โควิดไทยรายวันป่วยใหม่ 2,046 ราย เสียชีวิต 24 ศพ ปอดอักเสบ 729 ราย “หมอธีระ” อัปเดตข้อมูลติดเชื้อทั่วโลกทะลุ 608 ล้านคนพร้อมเปิดผลวิจัยระบุโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2.75 ดื้อภูมิคุ้มกันใกล้เคียง BA.5 ถือเป็นข่าวดีที่ยารักษาโควิดที่ใช้ขณะนี้ยังได้ผลแต่ต้องเฝ้าระวัง เพราะแพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์เดิม “วิษณุ” แย้ม ศบค.จ่อพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เมื่อวันที่ 2 กันยายน ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) รายงานจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 2,046 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 2,046 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 0 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,431,534 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 รักษาหายป่วยกลับบ้าน 1,565 ราย ทำให้มียอดหายป่วยสะสม 2,437,676 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ผู้ป่วยกำลังรักษา 16,447 ราย จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 729 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตมี 24 ราย เสียชีวิตสะสม 10,654 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565
ด้านรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กให้ข้อมูลความคืบหน้าการระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกประจำวันว่า จนถึงวันที่ 1 กันยายน ทั่วโลกมีผู้ติดเพิ่ม 496,391 คน ตายเพิ่ม 1,307 คน รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อสะสม 608,462,390 คน ยอดเสียชีวิตรวม 6,497,437 คน โดย 5 อันดับประเทศที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ รัสเซีย สหรัฐอเมริกาและไต้หวัน ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกขณะนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 87.08 ของทั้งโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 71.38 ในส่วนการระบาดของไทยนั้น จากข้อมูล Worldometer พบว่า มีผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 14 ของโลก และอันดับ 6 ของเอเชีย
รศ.นพ.ธีระยังให้ข้อมูลเชื้อโควิด-19 โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2.75 ว่า ดื้อต่อภูมิคุ้มกันพอๆ กับ BA.5 โดยโอมิครอน BA.2.75 ที่ค้นพบครั้งแรกในอินเดีย และกระจายไปหลายประเทศทั่วโลก ถูกจับตาเฝ้าระวังใกล้ชิด มีการคาดการณ์ว่าอาจมาแทนที่ BA.5 ที่ขณะนี้ระบาดเต็มพื้นที่ทั่วโลกแล้วขณะนี้ เพราะยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายประเทศ อย่างไรก็ตาม มีผลวิจัยล่าสุดของ Karolinska Institutet ประเทศสวีเดน เผยแพร่ในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อ The Lancet Infectious Diseases เมื่อวันที่ 1 กันยายนมีสาระสำคัญที่ พิสูจน์ให้เห็นว่า BA.2.75 นั้น มีลักษณะดื้อต่อภูมิคุ้มกันไม่ต่างจาก BA.5 ซึ่งถือเป็นข่าวดี และยาแอนติบอดี้บางชนิดที่มีใช้ในปัจจุบันยังใช้ได้ผลในการรักษา อย่างไรก็ตาม สมรรถนะการแพร่เชื้อของ BA.2.75 ที่ดูจะมากกว่าสายพันธุ์เดิมที่ระบาดอยู่ นำไปสู่การติดเชื้อในคนจำนวนมากได้ ทั้งที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน และการติดเชื้อซ้ำ ดังนั้น ต้องไม่ประมาท ป้องกันตัวสม่ำเสมอ
รศ.นพ.ธีระยังกล่าวถึงประสิทธิภาพของวัคซีนในช่วง BA.5 จะลดลงกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้า โดยอ้างอิงข้อมูลล่าสุดจาก US CDC ที่เสนอในคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านวัคซีน (ACIP) เมื่อวันที่ 1 กันยายน ชี้ให้เห็นว่า ประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยต้องนอนโรงพยาบาลของวัคซีนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้นลดลงชัดเจน ในช่วงที่มี BA.4-BA.5 เมื่อเทียบกับช่วง BA.2 ที่ระบาดมาก่อน ข้อมูลดังกล่าว สะท้อนให้เราตระหนักถึงความสำคัญของพฤติกรรมป้องกันตัวในชีวิตประจำวัน และความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยหน่วยงานระดับนโยบายควรพิจารณา เรื่องการนำวัคซีนที่จำเพาะต่อสายพันธุ์ที่ระบาดมาใช้ควบคุมป้องกันโรคด้วย
อีกด้านหนึ่ง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรคเปิดเผยว่า ขณะนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อยืนยัน โรคฝีดาษวานร หรือ ฝีดาษลิง (Monkeypox)อยู่ที่ 7 ราย ซึ่งผู้ป่วยรายที่ 1-4 พ้นระยะความเสี่ยงที่ 21 วันแล้ว ส่วนรายที่ 5-7 อยู่ระหว่างสังเกตอาการ และตรวจหาเชื้อในผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติม ทั้งนี้ ผลตรวจผู้สัมผัสร่วมบ้านและผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในทุกราย ยังไม่พบผู้ติดเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน แสดงให้เห็นว่าโรคไม่ได้ติดง่าย ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แต่ต้องระวังในการใกล้ชิดกับผู้มีความเสี่ยง การตรวจคัดกรองผู้ติดเชื้อในสถานพยาบาลมีความเข้มงวด ดังนั้น การพบผู้ติดเชื้อสะท้อนให้เห็นถึงการตรวจจับได้เร็ว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อต่อ
วันเดียวกัน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณายกเลิกการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 หรือพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า มีผู้เสนอเรื่องให้ยกเลิกประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งสมช.จะเป็นผู้พิจารณา และการประชุม ศบค.ครั้งต่อไป คงจะยกขึ้นมาพิจารณาได้ โดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีจะทำหน้าที่ประธาน ส่วนเรื่องการชุมนุมเกิน 5 คนนั้นยกเลิกไปนานแล้ว และไม่มีการนำเสนอให้นำกลับมาใช้ มีแต่จะยกเลิกทั้งหมด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี