ครม.เคาะจ่าย2พัน/คน
ค่าตอบแทนอสม.-อสส.
ย้ำรักษาโควิดตามสิทธิ
UCEPเฉพาะป่วยสีแดง
ครม.อนุมัติตามที่ ก.สาธารณสุขเสนอจ่ายค่าตอบแทนให้อสม.-อสส.รวม 1.05 ล้านคน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน รวม 4 เดือนเดือนละ 500 บาท รวมทั้งหมด2พันบาทต่อคน และเห็นชอบหลักเกณฑ์กำหนดสิทธิUCEPกรณีโควิดเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ตั้งแต่1ต.ค.ขณะที่ สปสช.ย้ำผู้ติดเชื้อรักษาตามสิทธิแต่ละกองทุน ส่วนบัตรทองยกเลิกแจกชุดตรวจATKที่ร้านขายยา ส่วนสถาบันโรคผิวหนังแจ้งเปิดฉีดวัคซีนโควิดหลัง1ตค.ทุกวันเสาร์ฟรี หลังศูนย์บางซื่อปิดให้บริการ30กย.โควิดไทยขาลงติดเชื้อ351ตาย10ปอดอักเสบ492คน
เมื่อวันที่ 27 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจำนวน 2,100.61 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) 1,039,729 คน และอาสาสมัครสาธารณสุขกรุงเทพมหานคร (อสส.) 10,577 คน รวม 1,050,306 คน ช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน 2565 รวม 4 เดือน ในอัตรา 500 บาทต่อคนต่อเดือน รวมเป็น 2,000 บาทต่อคน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดโควิด-19 ได้จ่ายชดเชย อสม.ไปแล้วทั้งหมด 2 ปี 6 เดือน
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมครม.เพิ่มเติมว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขกำหนดค่าใช้จ่ายดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต กรณีโรคติดเชื้อโควิด- 19 ฉบับที่ 2 มีผลให้การใช้สิทธิเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตมีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP สำหรับผู้ป่วยโควิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจะครอบคลุมเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องสถานการณ์ของไทยที่กำลังเข้าสู่ภาวะหลังระบาดใหญ่ (Post Pandemic) ซึ่งการใช้สิทธิ UCEP ต้องกลับเข้าสู่ระบบปกติ รวมถึงแก้ไขเพิ่มเติมบัญชีและอัตราค่าใช้จ่ายแนบท้ายต่างๆ ให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ระบาดปัจจุบันด้วย
สำหรับสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด ซึ่งใช้สิทธิ UCEP ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ได้ปรับปรุงหลายส่วน อาทิ กำหนดให้ยกเลิกค่าจ่ายบางรายการในหมวดค่าห้องและค่าอาหาร ค่าเวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา รวมถึงกำหนดให้ กรณียา Molnupiravir Remdesivir และ Nirmatrelvir/ritonavir ให้เบิกยาหรือค่าใช้จ่ายจากกองทุนของผู้มีสิทธิ ได้แก่ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประกันสังคม ส่วนราชการหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ตามอัตรา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กองทุนของผู้มีสิทธิกำหนด
ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) กล่าวว่า หลังวันที่ 1 ตุลาคม ที่โควิด-19 เป็นโรคติดต่อต้องเฝ้าระวังมีประชาชนส่วนหนึ่งสอบถามเข้ามาเรื่องสิทธิการรักษา ขอยืนยันว่า ประชาชนยังสามารถรับบริการรักษาโควิดได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายในสิทธิการรักษาของตน ทั้งสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือบัตรทอง สิทธิประกันสังคม และสิทธิสวัสดิการข้าราชการ ซึ่งแต่ละกองทุนจะจ่ายค่ารักษาให้ อย่างไรก็ตาม แต่จะปรับเปลี่ยนบางส่วนให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิดที่ป่วยแล้วอาการไม่รุนแรง คล้ายไข้หวัดใหญ่
ทพ.อรรถพรกล่าวต่อว่า สำหรับผู้ป่วยโควิดยังรักษาฟรีได้ตามสิทธิของแต่ละกองทุน หากติดเชื้อสามารถไปรับยาแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ เรื่องจ่ายค่าวัคซีนโควิดเป็นสิทธิของแต่ละกองทุน ส่วนที่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องการแจก ATK ที่รับได้ที่ร้านยา ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมจะยุติการแจก ATK แต่หากจำเป็นและแพทย์วินิจฉัยสั่งให้ตรวจหาเชื้อ ATK หรือ RT-PCR สามารถตรวจได้ฟรีเช่นเดิม และกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตยังเข้าเกณฑ์ยูเซปพลัส มีข้อสงสัยให้สอบถามได้ที่สปสช.1330
ส่วนการให้บริการรักษาโรคโควิดทางระบบออนไลน์ หรือ Telemedicine ผ่าน 4 แอปพลิเคชันยังดำเนินการต่อไป ซึ่งมีบริการส่งยาฟรีถึงบ้าน ประกอบด้วย แอพพิเคชั่น Clicknic แอพพิเคชั่น Totale Telemed แอพพิเคชั่น MorDee และแอพพลิเคชั่น Good Doctor ถ้าตรวจ ATK ขึ้น 2 ขีดเลือกลงทะเบียนผ่านแอพพิเคชั่นเหล่านี้ได้
ทพ.อรรถพรกล่าวอีกว่า สำหรับการจ่ายค่าความเสียหายจากการฉีดวัคซีนในส่วนสปสช.นั้น จะใช้มาตรา 41 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 จ่ายชดเชยเบื้องต้นแทน ทั้งนี้ ค่าบริการกรณีเกิดอาการไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนโควิดเปลี่ยนเป็นค่าบริการผู้ป่วยนอกและค่าบริการผู้ป่วยในตามระบบปกติ ยาIVIG จ่ายตามระบบ VMI
วันเดียวกัน สถาบันโรคผิวหนังออกประกาศแจ้งเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า หลังศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อปิดให้บริการฉีดวัคซีนวันสุดท้ายวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งตั้งแต่เดือนตุลาคม ประชาชนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนสามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนต่อได้ที่สถาบันโรคผิวหนัง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยจะเปิดให้บริการวันเสาร์ ที่ 1, 8, 29 ตุลาคม 2565 ยกเว้นวันเสาร์ที่ 15 และ 22 ตุลาคม 2565 งดบริการ เนื่องจากเป็นวันหยุดต่อเนื่อง วันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่ห้องประชุมชั้น 20 เวลาทำการ0 9.00 -15.00 น.เปิดให้บริการทั้งรูปแบบจองคิวล่วงหน้าและลงทะเบียน ณ จุดฉีด (walk in) คนไทย / ต่างชาติ / ต่างด้าว อายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ทุกเข็ม ชนิดวัคซีนที่มีให้บริการคือ ไฟเซอร์ฝาสีม่วง ไฟเซอร์ฝาสีส้ม จองคิวฉีดล่วงหน้าได้ที่https://covid19.iod.go.th/vaccine
ด้านศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิดประจำวันอังคารที่ 27 กันยายนว่า ไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 351 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยในประเทศ 351 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ – ราย ผู้ป่วยสะสม 2,455,587 รายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 หายป่วยกลับบ้าน 801 ราย หายป่วยสะสม 2,471,392 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ผู้ป่วยกำลังรักษา 6,400 ราย เสียชีวิต 10 ราย เสียชีวิตสะสม 11,038 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในรพ. 492 ราย
ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีนโควิดประจำวันที่ 26 กันยายน ฉีดได้เพิ่ม 9,214 โดส แบ่งเป็น เข็มที่ 1 จำนวน 624 โดส เข็มที่ 2 จำนวน 1,130 โดส เข็มที่ 3 จำนวน 7,460 โดส ผู้ฉีดวัคซีนสะสมรวม 143,287,515 โดส
ขณะที่นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ลงนามยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักเกณฑ์การเปิดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาตามข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เนื่องจากสถานการณ์ระบาดของโควิดในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายลง และสธ.ประกาศให้โควิดเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป พร้อมกับศบค.มีมติยกเลิกประกาศการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพื่อกลับไปใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนเป็นต้นไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี