ตำรวจเมืองพิษณุโลกคุมตัวพ่อเลี้ยงโหดวัย 21 ปีลงมือทำร้ายลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบเสียชีวิต น้องชายวัย 6 เดือนบาดเจ็บสาหัส ยอมรับผิดทุกข้อหาสารภาพพลั้งมือตีไป 2 ทีเพราะน้องจะเล่นปลั๊กไฟ พร้อมโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจตั้ง 2 ข้อหา "ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย" และ "ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส" ขณะที่ย่าประกาศไม่ให้อภัย ไม่ต้องมาขอขมาศพ
เมื่อเวลา 10:00 น.วันที่ 17 ส.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องหานายบูรพา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.จอมทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก พ่อเลี้ยงที่ทำร้ายเด็กหญิงวัย 2 ขวบจนเสียชีวิต และน้องชายวัย 6 เดือนบาดเจ็บสาหัสมาทำการชี้จุดก่อเหตุที่ลงมือทำร้ายเด็กทั้ง 2 คนที่ห้องพักบ้านเช่า ต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก
โดยตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาวัย 21 ปีที่เป็นพ่อเลี้ยงเด็กมาชี้สถานที่เกิดเหตุโดยพาเข้าไปภายในห้องพักของผู้ต้องหาโดยพาเข้าไปห้องพักด้านในและชี้จุดที่ทำร้ายเด็ก 2 คน ซึ่งผู้ต้องหาสารภาพว่าใช้กำลังทุบตี ด้วยเป็นคนโมโหง่าย โมโหร้าย โดยทำร้ายร่างกายบนที่นอน
จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาออกมาเพื่อไปส่งฟ้องศาล โดยระหว่างเดินออกมาที่รถผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่ทำลงไป พ่อเลี้ยงเด็กรับสารภาพว่า ได้ลงมือทำร้ายเด็กจริงเนื่องจากโมโหที่เด็กซน ร้องไห้ แล้วน้องจะเล่นปลั๊กไฟเลยพลั้งมือตีไป 2 ที ยืนยันว่าตนลงมือเป็นครั้งแรก ตนเสียใจมากที่ผ่านมาก็รักลูก ตนอยากขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขอโทษกับลูกจริงๆ
ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก กล่าวว่า คดีนี้เกี่ยวกับคดีเด็ก ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานเด็กที่เกี่ยวข้องมาให้การช่วยเหลือ และฝากเตือนผู้ปกครอบเยาวชนที่มีลูกก่อนวัย ควรมีที่ปรึกษาครอบครัวที่ดี เพราะบางทีการที่มีวุฒิภาวะน้อยการตัดสินใจต่างๆ บางครั้งก็ไม่ทันระวังตัวหรือไม่รอบคอบก็อาจจะเป็นอย่างเหตุการณ์นี้ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 2 ข้อหาได้แก่ "ทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย" และ "ทำร้ายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส" ส่วนผู้ต้องหาที่ให้การว่ากระทำไปเนื่องจากพลั่งมือนั้นทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมและอารมณ์โมโหง่ายและเคยลงมือกับลูกทั้ง 2 มาหลายครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางอรทัย ลิ้มธนาคม อัยการจังหวัดพิษณุโลก ประธานศูนย์อำนวยการคุ้มครองเด็กในคดีอาญาพิษณุโลก และนายนิตินัย อุทัยรังสี หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดพิษณุโลก ได้เดินทางมาตรวจสอบการชี้จุดเกิดเหตุในครั้งด้วย โดยระบุว่า ทั้งอัยการและบ้านเด็กให้ความคุ้มครองผู้เสียหายทั้งแม่เด็กและเด็กวัย 6 เดือนที่ยังรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล โดยจะมีการสอบปากคำแม่เด็กด้วยทีมงานสหวิชาชีพ และจะดูแลเด็ก 6 เดือนที่บาดเจ็บอย่างดี
ส่วนบรรยากาศที่วัดจุฬามณี ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพเด็กหญิงโชคร้ายวัย 2 ขวบถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายจนเสียชีวิต โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (17 ส.ค.65) ทีมสหวิชาชีพประกอบด้วยอัยการ ตำรวจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ บ้านแม่และเด็กจังหวัดพิษณุโลก คณะแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้นำท้องถิ่นในตำบลท่าทองได้เดินทางมาร่วมสอบปากคำแม่ของน้อง ซึ่งยังเป็นเยาวชนอายุ 17 ปี เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาระหว่างสอบปากคำทางฝ่ายทางการอัยการได้ขอความร่วมมือในการงดเข้าถ่ายภาพระหว่างสอบปากคำแม่เด็ก เนื่องจากผู้เสียหายเป็นเด็ก 2 ขวบและแม่เด็กยังเป็นเยาวชน
ทั้งนี้ จากการสอบถามแม่วัย 17 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนทราบเรื่องตอนที่แฟนโทรไปบอกว่าน้องท้องเสียแล้วพอตอน 4 โมงเย็นเขาโทรมาบอกอีกครั้งว่าน้องหมดสติไม่มีการเต้นของหัวใจแล้วเขาก็ทำ CPR ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นเขาทำร้ายลูกต่อหน้าเลย แต่ตอนไม่อยู่ด้วยกันและตอนตนไปทำงานนั้นตนก็ไม่รู้ ปกติเวลาแฟนไปทำงานและตนไปทำงานก็จะจ้างคนเลี้ยงลูก จะมีช่วงที่เขาหยุดให้แฟนเลี้ยงบ้าง บางทีตนก็มาเลี้ยงเอง วันเกิดเหตุตนออกไปทำงานตอน 13.30 น.น้องก็ปกติดี เล่นเหมือนเดิม
ด้านนางจันสุดา อินอิ่ม อายุ 44 ปี ผู้เป็นย่าของน้องข้าวฟ่าง กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ยังทำใจไม่ได้ น้องยังเด็กน่าสงสาร ฝากถึงคนร้ายที่ลงมือกับหลานสาวของตนว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก และไม่ต้องมาขอขมาศพ ตนไม่ให้อภัยและไม่มีวันให้อภัย ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะตั้งสวดศพน้องข้าวฟ่างวันนี้อีก 1 คืนก่อนจะเผาในวันพรุ่งนี้ (18 ส.ค.65) ตามประเพณีไทย
ขณะที่จำรัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี เจ้าของร้านขายอาหารอยู่ด้านข้างหอพักที่เกิดเหตุ บอกว่า ครอบครัวนี้มาเช่าห้องพักอยู่หลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นทะเลาะกันเสียงดัง พอทราบข่าวก็ตกใจมากเรื่องแบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับเด็กอายุแค่นี้เลย สงสารเด็ก ปกติตนก็เช้าไปเย็นกลับก็เคยเห็นน้องข้าวฟ่างบ้างก็เป็นเด็กน่ารัก น่าสงสารมากๆ เคยเห็นตัวพ่อเลี้ยงขับรถพาน้องข้าวฟ่างออกไปเที่ยวก็ขับรถมือเดียวอีกมือก็จับน้องข้าวฟ่าง ก็ดูรักลูกเลี้ยงดี ไม่น่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ ไม่รู้สาเหตุจริงๆ เกิดจากอะไร - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี