‘ปคบ.-อย.’ แถลงจับเครือข่าย call center ลวงโลก จ้างบริษัทต่างชาติสร้างข้อมูลเท็จ หลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ พบเงินหมุนเวียนกว่า 600 ล้านบาท
6 กันยายน 2565 ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) อาคารประชาอารักษ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. , พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. , พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. , พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. , พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม , พ.ต.ท.นิธิ ตรี สุวรรณ รอง ผกก.4 บก.ปคบ. พร้อมด้วยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดย นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และ ภญ.อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ร่วมกันแถลงข่าว จับกุมเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์สร้างข้อมูลเท็จหลอกขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ แอบอ้างบุคคลผู้มีชื่อเสียง เป็นเหตุให้ผู้บริโภคหลงเชื่อในสรรพคุณของสินค้า
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 มีดีเจสาวชื่อดังมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. ว่าพบเพจเฟซบุ๊กนำรูปถ่ายของตนจากแอปพลิเคชันอินสตาแกรมส่วนตัว ไปทำการโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก โดยที่ตนเองไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำดังกล่าว จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนทราบว่า บริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ดำเนินการโฆษณาและจัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว อีกทั้งยังพบว่าบริษัทดังกล่าวยังมีการโฆษณาโดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่นที่ผิดกฎหมายอีกจำนวนหลายรายการ
ทั้งนี้ บริษัทดังกล่าวจะมีการจะมีการใช้ข้อความอันเป็นเท็จในการโฆษณาขายสินค้า , มีการตัดต่อรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง , แพทย์หรือสถานพยาบาลชื่อดัง มาใช้ประกอบกรโฆษณา และมีกรจัดทำผู้ซื้อสินค้าและผู้รีวิวการใช้ปลอมขึ้น เพื่อหลอกหลวงผู้บริโภคให้หลงเชื่อในสรรพคุณของสินค้า และมีการใช้ข้อความอันเป็นเท็จบรรยายสรรพคุณเกินจริง เมื่อผู้บริโภคหลงเชื่อข้อความอันเป็นเท็จ การบรรยายสรรพคุณเกินจริงดังกล่าว จะทำการสั่งซื้อโดยกรอกรายละเอียดของผู้ซื้อ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกลับผ่านเว็บไซต์ จากนั้นฝ่ายขายของบริษัท ซึ่งทำงานในลักษณะคอลเซ็นเตอร์ Call Center จะติดต่อกลับไปหาผู้ซื้อ เพื่อบรรยายสรรพคุณเกินจริง โน้มน้าวให้ผู้ซื้อหลงเชื่อตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าว ภายหลังจากที่ผู้บริโภคได้ใช้สินค้าเพื่อสุขภาพดังกล่าว ก็พบว่าสินค้าตังกล่าวมิได้มีสรรพคุณตามที่โฆษณาหลอกลวงไว้แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก 4 บก.ปคบ.จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาดังกล่าว จำนวน 4 ราย คือ นายมนัสศิริ , นายพิศิษฐ์ , นายธิติพัทธ์ , น.ส.อิสรีย์ ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1616/2565 ลง 15 ส.ค.2565ในข้อหา “ร่วมกันโฆษณาเครื่องสำอางโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค หรือใช้ข้อความที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม โดยใช้ข้อความที่เป็นเท็จหรือเกินความจริง โดยใช้ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับเครื่องสำอาง โดยใช้ข้อความที่แสดงสรรพคุณที่เป็นการรักษาโรคหรือที่มีใช่จุดมุ่งหมายเป็นเครื่องสำอาง , ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา”
ต่อมาเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. บก.ปคบ. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ได้ทำการจับกุม น.ส.อิสรีย์ และนายพิศิษฐ์ ตามหมายจับข้างต้น พร้อมประสาน อย. ทั้งเข้าตรวจค้นสถานที่ที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว ผลการตรวจค้นสามารถตรวจยืดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้จำนวนหลายรายการ เช่น คอมพิวเตอร์, โทรศัพท์มือถือ และเอกสารต่างๆ พร้อมทั้งตรวจยึดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ ผิดกฎหมาย จำนวน 33 รายการ มูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท จากนั้นเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุม นายมนัสศิริ และ นายธิติพัทธ์ ได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ขณะกำลังเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ
จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ให้การรับว่า บริษัทประกอบกิจการเกี่ยวกับการจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพในลักษณะ Call Center ผ่านทางช่องทางออนไลน์ โดยมีนายธิติพัทธ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น มีหน้าที่ให้การบริหารจัดการดูแลบริษัท และ น.ส.อิสรีย์ ซึ่งเป็นน้องสาวของนายธิติพัทธ์ มีหน้าที่ให้การดูแลด้านการเงินของบริษัท ส่วนการโฆษณาสินค้า บริษัทได้ว่าจ้างบริษัทในประเทศเวียดนาม , สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกันสร้างข้อความอันเป็นเท็จในการโฆษณาขายสินค้า , มีการตัดต่อรูปภาพบุคคลที่มีชื่อเสียง , แพทย์หรือสถานพยาบาลชื่อตัง มาใช้ประกอบกรโฆษณา และมีการจัดทำผู้ซื้อสินค้าและผู้รีวิวการใช้ปลอมขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคหลงเชื่อในสรรพคุณของสินค้า
จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระหว่างเดือน ม.ค.65 - มิ.ย.65 บริษัทผู้ต้องหามีรายได้จากการหลอกหลวงขายผลิตภัณฑ์สุขภาพให้แก่ผู้บริโภค ประมาณ 219 ล้านบาท มีการจ่ายเงินค่าโฆษณาไปยังต่างประเทศ คือ เวียดนาม , สิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รวมเป็นเงินจำนวน 188 ล้านบาท อีกทั้งบริษัทยังมีเงินหมุนเวียนทั้งสิ้นมากกว่า 660 ล้านบาท
พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า ฝากถึงพี่น้องประชาชนว่าขอให้ระมัดระวังและไตร่ตรองให้รอบคอบ โดยเว็บไซต์เหล่านี้จะใช้เทคนิคเชิญชวนให้กด “สิ่งซื้อพร้อมส่วนลด50%” ในลักษณะการสั่งซื้อผ่าน Call Center เมื่อกดการสั่งซื้อสินค้า หลังจากนั้นจะมีการติดต่อกลับจาก Call Center จะติดต่อกลับไปหาผู้ซื้อ เพื่อบรรยายสรรพคุณเกินจริง โน้มน้าวให้ผู้ซื้อหลงเชื่อตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าว และการจัดส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง ผ่านทางเว็บไซต์ต่างประเทศ มีการกล่าวอ้างบุคคลเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ เช่น แพทย์ เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย โดยเนื้อความเหมือนการให้ความรู้และสอดแทรกผลิตภัณฑ์ที่ต้องการขายลงไป ทำให้คนตกเป็นเหยื่อได้ง่าย และขอเตือนไปยังผู้คิดจะกระทำความผิดหลอกลวงคนอื่นด้วยวิธีการเอาความเจ็บป่วย หรือความเยาว์วัยมาหลอกลวงขายสินค้าให้กับผู้บริโภค หากพบจะดำเนินการทางกฎหมายให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ผู้ที่พบเห็นการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ. 1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา
ภญ. อรัญญา เทพพิทักษ์ ผู้อำนวยการศูนย์จัดการเรื่องร้องเรียนและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ กล่าวย้ำเตือนประชาชน ขออย่าได้หลงเชื่อโฆษณาที่หลอกลวงเกินจริง และสั่งซื้อผลิตภัณฑ์มาใช้โดยหวังผลการรักษาโรค เช่น รักษาเบาหวาน , รักษาเชื้อรา , รักษาหลอดเลือด , รักษาต่อมลูกหมาก , ถ่ายพยาธิ , เพิ่มสมรรถภาพทางเพศ , แก้ปัญหากรได้ยิน , ลดริ้วรอยย้อนอายุไป 30 ปี เป็นตัน เนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีหลักฐาน หรือผลการสอบประสิทธิภาพทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์มาสนับสนุน ขอให้ผู้บริโภคระลึกไว้เสมอว่าก่อนกดคำสั่งซื้อทุกครั้ง ขอให้ผู้บริโภคคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ หากหลงเชื่อซื้อสินค้าที่รักษาไม่ได้จริงตามที่กล่าวอ้าง จะทำให้ผู้ป่วยสูญเสียทั้งเงินทอง และเสียโอกาสในการรักษาที่ถูกต้องจากแพทย์เฉพาะทางได้
ทั้งนี้มีผลิตภัณฑ์หลายรายการที่ อย. ได้เคยออกข่าวประชาสัมพันธ์ในเว็บไซต์ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) และเว็บไซต์ของ อย. เช็ค ชัวร์ แชร์ แล้ว และจะติดตาม ฝ้าระวัง ข่าวปลอมของผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เพื่อแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่อง หากพบแหล่งผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมายหรืออาจไม่ปลอดภัยในการบริโภค ขอให้แจ้งเบาะแสร้องเรียนมาได้ที่ สายด่วน อย.โทร. 1556 อีเมล์ 1556@fida.moph.go.th หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี