วันที่ 6 ก.ย.65 ความคืบหน้ากรณีคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ภายในโรงแรมบลูลากูล เดอะทีค วิง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี มูลค่าความเสียหาย 70 ล้านบาท โดยวันนี้ พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) สุราษฎร์ธานี ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ยุทธนา ศิริสมบัติ ผกก.สภ.บ่อผุด และนายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย มีศักดิ์เป็นหลานของนางยมนา พูลสวัสดิ์ เข้าของที่ดินโรงแรมบลูลากูล เดอะทีค วิง ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกขโมยทรัพย์สินภายในตัวอาคารโรงแรม
โดย พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมผู้เสียหายได้เดินตรวจดูสภาพความเสียหายภายใน และภายนอกอาคารโรงแรมพบว่าได้รับความเสียหายอย่างมาก ถ้าหากจะมีการปรับปรุงให้กลับเปิดบริการอีกครั้งต้องใช้เงินลงทุนอีกเป็นจำนวนมาก โดยโรงแรมมีห้องพักทั้งหมด 348 ห้อง ที่ผ่านมาโรงแรมดังกล่าวได้มีชาวต่างชาติมาเช่าที่ดินจากนางยมนา พูลสวัสดิ์ เพื่อทำธุรกิจโรงแรมโดยก่อนจะหมดสัญญาเช่าเมื่อปี 2563 ผู้เช่าได้ตกแต่งภายในไว้อย่างเรียบร้อยสวยงาม ซึ่งสัญญาเช่าได้ระบุไว้ว่าเมื่อสัญญาเช่าสิ้่นสุดลงตัวอาคารและสวนควบภายในตัวอาคารทั้งหมดจะต้องตกเป็นของผู้ให้เช่าที่ดิน ส่วนสิ่งของที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ที่ไม่ใช่ส่วนควบผู้เช่าสามารถนำออกไปได้
จากการตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปได้แก่ หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเสาไฟฟ้าหน้าโรงแรม รวมไปถึงสายไฟฟ้าภายในอาคาร หลอดไฟ ปลั๊กไฟ ชักโครก อ่างล้างหน้า ฝักบัว ผ้าม่าน เหล็กราวบันได ราวกันตก โครงหลังคา กระจก ประตูไม้ ขอบประตูกระจกที่เป็นอลูมิเนียมรวมถึงหน้าต่างหน้าต่าง เครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำที่ใช้กับสระน้ำ ลิฟท์ยี่ห้อดังจากประเทศเยอรมัน ได้ถูกขโมยไปจากตัวโรงแรม นอกจากนี้ ยังพบขวดน้ำดื่มประเภทต่างๆ และห่อขนมของคนร้ายที่กินทิ้งไว้ภายในห้องพักของโรงแรม
พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เราได้เห็นสภาพความเสียหายของตัวโรงแรมดังกล่าว ซึ่งมีร่องรอยการรื้อและทำลาย โดยได้นำสิ่งของทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ออกไปจากโรงแรม ทางการสืบสวนได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจออกเป็นฝ่ายเพื่อติดตามทรัพย์สินรวมถึงผู้ก่อเหตุเพิ่มหลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้เบื้องต้นทั้งหมด 6 คน แบ่งเป็นผู้ต้องหาคนไทย 3 ราย และผู้ต้องหาที่เป็นแรงงานต่างชาติ 3 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่อง การติดตามทรัพย์สินจากร้านรับซื้อสิ่งของเก่าในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมกับติดตามทรัพย์สินที่ขโมยจากโรงแรมแห่งนี้ไป โดยจะติดตามกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด
ในส่วนของผู้เช่าจากการติดตามสืบสวนพบว่าผู้เช่าเป็นชาวต่างชาติได้เดินทางออกนอกประเทศไปนานแล้ว คิดว่าชาวต่างชาติที่เป็นผู้เช่าเก่าไม่น่าจะมีส่วนในการนำทรัพย์สินออกไป แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ตัดประเด็นนี้จึงแบ่งกำลังติดตามประเด็นนี้ เพราะยังมีญาติของผู้เช่ารายเดิมยังอยู่ในประเทศไทย หากการสืบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการละเว้น
ด้านนายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย กล่าวว่า เมื่อผู้เช่าหมดสัญญาได้มีการนำทรัพย์สินออกไปจากโรงแรมในส่วนที่ไม่ใช่ส่วนควบภายในอาคารตามสัญญา แต่ทรัพย์สินประเภทโทรทัศน์ ตู้เย็น รวมถึงตู้ เตียง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ถูกขโมยในครั้งนี้ แต่เป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ในการเช่าพื้นที่ ส่วนที่ดำเนินคดีประกอบด้วยทรัพย์สินภายในอาคาร และอุปกรณ์ส่วนควบ เช่น เฟรมหน้าต่าง สายไฟต่างๆ ในส่วนนี้นางยมนา พูลสวัสดิ์ แจ้งเจ้าหน้าที่ให้ดำเนินคดีเนื่องจากอยู่ในสัญญาที่จะต้องตกเป็นของเจ้าของที่ดินหลังจากหมดสัญญาเช่า จากการประเมินความเสียหายในส่วนของตัวอาคารและอุปกรณ์ส่วนควบมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาทโดยเป็นการประเมินจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ในฐานะนายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานด้วยกันเร่งรัดคดีอย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นการกู้คืนชื่อเสียงของเกาะสมุย รวมถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งการท่องเที่ยวของเกาะสมุยปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวกำลังกลับคืนมาเกิน 50 เปอร์เซ็ตน์แล้ว นอกจากนี้ การลงทุนก็เพิ่มมากขึ้นจากตัวเลขของธนาคารพบว่ามีนักลงทุนนำเงินเข้ามาลงทุนที่เกาะสมุยเมื่อเปรียบเทียบกับต้นปีเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์ซ็นต์
"ขอฝากถึงผู้ประกอบการที่ยังไม่เปิดให้บริการหรือกำลังจะเปิดให้บริการขอให้แจ้งมายังสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุยเพื่อสมาคมจะได้ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลทรัพย์สิน แต่ผู้ประกอบการก็ต้องมีมาตรการร่วมด้วยเช่นการติดกล้องวงจรปิดหรือมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย โดยจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปให้คำแนะนำหากมีการแจ้งมา เพื่อป้องกันทรัพย์สินถูกขโมย" นายรัชชพร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี