"ชัชชาติ"เผยยกเลิกสัญญา BRTหรือไม่ รอหมดสัญญาก่อนค่อยพิจารณาทบทวนความคุ้มค่าทั้งระบบ
วันนี้ (26 สิงหาคม) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ มหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) กล่าวถึงกรณีที่เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนขอบทางของรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที (BRT - Bus Rapid Transit) สายสาทร - ราชพฤกษ์ ว่า ขณะนี้บีอาร์ที อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทกรุงเทพธนาคม
จากที่ทราบคือยังไม่มีการคิดค่าดำเนินการ เรื่องนี้ทาง กรุงเทพมหานคร (กทม.) กำลังอยู่ในระหว่างการทบทวนแผนใหม่ในการดำเนินโครงการนี้ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ทำได้เพียงรอให้หมดสัญญาและพิจารณาว่าจะทำอย่างไรต่อไป สำหรับในส่วนของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้น นายชัชชาติ กล่าวว่า ต้องเข้าไปดูรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รวมไปถึงแผนในอนาคตว่าหากมีการให้ใช้โครงการนี้ต่อช่องทางดังกล่าวต้องมีการบังคับใช้กฎระเบียบการควบคุมให้มากขึ้น
รวมทั้งจะต้องดูว่าในเรื่องของความคุ้มค่าว่าคุ้มหรือไม่ ต้องทบทวนทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ต้องรอให้สัญญาเอกชนหมดก่อนจัดการเรื่องนี้และค่อยมาพูดคุย ซึ่งแผนเดิมอาจจะไม่ให้บีอาร์ทีเดินรถแล้ว แต่ถ้าพิจารณาแล้วสามารถเพิ่มความถี่ให้คนใช้งานได้เพิ่ม พัฒนาคุณ ภาพให้คุ้มค่ากับช่องทางจราจรที่ต้องเสียไปได้ มีประสิทธิ ภาพที่คุ้มค่ามากขึ้นอาจจะให้ใช้งานรถโดยสารประเภทนี้อยู่
อย่างไรก็ตาม ประเด็นนี้ได้มอบหมายให้สำนักการจราจรและขนส่ง(สจส.) ทำแผนและหาคำตอบแนวทางในอนาคต ซึ่งขณะนี้รถโดยสารบีอาร์ที ทางบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เป็นผู้ดำเนินการโครงการ ตั้งแต่วันที่ 29 พฤษ ภาคม 2560 ถึง 31 สิงหาคม 2566 รวม 6 ปี 95 วัน โดยบริษัทได้ให้สิทธิเอกชนเป็นผู้เดินรถระยะเวลาสัญญา 6 ปี เริ่ม 1 กันยายน 2560 – 31 สิงหาคม 2566 ปัจจุบันโครงการมีรถโดยสารให้บริการ จำนวน 25 คัน ตลอดระยะทาง 15.9 กิโลเมตร จำนวน 12 สถานี
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี