นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ขับเคลื่อนงานตามภารกิจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร โดยวางระบบการตรวจสอบการเงินการบัญชีของสหกรณ์ที่ครอบคลุมทั้งด้านการบริหารจัดการและการประเมินประสิทธิภาพระบบการควบคุมภายในของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ได้รับการตรวจสอบบัญชีที่เป็นไปตามมาตรฐาน มีระบบการควบคุมภายในที่ดี สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างโปร่งใส สร้างความเชื่อมั่นให้สมาชิก โดยในปัจจุบันมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรเป้าหมายที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ต้องเข้าปฏิบัติงาน
ตรวจสอบบัญชี 11,800 แห่ง ได้เข้าดำเนินการแล้ว 9,816 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 83.19 โดยมีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่สามารถนำงบการเงินเสนอเข้าที่ประชุมใหญ่ได้ 6.611 แห่ง ทำให้สมาชิกได้รับทราบผลการดำเนินงานของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ตลอดจนได้รับเงินปันผลและเงินเฉลี่ยคืนได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ การดำเนินงานของสหกรณ์มีรูปแบบที่เปลี่ยนไป ประกอบกับการเกิดเหตุทุจริตในสหกรณ์หลายแห่ง กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จึงมีมาตรการเชิงรุกในการยกระดับมาตรฐานการสอบบัญชีให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ได้แก่ 1.การพัฒนาระบบการตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ มีการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ ใช้เป็นเครื่องมือช่วยอำนวยความสะดวกให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร มีระบบการเงินการบัญชีและมีการควบคุมภายในที่ดี รวมทั้งผลักดันให้สหกรณ์ในพื้นที่ต่อยอดการใช้ข้อมูลจากโปรแกรมระบบบัญชีด้วยการนำ Application Smart4M มาใช้ในการบริหารจัดการข้อมูล
2.การพัฒนาสมรรถนะบุคลากร ให้มีความเป็นมืออาชีพและพัฒนาทักษะใหม่ๆ ที่จำเป็นทั้งด้านความรู้ตามมาตรฐานวิชาชีพ ด้านสมรรถนะไอที ด้านความรู้เฉพาะเกี่ยวกับธุรกิจที่ตรวจสอบและที่สำคัญคือการพัฒนาความสามารถด้านการสื่อสาร เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถเป็นที่ปรึกษาด้านการเงินการบัญชีให้แก่สหกรณ์ ผลักดันให้มีการบริหารจัดการด้านการเงินที่มีคุณภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี