ปลัดกทม. สั่งเร่งตรวจสอบ-เบิกจ่าย “ค่าไฟฟ้า-ค่าของ-ค่าบริการ” หลัง กฟน. ร่อนหนังสือทวง กทม.ค้างจ่ายนาน 24 ปี รวม 492 ล้าน
รายงานข่าวแจ้งว่า นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการบริการระบบจำหน่าย ปฏิบัติการแทนผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวงได้ทำหนังสือถึงปลัดกรุงเทพมหานคร เรื่องค่าไฟฟ้า ค่าสิ่งของและบริการค้างชำระ โดยอ้างถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สาธารณูปโภค ค้างชำระตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยค่าสาธารณูปโภคที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เป็นต้นไปให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานอื่นๆ ชำระค่าสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนั้นๆ อย่างเคร่งครัดและให้การไฟฟ้านครหลวงประสานหน่วยงานในสังกัดให้ตรวจสอบและเร่งรัดชำระค่าไฟฟ้าและค่าสิ่งของและค้างชำระมาโดยตลอดนั้น
จากการตรวจสอบ ณ วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หน่วยงานในสังกัดกทม. มีค่าไฟฟ้า ค่าสิ่งของ (หลอดไฟ) และค่าบริการ (ค่าแรง) ค้างชำระ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2541-2564และปีงบประมาณ 2565 ถึงเดือนมิ.ย. 2565 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น492,492,256.11 บาท แบ่งเป็นค้างชำระค่าไฟฟ้า 259,012,920.67 บาท และค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 233,479,335.44 บาท โดยมีรายละเอียด ดังนี้ปี 2541-2560 ไม่ได้ค้างชำระค่าไฟฟ้า แต่ค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 15,027,900.28 บาท ปี 2561ค้างชำระค่าไฟฟ้า 974,577.95 บาท และค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 879,354.54 บาท ปี 2562 ค้างชำระค่าไฟฟ้า 1,265,231.51 บาท และ ค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 6,821,350 บาท ปี 2563 ค้างชำระค่าไฟฟ้า 755,151.58 บาท และค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ108,754,862.11 บาท ปี 2564 ค้างชำระค่าไฟฟ้า 895,122,110.75 บาท และค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 67,775,018.06 บาท และปี 2565 ค้างชำระค่าไฟฟ้า 255,255,110.75 บาท และค้างค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระ 34,220,850.45 บาท อย่างไรก็ตามขอให้กทม.ตรวจสอบและเร่งรัดการชำระค่าไฟฟ้า ค่าสิ่งของและค่าบริการค้างชำระดังกล่าว
ด้านนายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าเห็นควรให้หน่วยงานในสังกัดกทม.ดำเนินการ ดังนี้ 1.ค่าไฟฟ้าค่าสิ่งของและบริการค้างชำระ ปีงบประมาณ 2565 ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดเบิกจ่ายให้กับการไฟฟ้านครหลวง โดยมิชักช้า 2.ค่าไฟฟ้า ค่าสิ่งของและบริการค้างชำระ ปีงบประมาณพ.ศ.2561-2564 ให้สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธาสำนักการระบายน้ำ สำนักอนามัย สำนักงานเขตดุสิต สำนักงานเขตลาดกระบัง สำนักงานเขตสะพานสูง สำนักงานเขตบางขุนเทียน สำนักงานเขตราชเทวี สำนักงานเขตหนองจอก เร่งรัดตรวจสอบและเบิกจ่ายให้กับการไฟฟ้านครหลวงโดยมิชักช้า หากตรวจสอบพบว่าได้ชำระค่าไฟฟ้า ค่าสิ่งของและบริการแล้วให้สำเนาใบเสร็จรับเงินมายังสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง เพื่อแจ้งการไฟฟ้านครหลวงต่อไป 3.ค่าสิ่งของและบริการค้างชำระ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541-2560 ให้สำนักการจราจรและขนส่ง สำนักการโยธา สำนักงานเขตตุสิต สำนักงานเขตบึงกุ่ม สำนักงานเขตหนองจอก สำนักงานเขตราชเทวี สำนักงานเขตสะพานสูง และสำนักงานเขตหลักสี่ เร่งรัดตรวจสอบและเบิกจ่ายให้กับการไฟฟ้านครหลวง โดยมิชักช้าหากตรวจสอบพบว่าไม่มีเอกสารสำหรับการเบิกจ่ายให้เจรจากับการไฟฟ้านครหลวง เพื่อหาข้อยุติและรายงานความคืบหน้าให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง ทราบ 4.หากหน่วยงานตรวจสอบพบว่าข้อมูลที่การไฟฟ้านครหลวงแจ้งมาไม่ใช่ภารกิจที่จะเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ให้หน่วยงานจัดทำหนังสือถึงการไฟฟ้านครหลวงและสำเนาแจ้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักการคลัง ทราบ 5.การเบิกจ่ายเงินงานจุดเสี่ยงระยะที่ 1-4 ซึ่งค้างชำระ ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558-2560 ให้ดำเนินการตามมติที่ประชุม เรื่อง การพิจารณาจัดทำแนวทางการบริหารหนี้ค่าสิ่งของและบริการค้างชำระ สังกัดกทม. เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2561 ดังนี้ จุดเสี่ยงระยะที่ 1-3 ถ้าอยู่ในพื้นที่สำนักงานเขต หรือสำนักการระบายน้ำ หรือสำนักการโยธา ให้หน่วยงานนั้นๆเป็นผู้เบิกจ่าย ส่วนจุดเสี่ยงระยะที่ 4 สำนักการโยธา เป็นผู้เบิกจ่ายทั้งหมด หลังจากชำระค่าใช้จ่ายแล้ว หากอยู่ในพื้นที่สำนักงานเขตใดให้สำนักการโยธาทำหนังสือส่งมอบทรัพย์สินให้สำนักงานเขตนั้นๆ ด้วย