“ชัชชาติ” สั่งแก้ 100จุดเสี่ยงอุบัติเหตุสูงสุด พร้อมรณรงค์จิตสำนึก
วันที่ 15 ส.ค. 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ณ อาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการกทม. ดินแดง ว่า ที่ประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดเสี่ยงความปลอดภัย ทั้งในส่วนของทางข้ามทางม้าลาย และจุดเสี่ยงอุบัติเหตุทั่วกรุงเทพฯ ซึ่งได้มีการปรับปรุงด้านกายภาพ สัญญาณไฟ เครื่องหมายจราจร ทางม้าลาย ทางข้ามต่างๆ ไปแล้ว 145 จุด ล้างทางม้าลาย 411 แห่ง ในส่วนของจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ มากที่สุด รวบรวมข้อมูลจาก ThaiRSC และมูลนิธิ iTIC รวมกับข้อมูลทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ 100 จุด ส่งทีมวิศกรลงไปสำรวจความบกพร่องทางกายภาพ ความสมบูรณ์ของถนน เพื่อหามาตรการแก้ไข โดยต้องหารือร่วมกับทางตำรวจอาจต้องปรับทิศทางจราจร ปรับจุดกลับรถ ลดจุดตัดของถนนที่ผ่านมาแก้ไขไปแล้ว 14 จุด และอยู่ระหว่างดำเนินการจุดที่เหลือ
“ด้านกายภาพก็ทำต่อเนื่องจุดไหนทำได้ไม่ใช้งบฯทำเลย ที่ต้องใช้งบฯก็รอจัดสรร รวมถึงการรณรงค์จะมีการร่วมงานกับหลายหน่วย เช่น สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินที่จะทำโครงการรณรงค์เรื่องจิตสำนึก ต้องทำคู่ขนานกันไป เป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยที่ให้ไว้” นายชัชชาติกล่าว
ทั้งนี้ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ได้รวบรวมจุดเสี่ยง 100 จุดเสี่ยงอุบัติเหตุสูงสุด สถิติ 3 ปีย้อนหลัง(2563-2565) โดยใช้ข้อมูลจาก iTIC และ ThaiRSC ทำการสำรวจข้อบกพร่องทางกายภาพ เครื่องหมายจราจร ตลอดจนพฤติกรรมของผู้ใช้รถใช้ถนน กำหนดแผนปฏิบัติการปรับปรุงกายภาพและติดตั้งเครื่องหมายอุปกรณ์ของถนนให้มีความปลอดภัย รวมถึงกำหนดพื้นที่จำกัดความเร็วของยานพาหนะ และสร้างแผนที่จุดเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน เพื่อแจ้งเตือนประชาชนให้ตระหนักรู้จุดเสี่ยงและระมัดระวังการขับขี่อย่างปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี