'ทนายรณณรงค์' พาญาติ 'น้องเจ้าขา' เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนสาหัส บุกโรงพักบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ใช้ค้อนทุบนาฬิกาประชด สื่อถึงการทำงานล่าช้าของตำรวจ

จากกรณีนายณัฐพล ทองดวง อายุ 29 ปี นางอนันต์ มาเจริญศรี อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพ่อและญาติของ "น้องเจ้าขา" เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนสาหัส ต้องนอนพักรักษาตัว เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อช่วยติดตามคดีและความคืบหน้าหลังน้องเจ้าขา ลูกสาววัย 3 ขวบถูกทำร้าย จนบาดเจ็บสาหัสแจ้งความตำรวจ สภ.บางบัวทอง แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 2 ส.ค.65 ที่ สภ.บางบัวทอง นายรณฯรงค์ แก้วเพ็ชร์ พร้อมด้วยนายณัฐพล นางอนันต์ พ่อและย่าของน้องเจ้าขา เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่น้องเจ้าขาถูกทำร้ายร่างกายจนสาหัสนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลขณะนี้

โดยทางทนายรณรงค์ได้ถือนาฬิกา ส่วนนายณัฐพล ถือค้อนขณะที่ผู้เป็นญาติหรือรูปภาพถ่ายของน้องเจ้าขาและน้องพีพีมาที่ สภ.บางบัวทอง จากนั้นเวลาผ่านไป 30 ทนายรณรงค์พร้อมด้วยพ่อและย่าของหนูน้อยทั้ง 2 คนได้แสดงเชิงสัญลักษณ์ด้วยการวางนาฬิกาลงก่อนที่จะใช้ค้อนทุบไปที่นาฬิกาเพื่อเป็นสื่อถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำคดีนี้อย่างล่าช้าไม่มีความคืบหน้าปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเป็นเดือน

ทนายรณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ มาติดตามความคืบหน้าของคดีทั้งของน้องพีพีที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้รวมทั้งคดีของน้องเจ้าขา ซึ่งเป็นพี่สาวและถูกทำร้ายจนสาหัสว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหนรวมทั้งอยากขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขุดศพของน้องพีพีขึ้นมาพิสูจน์อีกครั้งว่าเสียชีวิตจากสาเหตุใด ว่าไม่ได้ทำร้ายลูก ซึ่งทางเราคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสืบหาความจริงมาให้สังคมรับรู้ ในช่วงบ่ายเวลา 13.00 นต้นจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอไปดูที่บ้านของแม่น้อง เจ้าขาซึ่งอยู่ที่เอื้ออาทรบางบัวทอง เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุและความเป็นอยู่ว่ามีความเป็นมาอย่างไร

นางอนันต์ผู้เป็นย่าของน้องเจ้าขากล่าวว่า ขณะนี้อาการของน้องดีขึ้นเล็กน้อยจนเข้าไปเยี่ยมล่าสุดพูดกับน้องน้องก็พยักหน้ารับรู้ส่วนตอนนี้แพทย์ก็ยังให้ยาฆ่าเชื้อทางปอดและกระเพาะปัสสาวะ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เหมือนน้องรับรู้ทุกครั้งที่ตอนไปเยี่ยมและพยักหน้าพยายามจะพูดกับตน จนทุกครั้งตนต้องน้ำตาซึมที่เข้าไปเยี่ยมหลาน

ขณะที่นายณัฐพล ผู้เป็นพ่อเผยถึงเหตุการณ์ก่อนหย่ากับอดีตภรรยาว่า มีอยู่คืนหนึ่งลูกตนเองร้องเสียงดังมากจนตกใจรีบตื่นขึ้นมาดูก็พบว่าแม่เขาออกจากบ้านไป ตนพยายามโทรหาประมาณ 20-30 ครั้งก็ไม่รับสายจนกระทั่งต่อมาไม่กี่วันตนก็พบอดีตภรรยากับแฟนใหม่ขี่ จยย.อยู่หน้าหมู่บ้านจึงรู้ว่าภรรยาแอบไปมีคนอื่น ตนพยายามควบคุมอารมณ์และเข้าไปพูดคุยฝ่ายชายคือสามีคนปัจจุบันของเขา ตนสอบถามฝ่ายชายก็พยักหน้าใส่ตน ตนจึงพูดกับภรรยาว่ากลับบ้านค่อยคุยกันหลังจากนั้นมาเราทั้งสองก็ทำเรื่องหย่าขาดจากกัน ตนไม่รู้จริงๆเลยว่าเขาทำไมต้องทำร้ายลูกถึงขนาดนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยสืบหาความจริงและนำตัวคนที่ทำร้ายลูกชายจนเสียชีวิตลูกสาวจนบาดเจ็บสาหัสมาดำเนินคดีให้ได้ - 003