประเทศอินเดีย 2 ครั้ง และในประเทศไทย 1 ครั้ง และ 4.โครงการปรับปรุงก่อสร้างกุฏิวิหารภายในวัด ซึ่งทั้งหมดได้ดำเนินจัดทำจนแล้วเสร็จครบทุกโครงการ ตรงตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค

นอกจากนี้หนังสือชี้แจงดังกล่าว อ้างว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน หรือยักยอกเงินวัด ช่วงปี 2555–2559 นั้น เคยเป็นคดีความถูกนำเข้าสู่การพิจารณาในกระบวนการยุติธรรม ทั้งในชั้นพนักงานสอบสวนและอัยการ มาแล้ว ต่อมาทางอัยการ มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง อีกทั้งผู้ที่ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวยอมรับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความเข้าใจผิด และพระคึกฤทธิ์ ไม่ได้กระทำผิดตามที่เคยมีการกล่าวหา โดยแนบเอกสารการโอนที่ดินกรรมสิทธิ์ของวัด หลักฐานหนังสือจากอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีต่างๆ ในอดีต รวมถึงเอกสารคำชี้แจงต่างๆ นำมามอบให้กับพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ในวันเดียวกันนี้