มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล). ร่วมกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เปิดการประชุมเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสภาคเหนือ Wellness Hub
วันที่ 31 ส.ค.65 ที่ห้องประจวบ ภิรมย์ภักดี โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยรองศาสตราจารย์ ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกันเปิดการประชุมเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสภาคเหนือ โดยมีประธานกฎบัตรไทย ประธานกฎบัตรสุขภาพ นายกสมาคมการผังเมืองไทย ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมโปรแกรม 15 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงราย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงราย ท่านผู้ประกอบการเอกชน เดินทางมาร่วม
รองศาสตราจารย์ ดร.ชยาพร วัฒนศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่ผ่านมา นานาประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเรา ต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และด้านสุขภาพ แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็ทำให้เห็นถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศทางด้านระบบบริการสาธารณสุข ความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศไทยเรา ดังนั้น จึงทำให้ประเทศไทยมีโอกาสในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ด้วยการยกระดับสู่ศูนย์กลางทางการแพทย์ของโลก ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล แผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน
ในส่วนของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ในฐานะสถาบันการศึกษา นอกจากพันธกิจในการผลิตบัณฑิตที่ครอบคลุมทักษะวิชาชีพต่างๆ ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ด้านศิลปศาสตร์ ด้านบริหารและการบริการ และด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มีการผลิตบัณฑิตในสาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพทั้งสิ้น 5 สำนักวิชา ได้แก่ สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ สำนักวิชาการแพทย์บูรณาการ สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ และสำนักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยยังมีอีกหนึ่งพันธกิจคือการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนในเขตอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงอีกด้วย
โดยปัจจุบันมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดตั้งศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งประกอบด้วยโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ศูนย์บริการสุขภาพครบวงจรแห่งอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (MFU Wellness Center) สถาบันการแพทย์แผนไทย-จีน โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อทำหน้าที่ในการส่งเสริมสุขภาพ และดูแลสุขภาพของประชาชน
สำหรับกิจกรรมการประชุมเขตระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสภาคเหนือในจัดขึ้นโดยความร่วมมือของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งสถาบันการศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กฎบัตรไทย สมาคมผังเมืองไทย และเครือข่ายผู้ประกอบการด้านสุขภาพ เพื่อร่วมกันพลิกฟื้นเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วยการพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการทางด้านสุขภาพ ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพ หรือเป็น Wellness hub ของโลก
ด้านนายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนระบบนิเวศรองรับการพัฒนาอุตสาหกรรม Wellness Hub ของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบการจัดทำยุทธศาสตร์ และแผนปฏิบัติการด้านสุขภาพ การส่งเสริมเศรษฐกิจสุขภาพ หรือเศรษฐกิจเวลเนส ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ในการยกระดับเศรษฐกิจเวลเนส ให้เป็นสาขาหลักในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ระหว่างและภายหลังการระบาดของโควิด-19
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพมีนโยบายพัฒนาใบอนุญาตเวลเนส ใบเดียว หรือ wellness single license เพื่ออำนวยความสะดวกให้โรงแรม และกิจการเวลเนส สามารถนำกิจกรรม เวลเนสสาขาต่างๆ อาทิ การแพทย์แผนไทย การแพทย์ตะวันออก งานเวชกรรมประเภทบริการความงาม สปา การฟื้นฟูสุขภาพ การดูแลผู้สูงอายุ หรือดิจิทัลเฮลท์ เข้าดำเนินการในโรงแรมได้ เช่นเดียวกับต่างประเทศ
ด้านนายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ในส่วนเรื่อง Wellness hub จังหวัดเชียงราย ได้เรื่องนี้เข้าสู่แผนการขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดด้วย เพราะถือว่าจังหวัดเชียงราย มีศักยภาพในหลายด้านที่จะสามารถขับเคลื่อนสิ่งเหล่านี้ ไปพร้อม ๆ กันเพื่อทำให้ภาวะเศรษฐกิจนั้นดีขึ้น หลังจากที่สถานการณ์โควิด ทำให้เกิดผลกระทบตามมากมายในช่วง 2-3 ปี ดังนั้น การจัดประชุมครั้งนี้จะเป็นผลดีต่อจังหวัดเชียงรายอย่างมาก ที่จะสามารถขับเคลื่อนกิจการ และกิจกรรมต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวเชียงราย - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี