วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'บิ๊กโจ๊ก'ยอมถอย! ถอนฟ้อง 'ผบช.น.' กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

'บิ๊กโจ๊ก'ยอมถอย! ถอนฟ้อง 'ผบช.น.' กับพวก ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 14.55 น.
Tag : บิ๊กโจ๊ก ถอนฟ้อง ธิติ แสงสว่าง ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
  •  

โจ๊กยอมถอย ถอนฟ้อง'บิ๊กจ้าว'กับพวก30คนปฏิบัติหน้าที่มิชอบดำเนินคดี-หมายจับ คดีเว็บพนันมินนี่ อ้างเหตุถอนฟ้องเพราะร้อง ปปช.ไว้เเล้ว 

วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถ.เลียบทางรถไฟ ศาลได้มีคำสั่งในคดีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร.ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีหมายเลขดำ อท.60/2567 ที่ ได้ยื่นฟ้อง พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กับพวกรวม 30 คนฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ


คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าจำเลย์ที่ 1เป็นผบช.น.และเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง จำเลยที่ 2-27เป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งที่ 58/2567ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์2567 โดยจำเลยที่2-28ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้า รองหัวหน้า พนักงานสืบสวน และพนักงานสอบสวน ซึ่งข้อเท็จจริงแห่งคดีอาญาที่ 724(คดีเว็บพนันมินนี่มีเส้นการเงินของบัญชีทั้งสามชื่อ ได้แก่ น.ส.เบญจมิน แสงจันทร์ นายสมพงษ์ ชิตวิลัย พยานในคดีและนายพุฒิพงษ์ พูนศรี ผู้ต้องหาในคดีเว็บมินนี่) ต่อมา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ได้ส่งสำนวนในคดีอาญาเลขที่ 724/2566 ของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) กรณีการกล่าว หา พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย รองผบก.สส.ภ. 4 กับพวกในข้อหาเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไชต์การพนันออนไลน์ กระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงินต่อคณะกรรมการ ปปช.ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561 มาตรา 61 

โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องกล่าวหาอยู่ในหน้าที่และอำนาจของ ปปช.แต่ผู้ถูกกล่าวหามิได้ดำรงตำแหน่งสูงและยังไม่เข้าข่ายความผิดร้ายแรง จึงมีมติให้ส่งเรื่องดังกล่าวคืนคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ เเล้วรายงานผลให้ ปปช.ต่อไปและคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ได้สรุปสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตสำนักงานอัยการสูงสุด แล้วต่อมาในระหว่างที่มีการดำเนินคดีอาณาที่ 724/2566 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนได้มอบหมายให้จำเลยที่29และ 30ผู้กล่าวหา มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีต่อจำเลยที่ 16 ที่ สน.เตาปูน มีการกล่าว หา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ,น.ส.เบญจมิน แสงจันทร์,นายพุฒิพงษ์ พูนศรี และ น.ส.พิมพ์วิไล ปล้องอ่อน กับพวกรวม 7 คน ในความผิดฐาน "สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน นั้น จึงเป็นกรณีที่จำเลยที่ 29 และจำเลยที่ 30 ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อจำเลยที่ 16

โดยนำข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งที่อยู่ในคดีอาญาที่ 724/2566 หรือเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการสืบสวนสวนสวนขยายผลในคดีอาณาที่ 724/2566 ของบก.สอท.อันเป็นความผิดต่อเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ต่าง ๆ เกินกว่าท้องที่หนึ่งขึ้นไป และเป็นความผิดซึ่งมีหลายกรรม กระทำลงในท้องที่ต่างกัน และยังเป็นความผิดหลายเรื่องเกี่ยวพันกันโดยปรากฏว่าความผิดหลายฐานได้กระทำลงโดยผู้กระทำผิดคนเดียวกัน หรือผู้กระทำผิดหลายคนเกี่ยวพันกันในการกระทำความผิดฐานหนึ่งหรือหลายฐาน จะเป็นตัวการผู้สมรู้ร่วมคิดก็ตาม มาดำเนินคดีเป็นคดีขึ้นใหม่กับโจทก์ จึงเป็นการ กระทำที่มีเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้ถูกกล่าวหา ถูกกล่าวหาในหลายท้องที่ และเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ส่งสำนวนนี้ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายใน 30 วัน ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทจริต พ.ศ.2561 มาตรา 61

ต่อมาวันที่ 27ธันวาคม2566 คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ได้ส่งสำนวนในกรณีกล่าวหาโจทก์กับพวกรวม 5 คน ไปยังคณะกรรมการ ปปช.ในความผิดฐาน "'เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดฯ ,เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฯสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน 

ต่อมาวันที่ 4 มีนาคม2567 ปปช.ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 26/2567ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ารัฐธรรมนูญฯ มาตรา 234 (2) ได้กำหนดให้ ปปช.มีหน้าที่และอำนาจไต่สวนและวินิจฉัยว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ปปช.จึงมีมติเสียงข้างมากรับเรื่องกล่าวหาโจทก์กับพวกรวม 5 นาย กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากเว็บไชต์การพนันออนไน์ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งสูงกว่า ผู้อำนวยการระดับสูงและเทียบเท่า และพฤติการณ์มีการได้รับผลประโยชน์เป็นเงินจำนวนมาก อีกทั้งเป็นคดี ที่สำคัญอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไปอันเข้าลักษณะเป็นความผิดร้ายแรงหรือเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบอย่างกว้างขวางประกอบกับสำนวนการสอบสวนคดีพ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัยกับพวก เป็นคดีที่มีการกระทำความผิดเกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน จึงให้เรียกสำนวนการสอบสวนเรื่องกล่าวหาพ.ต.อภาคภูมิ กับพวก และเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดคืนมาเพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไx

การกระทำของจำเลยที่ 1 ในการออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรับผิดชอบคดีอาญาที่ 391/2566 ของ สน.เตาปูน โดยมีจำเลยที่ 2 - 28 เป็นคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน จึงเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากคดีนี้เกี่ยวข้องเป็นส่วนหนึ่งของคดีอาญาที่ 724/2566 และเป็นข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการสืบสวนสวนสวนขยายผลในคดีอาณาที่ 724/2566 ของบก.สอท. 1 จึงเป็นคดีความผิดเกี่ยวเนื่องและกระทำต่อเนื่องกันในท้องที่ต่าง ๆ 

ที่พนักงานสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริง รวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นแล้วส่งให้คณะปปช. ภายใน30วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องทุกข์กล่าวโทษคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจึงไม่มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน รวมตลอดถึงการขอ ศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับพ.ต.ท.คริษฐ์กับพวก7คน ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกันกับธุรกรรมการโอนเงินในคดีอาญาที่ 724/2566โดยในคำร้องขอออกหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ของจำเลยที่ 17 ผู้ร้อง ได้กล่าวถึงบัญชีธนาคารของน.ส.พิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ต้องหาในคดีที่ 391/2566ไว้ในคำร้องแล้ว

แสดงให้เห็นว่าข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของน.ส.พิมพ์วิไล ที่จำเลยที่ 29และจำเลยที่ 30 นำมาแจ้งข้อกล่าวหาและรับเป็นคดีใหม่ที่ สน.เตาปูนนั้น เป็นข้อเท็จจริงเดิมในคดีอาณาที่ 724/2566 ซึ่ง ปปช.ได้มีมติเรียกสำนวนไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่แล้ว 

จึงเป็นกรณีแสดงให้เห็นแล้วว่า จำเลยทั้งสามสิบคน ร่วมกันวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเจตนากลั่นแกล้งให้ผู้ถูกกล่าวหา ในหลายท้องที่ และเป็นการหลีกเลี่ยงที่จะไม่ส่งสำนวนนี้ไปยัง ปปช. ภายใน 30 วัน และส่งผลให้พ.ต.ท.โทคริษฐ์ ถูกออกหมายจับถูกจับกุม และถูกแจ้งข้อกล่าวหา จนก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง สิทธิ และเสรีภาพ

ต่อมาโจทก์ทราบว่าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 593/2566 ซึ่งรับผิดชอบสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 724/2566 โดยมีพล.ต.อ. ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน มีการนำข้อเท็จจริงจากการทำธุรกรรมการเงินและพยานหลักฐานเดิมที่มีการดำเนินคดีกับพ.ต.ท.คริษฐ์ในคดีอาญาที่ 724/2566 ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นคดีใหม่ที่สน.เตาปูน เป็นคดีอาญา391/2566 ว่ากระทำความผิดฐาน "ฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน" 

โดยจำเลยที่ 1 ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีหน้าที่รับผิดชอบสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจึงย่อมต้องทราบข้อเท็จจริงมาตลอดว่าธุรกรรมการเงินและพยานหลักฐานที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาคดีอาญาที่ 391/2566 เป็นข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกันกับธุรกรรมการโอนเงินในคดีอาญาที่
729/2566 

การที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนซึ่งรับผิดชอบสำนวนการสอบสวนคดีอาณาที่ 729/2566 แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับพ.ต.ท.คริษฐ์ กับพวก ที่เตาปูนในคดีอาญาที่ 391/2566 จึงเป็นการกระทำที่ไม่มีอำนาจและไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะ ปปช. ได้มีมติที่จะรับคดีดังกล่าวไว้พิจารณา

อีกทั้ง พรบ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 กำหนดว่าคดีความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน คดีความผิดที่มีบทกำหนดโทษตามมาตรา 60 และมาตรา 61 แห่งพรบ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ที่เป็นคดีอาญาอื่นที่มีมูลน่าเชื่อว่ามีทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดที่มีมูลค่าตั้งแต่สามร้อยล้านบาทขึ้นไป การที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาพันตำรวจโทคริษฐ์ ปริยะเกต. กับพวก ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงินฯเเละปรากฎยอดเงินจำนวน400ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอำนาจของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษกรมสอบสวนคดีพิเศษ 

การกระทำของจำเลยทั้ง30คน จึงเป็นการร่วมกันกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 83 และ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 มาตรา 171 และมาตรา 172

เหตุเกิดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล,สถานีตำรวจนครบาลเตาปูน และศาลอาญา  ภายหลังยื่นฟ้อง ศาลได้นัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษาในชั้นตรวจคำฟ้อง ในวันที่  27 พฤษภาคม นี้

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องจำเลยทั้ง30คนโดยให้เหตุทำนองว่า เนื่องจากโจทก์ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อปปช.ขอให้ดำเนินการไต่สวนกับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนไว้เเล้ว จึงขอถอนฟ้องคดี 

ศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ชุดตำรวจที่ไปพัวพันคดีเว็บพนันเเละถูกจับกุมซึ่งเป็นตำรวจที่มีความใกล้ชิดกับพล.ต.อ สุรเชษฐ์ ได้ยื่นฟ้องชุดพนักงานสอบสวนเเละชุดจับกุมหลายคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ในศาลอาญาคดีทุจริตฯซึ่งศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้องมาโดยตลอด.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • โฆษก ตร.ยันไล่ออก\'บิ๊กโจ๊ก-พวก\'ทำตาม กม. เปิดช่องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้เต็มที่ โฆษก ตร.ยันไล่ออก'บิ๊กโจ๊ก-พวก'ทำตาม กม. เปิดช่องใช้สิทธิอุทธรณ์คำสั่งได้เต็มที่
  • เปิดรายชื่อตำรวจ โดนไล่ออกพ้นราชการพร้อม‘บิ๊กโจ๊ก’รวม 5 นาย เปิดรายชื่อตำรวจ โดนไล่ออกพ้นราชการพร้อม‘บิ๊กโจ๊ก’รวม 5 นาย
  • ‘บิ๊กต่าย’เซ็นแล้ว ไล่ออก‘บิ๊กโจ๊ก’ ลุ้นอุทธรณ์ก.พ.ค.ตร.ได้ ‘บิ๊กต่าย’เซ็นแล้ว ไล่ออก‘บิ๊กโจ๊ก’ ลุ้นอุทธรณ์ก.พ.ค.ตร.ได้
  • เปิดขั้นตอนหลังไล่ออก\'บิ๊กโจ๊ก\' ยังมีช่องดิ้นสู้อีกยาวๆ ลุ้นยัน\'ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ\' เปิดขั้นตอนหลังไล่ออก'บิ๊กโจ๊ก' ยังมีช่องดิ้นสู้อีกยาวๆ ลุ้นยัน'ถอดยศ-เรียกคืนเครื่องราชฯ'
  • ด่วน! คณะกรรมการพิจารณาโทษ ตร. เห็นชอบไล่ออก\'บิ๊กโจ๊ก\' งดบำเหน็จ บำนาญ ด่วน! คณะกรรมการพิจารณาโทษ ตร. เห็นชอบไล่ออก'บิ๊กโจ๊ก' งดบำเหน็จ บำนาญ
  • เผยเบื้องลึกคำสั่งดับฝันคุ้มครอง\'บิ๊กโจ๊ก\'ขององค์คณะศาลปกครองสูงสุด เผยเบื้องลึกคำสั่งดับฝันคุ้มครอง'บิ๊กโจ๊ก'ขององค์คณะศาลปกครองสูงสุด
  •  

Breaking News

'ประเสริฐ' ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเชิงรุก 4 จังหวัดอีสานกลาง

(คลิป) เปิดค่าตัวทิพย์!! สส.พรรคส้ม ขี้โม้ ขี้ฟัน ราคาคุย

'ตูมตาม ยุทธนา'บวชเงียบ7วัน ทดแทนคุณพ่อแม่ ได้รับฉายาพระ 'สุขจิตฺโต'

ปิดฉากฆ่าโหด! รวบ 4 ทรชนยิง-เผานั่งยาง 3 ศพ ญาติสาปแช่ง 'ไอ้บิน' เคยฆ่ามาแล้ว 8 ศพ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved