จับตาโควิดระลอกเล็ก  สธ.มั่นใจคุมสถานการณ์ระบาดได้  ‘รพ.-เวชภัณฑ์-วัคซีน’พร้อมรับมือ

จับตาโควิดระลอกเล็ก สธ.มั่นใจคุมสถานการณ์ระบาดได้ ‘รพ.-เวชภัณฑ์-วัคซีน’พร้อมรับมือ

วันอังคาร ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.

จับตาโควิดระลอกเล็ก

สธ.มั่นใจคุมสถานการณ์ระบาดได้

‘รพ.-เวชภัณฑ์-วัคซีน’พร้อมรับมือ

ไทยติดเชื้อสะสม4.6ล.อันดับ29โลก

ปอดอักเสบทรงตัว883-ตาย28ศพ

ร่างแผนเดินหน้าเป็นโรคเฝ้าระวัง

ศบค.รายงานยอดป่วยโควิดประจำวัน โดยผู้ป่วยรายใหม่ รักษาตัวใน รพ. 1,531 ราย เสียชีวิต 28 ศพปอดอักเสบ 883 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 444 ราย ไทยติดอันดับ 29 โลกส่วนผลบวก ATK รอบสัปดาห์กว่า 2 แสนคน สธ.แจงปรับสูตรกักตัวรักษา 5+5 ยึดหลักวิชาการ ไม่ห่วงระบาดเป็นระยะ (Small wave) ที่เกิดในหลายจังหวัดยันสธ.รับมือได้ รพ.-เวชภัณฑ์พร้อม วัคซีนมีเพียงพอ เตือนปชช.ไปรับวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อเดินหน้าผ่อนคลายสถานการณ์ ไม่กลับไปล็อคดาวน์อีก

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขรายงานภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยประจำวัน ที่จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังทรงตัว ขณะที่ผู้ที่รักษาหายแล้วมีมากกว่าผู้ติดเชื้อรายใหม่


ติดเชื้อนอนรพ.1,531สะสม4.6ล.คน

ทั้งนี้ ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 1,531 ราย ในจำนวนนี้ เป็นผู้ป่วยในประเทศทั้งหมด ส่วนผู้ป่วยสะสม 2,412,276 รายนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 แต่หากนับรวมตั้งแต่ปี 2563 รวมทั้งสิ้น 4,635,711 ราย โดยอยู่ในอันดับ 29 ของโลก

ผลบวกATKรอบสัปดาห์สะสม7.5ล.

วันเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกโรงพยาบาล (รพ.) ที่ตรวจด้วย ATK ในรอบ 7 วัน สัปดาห์ที่ 33 หรือระหว่างวันที่ 14-20 สิงหาคมมีจำนวนทั้งสิ้น 204,250 ราย รวมยอดสะสม 7,528,141 ราย ขณะที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ยังพบผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศไทย วันนี้มีรายงาน 1,154 ราย

ตายเพิ่ม28-ปอดอักเสบ883

ศบค.ยังระบุถึงผู้ที่รักษาหายกลับบ้านมี 2,298 ราย ส่งผลให้ยอดหายป่วยสะสม 2,416,333 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เมื่อรวมยอดตั้งแต่ปี 2563 มี 4,584,827 ราย และกำลังรักษา 18,829 ราย ส่วนจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ใน รพ. 883 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 444 ราย ครองเตียงระดับ 2-3 ร้อยละ 14.70 ส่วนผู้เสียชีวิตรายใหม่ 28 ราย ล่าสุดประเทศไทยมียอดเสียชีวิตสะสม 10,357 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 หากรวมตั้งแต่ปี 2563 เสียชีวิตสะสม 32,055 ราย

สูงอายุเซ่นโควิดสูงถึง86%

สำหรับผู้เสียชีวิต 28 รายประจำวันนี้ แบ่งเป็น เพศชาย 19 ราย หญิง 9 ราย เป็นผู้อายุ 60 ปีขึ้นไป 24 ราย ร้อยละ 86 ต่ำกว่า 60 ปี อีก 4 ราย ร้อยละ 14 โดยมีประวัติโรคเรื้อรัง เป็นโรคมะเร็ง 3 ราย โรคไต 8 ราย โรคอ้วน 2 ราย หลอดเลือดสมอง 5 ราย หัวใจ 5 ราย และติดเตียง 5 ราย

ทั่วปท.ฉีดวัคซีน142 ล.โดส

ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย ได้รับวัคซีนสะสมตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564- 21 สิงหาคม 2565 รวม 142,467,918 โดส ใน 77 จังหวัด ภาพรวมยอดฉีดวัคซีนถึงวันที่ 21 สิงหาคม 2565 ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 24,751 โดส เป็น เข็มที่ 1 จำนวน 1,948 ราย สะสม 57,222,656 ราย ร้อยละ 82.3 เข็มที่ 2 จำนวน 3,477 ราย สะสม 53,660,774 ราย ร้อยละ 77.1 เข็มที่ 3 จำนวน 19,326 ราย สะสม 31,584,488 ราย ร้อยละ 45.4

ยันกักรักษาโควิด5+5ยึดวิชาการ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้สัมภาษณ์กรณีศบค.มีมติปรับการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19สูตร 5+5 วันคือ รักษาตัว 5 วันและสังเกตอาการ 5 วันว่า เป็นการตัดสินใจที่มีข้อมูลวิชาการสนับสนุน ผ่านการกลั่นกรองจากมติที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ที่มีกรรมการวิชาการ การแพทย์ ตัวแทนกรมควบคุมโรค กรมการแพทย์มาแล้ว เรื่องนี้ยืนยันว่าใช้ 5+5 วัน อย่างไรก็ตาม แนวทางรักษาผู้ป่วยโควิดเราปรับปรุงมาต่อเนื่องตามสถานการณ์ ความรุนแรงของโรค ความพร้อมของการรักษาพยาบาล ยารักษาโรค การบริหารวัคซีนป้องกัน ทุกอย่างมีหลักวิชาการรองรับอยู่ ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของรมว.สาธารณสุข หรืออธิบดีกรมควบคุมโรค หรือใครคนเดียว

สธ.ไม่ห่วงSmall waveรับมือได้

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ขณะนี้พบบางจังหวัดที่ยังมีการระบาดเป็นระยะ (Small wave) แต่สถานพยาบาลพร้อมรองรับ เวชภัณฑ์ ยา วัคซีนเพียงพอ ขอให้ประชาชนมารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นทั้งเด็กเล็กไปจนถึงผู้สูงอายุ เพราะเราต้องผ่อนคลายสถานการณ์ ไม่สามารถล็อกดาวน์ได้อีกแล้ว ต้องเดินหน้าไปเพื่อเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้ก็เริ่มกลับมาเข้มแข็ง มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น ใช้ชีวิตแทบเป็นปกติแล้ว ดังนั้น ระบบเศรษฐกิจการจ้างงานทยอยกลับมา สธ.พร้อมควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดความสูญเสีย

ยันวัคซีนมีพอย้ำปชช.ฉีดกระตุ้น

ส่วนกรณีสหรัฐอเมริกา อนุมัติวัคซีนไฟเซอร์รุ่น 2 แล้ว นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เรามีวัคซีนสำหรับเป็นเข็มกระตุ้นเพียงพอ ทั้งจากการจัดซื้อและรับบริจาค ขอให้ประชาชนมารับเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด ตอนนี้เรามีวัคซีนซิโนแวคที่ฉีดในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไปได้ แต่ตอนนี้ต่างประเทศศึกษาวิจัยฉีดวัคซีนในเด็กเล็กตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว เราขอให้ผู้รับอนุญาตนำข้อมูลจากผู้ผลิตมาขึ้นทะเบียนขยายช่วงอายุกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ประเมินความเสี่ยงก่อนเลิกพรก.ฉุกเฉิน

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ยังไม่ได้พิจารณายกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดย ศบค.จะประเมินสถานการณ์ก่อน เนื่องจากยังเหลือระยะเวลาการประกาศใช้จนถึงสิ้นเดือนกันยายน ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการประกาศใช้ พ.ร.ก ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมป้องกันโควิด ไม่ได้มุ่งหวังใช้เพื่อประเด็นอื่น ก่อนถึงวันที่ 1 ตุลาคม ศบค.จะประเมินสถานการณ์ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นช่วงเปลี่ยนผ่าน หลังประกาศให้โควิดเป็นโรคระบาดที่ต้องเฝ้าระวังว่าต้องคงกลไกควบคุมบริหารจัดการอะไรไว้บ้าง ต้องมั่นใจว่าจะไม่เกิดวิกฤตและความเสียหายมิติต่างๆขึ้นอีก หรือเกิดขึ้นต้องแก้ไขได้ทัน เน้นมีแผนรองรับที่ดี วิกฤตความเสียหายต้องไม่เกิดขึ้นอีก ขอให้รอผลประชุม ศบค. เดือนกันยายนนี้

เร่งทำแผนปรับโควิดโรคเฝ้าระวัง

นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบค.หารือความคืบหน้าจัดทำกรอบนโยบาย แนวทางปฏิบัติ และระยะเวลาดำเนินการเปลี่ยนผ่านสู่ภาวะ Post – Pandemic เพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกันควบคุมโรคโควิด หรือเป็นแผนการปรับลดระดับสถานการณ์โควิดจากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ภายใต้หลักการ ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับโควิดได้อย่างปลอดภัย ดำเนินชีวิตได้ปกติ ภาพรวมประชาชนในประเทศไทยมากกว่าร้อยละ 90 มีภูมิคุ้มกัน ผู้ฉีดวัคซีน 3 เข็มไม่ว่าสูตรใดถป้องกันการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้มากกว่าร้อยละ 90 หลังจากนี้ คาดการณ์ว่าโควิดจะมีลักษณะเกิดโรคในประชากร คล้ายการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งจะพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี รวมทั้งการรักษาส่วนใหญ่แนวโน้มไม่รุนแรง ยกเว้นในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรครุนแรง และกลุ่ม 608

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top