ที่ห้องประชุม โรงแรมทีอาร์ ร็อก ฮิลล์ ตำบลคอหงส์ อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลา นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม/ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา กระบวนการยุติธรรมทางเลือกโดยพระราชบัญญัติการไกล่เกลี่ยข้อพิพาท พ.ศ.2562 โดยมี นายพยม พรหมเพชร กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดการสัมมนา ซึ่งในงานยังมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิอีกหลายท่านร่วมกิจกรรม อาทิ นายวินัย ครุวรรณพัฒน์/พ.ต.ท.จรินทร์ชะโนวรรณ/ผศ.สุพล เพชรานนท์ เป็นต้น และมีผู้มีเกียรติ ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจำนวนหลายร้อยท่าน และมี นายศาสตรา ศรีปานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสงขลา เข้าร่วมด้วย
โดย นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ได้มาร่วมเป็นวิทยากร สัมมนาในหัวข้อ การโกงโดย แชร์ลูกโซ่ ซึ่งนายสามารถได้กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนเองต้องการมาพูดถึงเป็นสิ่งแรกคือ การติดอาวุธทางความคิด ให้มีความรู้ให้ทุกท่านไม่ต้องถูกกลอุบายให้เข้าไปร่วมในเครือข่ายแชร์ลูกโซ่ ซึ่งในประเทศไทยเรามีคดีแรก เป็นคดีตัวอย่างคือคดีแชร์แม่ชม้อย ถ้าตนเองย้อนกลับไปพูดเรื่อง แชร์แม่ชม้อยเจ้าแม่แชร์ลูกโซ่คนแรก ที่ศาลจำคุกเท้าแชร์ ถือเป็นโทษสูงอันดับสองในกินเนสส์บุ๊คก็ว่าได้ เพราะโทษติดที่ศาลตัดสินในตอน 27 ก.ค.2532 รวมจำคุก 154,005 ปี ซึ่งติดจริง 7 ปี 11 เดือน 5 วัน โดยแม่ชม้อยจัดตั้งบริษัทค้าน้ำมัน ชื่อ บริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ทำการค้าน้ำมันทุกชนิด มีเรือเดินทะเลสำหรับขนส่งน้ำมัน ได้เริ่มชักชวนประชาชนมาเล่นแชร์น้ำมัน อ้างว่าจะได้รับค่าตอบแทน 78% ต่อปี จนมีผู้ถูกหลอกร่วมหมื่นราย ได้รับความเสียหาย สี่พันกว่าล้าน ในสมัย 30 ปีก่อน สมัยนั้นไม่มีกฎหมายใดจะจับแม่ชม้อยได้ มีเพียงกฎหมายอาญาฉ้อโกงประชาชน มาตรา 343 และคนที่ได้เงินจากแม่ชม้อยก็ไม่มีใครมาร้องทุกข์ ทำให้สถาบันทางการเงินในสมัยนั้นเริ่มจะทรุดเพราะประชาชนนำเงินไปลงทุน ไปฝากกับแม่ชม้อยกันหมด
จนกระทั่ง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นว่า ประเทศเริ่มมีความเสียหายได้สั่งกรมสรรพากรไปตรวจสอบบริษัทปิโตเลียมแอนด์มารีน เซอร์วิส จำกัด ของแม่ชม้อยที่อ้างว่าทำกิจการค้าน้ำมันว่ามีจริงหรือไม่ ปรากฏว่า บริษัทดังกล่าวไม่มีการเสียภาษี งบดุลต่างๆ มีแต่เอาเงินจากคนใหม่มาจ่ายให้กับคนเก่าไปเรื่อยๆ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เห็นว่าถ้าปล่อยไว้ประเทศจะพินาศ และไม่มีกฎหมายใดๆ เอาผิดแม่ชม้อยได้เลย จึงต้องเอากฎหมายพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 ขึ้นมา
เป็นการออกกฎหมายฉุกเฉิน ว่าใครชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยเสนออัตราดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายโดยบริษัทไม่ได้ดำเนินกิจการใดๆ ถือเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และในปี 2528 แม่ชม้อยถูกจับกุมมีผู้เสียหายจำนวน 13,248 คน รวมให้กู้ยืมเงินไปทั้งสิ้น 23,519 ครั้งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,043,997,795 บาท และผู้เสียหายที่ให้กู้ยืมเงินภายหลังพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินฯ ประกาศใช้บังคับ (ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน 2527 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2528) เป็นผู้เสียหายจำนวน 2,983 คน รวมให้กู้ยืมเงินไปทั้งสิ้น 3,641 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 510,584,645 บาท ยอดประมาณ 4,500 ล้านบาท
นี่คือตัวอย่างความน่ากลัวของแชร์ลูกโซ่ ตนเองเคยลงไปพบผู้เสียหายจากคดีแชร์ลูกโซ่นับหมื่นคน ตนเองรู้สึกสะเทือนใจกับบางเคส เช่น ตนเองไปพบผู้เสียหายรายหนึ่งจนมาก บ้านเป็นสังกะสี หารายได้จากการปูกระเบื้องวันละ 300 บาท ถูกเพื่อนสมัยอนุบาลมาชักชวนลงทุนกับบริษัทหนึ่งซึ่งจะได้รับค่าตอบแทนสูง จึงได้ปรึกษากับญาติเอาที่นาที่เป็นมรดกของตระกูลเข้าธนาคาร ได้เงินมาสามแสน ไปลงทุนกับบริษัทแชร์ลูกโซ่ ผ่านไปสองเดือนบริษัทดังกล่าวถูกดีเอสไอจับ และเงินก็ถูกอายัด ทำให้ผู้เสียหายคนดังกล่าวเสียใจคิดสั้นจะฆ่าตัวตายโดยไป จังหวัดสมุทรสาครจะกระโดดน้ำตาย แต่สามีได้ห้ามปรามไว้ทัน และเร็วๆ นี้ ก็มีข่าวครูสาวสองคนกระโดดน้ำฆ่าตัวตายโดยตนเองก็ได้ส่งพวงหรีดไปให้ และนำเรื่องราวมีตีแผ่ถึงโทษภัยการถูกโกง และแชร์ลูกโซ่
ตนเอง ในฐานะเป็นกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติเคยเข้าร่วมประชุมตามวาระต่างๆ ตนเองมีความเห็นว่าถ้าเราดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของประชาชนได้อย่างแท้จริง เพราะคนที่จ่ายหนี้สินดอกเบี้ยมากที่สุดคือ คนจน ยกตัวอย่าง คนรวยรูดบัตรเครดิต ก็สามารถจ่ายต้นปิดการใช้บัตรได้ทุกเดือน ส่วนคนจน จ่ายได้แต่ดอก ต้นยังไม่มีจ่าย นั่นคือปัญหาที่ต้องแก้ไขให้หนี้มันหมด สมัยตนเองเป็น ผู้ช่วยรัฐมนตรี ได้ทำโครงการ ไกล่เกลี่ยหนี้สินซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการก็ยินดีจ่ายหนี้สิน แต่พอถึงเวลาทางประชาชนไม่มีเงินก็ไม่สามารถจ่ายได้ เพราะฉะนั้นประเด็นหลักเราต้องแก้ไขให้ถูก โดยตนเองกำลังขับเคลื่อนการแก้ปัญหาหนี้สินของประชาชนร่วมกับ กรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎร เพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป
พร้อมอาสา ตัดถนนความยุติธรรมนี้ให้รวดเร็วและเป็นธรรมเพื่อให้คนไทยต้องไม่ถูกโกง และคนโดนโกงต้องได้เงินคืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี