‘ชัยวัฒน์’พร้อมสู้คดี
ข้อหาอุ้มฆ่ากะเหรี่ยง
แฉกลับแก๊งค้ามนุษย์
บุกรุกป่าแก่งกระจาน
“ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร”ลั่นพร้อมสู้คดีหลัง อสส.มีคำสั่งฟ้องข้อหาร่วมกับลูกน้องอุ้มฆ่า “บิลลี่” กะเหรียบบางกลอย แฉกลับ มีขบวนการค้ามนุษย์ ฆ่าช้างเอางา รุกป่าปลูกยาเสพติด ในแก่งกระจาน มีทั้งคนนอกคนในอยู่เบื้องหลัง
จากกรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดีอาญา นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานและพวก อุ้มฆ่า ของนายพอละจี หรือบิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
ล่าสุด นายชัยวัฒน์ เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว ทราบจากที่สื่อมวลชนโทรศัพท์มาสอบถามแต่โดยส่วนตัวแล้วไม่หนักใจ มาถึงขั้นนี้แล้วก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนเองก็พูดได้ระดับหนึ่ง ทำไมต้องมีไทม์ไลน์ออกมาในจังหวะเดียวกันในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาคำสั่งให้กลับเข้ารับราชการ “มันชัดเจนอยู่แล้วครับ คือเหตุการณ์แต่ละเรื่องที่มันออกมา มันสอดคล้องกับเวลา มันมีการคัดค้านกัน ดักหน้า ดักหลัง ฉะนั้นการที่จะไม่ให้ผมออกไปต่อสู้ ถ้าผมกลับไปรับราชการนี่ มันมีกลุ่มคนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมปกป้องมันเป็นทรัพย์สินของประเทศชาติ วันนี้ผมอยากให้มองทั้งสองมุม มุมหนึ่งผมเข้ากระบวนการต่อสู้ที่เขาอ้างว่าไปเผาบ้านคออี้กับพวกทั้งหก แล้ววันนี้ชัดไหมหละครับว่าบ้านทั้งหกไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ แล้วก็ศาลเริ่มเมตตาทุเลาคำสั่งให้ผมกลับเข้ารับราชการ”
เขาบอกว่าเรื่องนี้สู้ในกระบวนการยุติธรรม ของคดีบิลลี่นี่มันจะได้จบเรื่องของงานประจำปีเสียที ถึงปีก็บิลลี่หาย อย่างโน้นอย่างนี้ จะมาดราม่ากันในสื่อบ้างในที่ต่างๆบ้าง วันนี้ถ้าเข้ากระบวนการยุติธรรม
“ผมเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ผมเคารพทั้งสามศาลครับ ขบวนการมันชัดเจนอยู่แล้ว วันนี้รู้แม้กระทั่งว่าใครอยู่เบื้องหลังด้วยซ้ำ ทำอะไร ใครอยู่เบื้องหลัง ใครเดินเกมอย่างไร ใครเดินหมากอย่างไร ใครรับลูกอย่างไร ผมรู้หมดทุกอย่าง ทุกขั้นตอนแม้กระทั่งหน่วยงานของรัฐก็เกี่ยวข้อง เป้าเขาคืออะไร คือจริงๆนี่ ผมอาจจะตรงไป ตรงมาเกินไป แล้วผมไม่เคยยอมใคร และคดีแต่ละคดีเป็นคดีใหญ่ๆทั้งนั้น แล้วบางทีมันไปกระทบ และที่สำคัญที่สุด เรื่องนี้ที่เราคุยกันอยู่นี่ เป็นเรื่องของคดีค้ามนุษย์ คือ เอาคนจากฝั่งไม่ใช่คนไทยมาสวมบัตร เรื่องนี้มันมีคนอยู่ในราชการกับคนองค์กรหนึ่งเกี่ยวพันเยอะ เพราะฉนั้น ถ้าผมเอาได้ เจอได้ มันก็ตายทั้งฝูงแหละครับ”
นายชัยวัฒน์ ยืนยันว่า เรื่องหลักๆก็คือขบวนการค้ามนุษย์ มาฆ่าช้างผม ยิงช้างเอางา มาบุกรุกป่าเพื่อปลูกยาเสพติดอย่างนี้ ทำไม่ได้อยู่แล้ว ผมมีหน้าที่ปกป้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เป็นเรื่องหลัก แล้วต่อจากนั้นมามันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนในราชการ คดีอื่นๆที่ผมไปทำมันเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ๆทั้งสิ้น ผมไม่มีปัญหาต่อกระบวนการยุติธรรมว่ากันตามนั้นก็สืบกันไปตามนั้น ผมมีโอกาสสู้สามศาล ผมก็จะสู้ เชื่อว่าหลักฐานผมที่มี กับหลักฐานที่เขาสร้างขึ้นมา ผมสู้ได้อยู่แล้ว
ถามว่า ทำไม จึงกลายเป็นเรื่องเอกสารหลุด นายชัยวัฒน์ ตอบว่า งานนี้มันเป็นเจตนาแล้วหละ เอาเอกสารมาเปิด มาเล่นในช่วงไทม์ไลน์อย่างนี้ ในช่วงที่ว่าศาลทุเลา ให้ผมกลับไปรับราชการ เอาตรงๆ คือ ถ้าชัยวัฒน์กลับไปทำงาน พวกเขาเดือดร้อน เอางี้แล้วกัน เพราะฉะนั้น มันมีทั้งคราบของชุดที่เป็นข้าราชการ ทั้งคราบของชุดองค์กรภายนอก ถ้ามันทำรวมหัวกันได้ขนาดนี้แล้วก็ ทำได้ขนาดนี้ ผมก็ต้องสู้จนถึงที่สุดหละครับ มันคงไม่ได้หลุดหรอกนะ มันคงเอาออกมาแฉให้เต็มที่ มันต้องการที่จะเผยแพร่ออกไป ทำลายชื่อเสียงเรามากกว่า
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์กรณีอัยการสูงสุดมีคำสั่งชี้ขาดความเห็นเเย้งให้ฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับพวกรวม 4 คนฐาน ร่วมกันฆ่า นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ว่า เมื่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งเรื่องมาให้อนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทางกระทรวงก็ต้องดำเนินการตามที่ได้รับการชี้แจงแนวทางมาให้ ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่นายชัยวัฒน์หรือผู้ได้รับผลกระทบจะต้องไปร้องเรียนต่อ และเป็นปกติอีกเช่นกันที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องจะต้องอุทธรณ์ เมื่ออุทธรณ์ไปแล้วอัยการสูงสุด (อสส.) จึงมีคำสั่งออกมา ซึ่งประเด็นนี้เป็นคนละประเด็นกัน การจะเข้ามารับตำแหน่งเป็นอีกส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของอัยการ ซึ่งขณะนี้เราก็ได้ทราบเพียงข่าว แต่ในทางเอกสารอย่างเป็นทางการจากอัยการสูงสุดยังไม่ส่งมาที่กระทรวง ซึ่งไม่คิดว่าจะได้รับการแจ้ง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างนายชัยวัฒน์กับอสส. อย่างไรก็ตามทางกระทรวงเราดำเนินการตามระเบียบและระบบราชการ เป็นเรื่องที่ปลัดกระทรวงจะดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า มีการอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า มีแนวทาง แต่ไม่แน่ใจว่าปลัดกระทรวงดำเนินการไปแล้วอย่างไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี