ผบ.ทร.เยี่ยมอำลาหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ในโอกาสเกษียณอายุราชการ
วันที่ 26 ส.ค.65 เมื่อเวลา 10.40 น. พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยนางศิริรัตน์ นิลสมัย นายกสมาคมภริยาทหารเรือ คณะนายทหารระดับสูงของกองทัพเรือ และคณะผู้บริหารสมาคมภริยาทหารเรือ เดินทางไปเยี่ยมอำลาหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เขตหนองคาย อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี พลเรือตรี สมบัติ จูถนอม ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ตลอดจนผู้บังคับบัญชากำลังพลหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ให้การต้อนรับ
จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พร้อมทั้งให้โอวาทและชื่นชมกำลังพล หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละมุ่งมั่นทุ่มเทจนเป็นที่ยอมรับของประชาชนและมีผลการปฏิบัติที่สำคัญอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุปเพื่อรับทราบถึง ปัญหา อุปสรรค ข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน
ในการนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ฝากข้อความไปยังกำลังพลทุกนาย โดยมีความสำคัญตอนหนึ่งว่า "ผมขอฝากให้ท่านทั้งหลายเสริมสร้างมิตรภาพที่ดีกับพี่น้องประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ กระชับความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านให้แน่นแฟ้น และที่สำคัญอย่างยิ่ง ขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลรักษากองทัพเรือของเราอย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อันเป็นรากฐานเนื้อแท้ ที่ก่อร่างสร้างความเป็นชาติ และยังคงอยู่ในวิถีชีวิตคนไทยอย่างมีนัยยะสำคัญตราบจนปัจจุบัน ความมั่นคงเข้มแข็งของสถาบันหลักของชาติจึงเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเป็นหน้าที่ของเราทุกคนที่จะร่วมกันทำนุบำรุงให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อให้ประเทศชาติของเรายังดำรงมั่นคงและเจริญงอกงามสืบต่อจนถึงลูกหลานตลอดไป"
สำหรับ หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง เป็นหน่วยเฉพาะกิจของกองทัพเรือ ที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความสงบ การป้องกันปราบปรามการกระทำผิดกฎหมาย การลักลอบเข้าเมืองตลอดแนวฝั่งแม่น้ำโขง รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ โดยมีพื้นที่ปฏิบัติการตามริมฝั่งแม่น้ำโขงครอบคลุม 8 จังหวัด คือ เชียงราย เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี เป็นระยะทางทั้งสิ้น 928 กิโลเมตร และแบ่งความรับผิดชอบเป็น นรข.เขต 4 เขต ดังนี้ 1.นรข.เขตเชียงราย 2. นรข.เขตหนองคาย 3.นรข.เขตนครพนม 4.นรข.เขตอุบลราชธานี มีสถานีเรือทั้งสิ้น 14 สถานีเรือ และ 1 หน่วยเรือ
โดยในรอบปีที่ผ่านมา หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงได้มีผลงานดีเยี่ยมในการขับเคลื่อน แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นรูปธรรมตามยุทธการฟ้าสางที่ฝั่งโขง โดยได้ตรวจยึดยาเสพติดประเภทยาบ้าได้กว่า 42 ล้านเม็ด รวมถึงการระดมจับกุมยาอี ยาไอซ์ กัญชาผิดกฎหมาย เป็นจำนวนมาก และจับกุมผู้กระทำความผิด ตามกฎหมายได้ถึง 292 คน สามารถสกัดกั้นและกวาดล้างกระบวนการค้ายาเสพติดให้โทษบ่อนทำลายความมั่นคงของชาติ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไม่เพียงในพื้นที่ ยังรวมถึงคนไทยทั้งประเทศอีกด้วย
ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ได้มุ่งเน้นการพัฒนากองทัพเรือ ให้ขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์ วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ด้วยนโยบายที่มุ่งเน้นให้กองทัพเรือ เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ ด้วยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ มีความจงรักภักดี ด้วยสติรู้ตัว ด้วยปัญญารู้คิด สุจริตจริงใจ โดยเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมยิ่งกว่าส่วนอื่น นำพากองทัพเรือให้เจริญก้าวหน้า โดยเน้นความสามัคคีปรองดอง เป็นพี่เป็นน้อง ร่วมมือร่วมใจปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วย ต้องดูแลหน่วยและสวัสดิการ กำลังพลชั้นผู้น้อย ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้กองทัพเรือไปถึงเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการตามเจตนารมณ์ของ พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ที่ว่า “รวมใจภักดิ์ รักษ์ชาติ ราษฎร์ศรัทธา”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี