วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ข่าว Like สาระ
‘เลขาฯTSPCA’กางข้อก.ม. เคลียร์ชัดๆปล่อยสัตว์ในวัด ‘อภัยทาน’บนความสมควร

‘เลขาฯTSPCA’กางข้อก.ม. เคลียร์ชัดๆปล่อยสัตว์ในวัด ‘อภัยทาน’บนความสมควร

วันศุกร์ ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 09.49 น.
Tag : เขตอภัยทาน ห้ามปล่อยสัตว์ในวัด TSPCA
  •  

‘เลขาฯTSPCA’กางข้อก.ม. เคลียร์ชัดๆปล่อยสัตว์ในวัด ‘อภัยทาน’บนความสมควร

3 พฤษภาคม 2567 จากกรณีที่ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เตือนผู้ค้าห้ามขายปลาภายในวัด ต.บึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อการทำบุญ เสริมความเป็นสิริมงคล โดยมีการยกข้อกฎหมายและ พ.ร.บ.เกี่ยวกับสัตว์ และผลการประชุมมหาเถรสมาคมเมื่อวันที่ 10 ก.ค.61 ซึ่งมีการออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ จนเหตุการณ์ปานปลาย ถึงขั้นการทำร้ายร่างกายกันนั้น


ดร.สาธิต ปรัชญาอริยะกุล เลขาธิการและผู้อำนวยการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) แสดงความคิดเห็นส่วนตัว ว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ตนทราบข้อเท็จจริงจากสื่อ ซึ่งรู้สึกว่าไม่ควรจะใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา และควรใช้แนวทางสันติวิธี ข้อกฎหมายที่มีอยู่จะดีกว่า อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและขอเป็นกำลังใจให้ แต่แน่นอนบางกรณีอาจเป็นเรื่องของการขัดผลประโยชน์ เรื่องของอาชีพ การทำมาหากิน ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ แต่ต้องมีวิธีการปรับตัวของการค้าให้เข้ากับสภาพบริบทแวดล้อมทางสังคมและข้อกฎหมายที่มีอยู่ ซึ่งสังคมจะอยู่ร่วมกันได้ ควรต้องมีขอบเขตและกติกาของการอยู่ร่วมกัน เพื่อความสงบเรียบร้อยและรักษาศีลธรรมอันดีของประชาชน

เลขาธิการ TSPCA กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น ถ้าในแง่การปล่อยสัตว์ในวัด สมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย (TSPCA) ได้รณรงค์เรื่องการยุติกับจับสัตว์ในธรรมชาติมาเพื่อปล่อยอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดทำภาพยนตร์สั้น ปล่อยนกบุญหรือบาป ? หรือรักไม่ปล่อย เพราะการจับสัตว์เพื่อมาปล่อยก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง แม้การปล่อยสัตว์จะเป็นธรรมเนียมการปฏิบัติที่สืบทอดต่อกันมา ถูกยึดโยงกับความเชื่อและพิธีกรรมทางศาสนา

แต่เนื่องด้วยวัตถุทานคือสัตว์ในปัจจุบันต่างจากอดีต เพราะวิธีการจับสัตว์เพื่อมาปล่อยในปัจจุบัน เป็นการทำลายวงจรชีวิตสัตว์ในธรรมชาติ เช่น จับแม่นก ลูกนกก็ตายหมดทั้งรังเพราะขาดอาหาร จับแม่ปลาลูกปลาก็ถูกกินทั้งหมดคอกเพราะไม่มีผู้ดูแล และเป็นการสนับสนุนวงจรธุรกิจค้าชีวิตสัตว์ เป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1 และจะนำมาสู่การทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์โดยไม่สมควร เช่น การจับ การขังเพื่อรอปล่อยปลา นก เต่า ก็ได้รับความทุกข์ทรมาน จากภาชนะ กรงที่คับแคบ แออัด เป็นต้น

ทั้งนี้ สัตว์ที่มีการจับตามธรรมชาติเพื่อมาสู่ธุรกิจเพื่อปล่อย เช่น เต่า หอยขม ปลาไหล ฯลฯ อาจจะทำบุญที่ทารุณสัตว์เช่นกัน เพราะหากปล่อย “เต่า” ในน้ำเชี่ยวที่ไม่มีตลิ่งให้เกาะหรือปล่อยเต่าในน้ำกร่อย ตาเต่าจะค่อยๆบอด และก็จะตายไปในที่สุด , “หอยขม” ต้องอยู่ในที่ชื้นแฉะ เช่น บึงคลอง ไม่ใช่แม่น้ำ , “ปลาไหล” ก็เช่นกัน อยู่ไม่รอดเช่นกันในน้ำเชี่ยวไหลแรง และสำหรับปลาที่จับตามธรรมชาติหรือซื้อจากท้องตลาด หรือในบริเวณวัดและปล่อยในแม่น้ำก็เช่นกัน ต้องระวัง เพราะปลาอาจจะช็อกในน้ำที่มีอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อมแตกต่างจากที่เคยเติบโตมาได้ และปลาบางชนิดปล่อยลงไปก็อาจสร้างปัญหาการรุกรานจากปลาต่างถิ่น การทำลายระบบนิเวศวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพได้ ซึ่งขณะนี้เป็นปัญหาอย่างมาก

สำหรับกฎหมายในปัจจุบันตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้กำหนดห้าม ในการล่าสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น นก เต่า บางชนิด ฯลฯ ตามมาตรา 12 ประกอบมาตรา 89 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท การครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามมาตรา 17 ประกอบมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“การทิ้งสัตว์” หรือการปล่อยสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557  มาตรา 23 ห้ามมิให้เจ้าของสัตว์ ปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำการใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งได้กำหนดโทษไว้ใน มาตรา 32 ถ้าเจ้าของไม่ปฏิบัติหรือฝ่าฝืนมาตรา 23 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท 

สำหรับเรื่องการ “ปล่อยสัตว์ในวัด” นั้น เคยมีมติมหาเถรสมาคมฯ ที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ

1.กำหนดเขตอภัยทานในพื้นที่วัด พ.ศ.2538 ข้อ 4 การกำหนดเขตอภัยทานขึ้นไว้ โดยความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์บก สัตว์น้ำ ตลอดถึงปักษีทวิชาติที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน หรือรบกวนด้วยประการใดๆ ดังนั้น วัดจึงมีเขตอภัยทาน (animal sanctuary) ซึ่งเป็นเขตที่ห้ามผู้ใดกระทำ อันมุ่งหมายแก่การทำร้ายทำลายชีวิตสัตว์ อันเป็นการกระทำความผิดศีลธรรมเพื่อให้สัตว์ได้อาศัยด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจากการถูกเบียดเบียน

2.มติที่ 410/2561 เรื่อง การจัดทำหลักเกณฑ์ วิธีการ ในการปล่อยสัตว์ในวัด โดยออกหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติ 3 ข้อ ดังนี้ 

2.1 ให้กำหนดพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามเจ้าของสัตว์ นำสัตว์มาปล่อย ละทิ้ง หรือกระทำใด ๆ ให้สัตว์พ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร

2.2 ให้กำหนดเขตพื้นที่วัดเป็นเขตห้ามซื้อขายหรือการทำธุรกิจเกี่ยวกับการค้าชีวิตสัตว์ภายในเขตวัด 

2.3 ให้วัดต่าง ๆ ถือปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า โดยเคร่งครัด โดยมติดังกล่าวทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มีหนังสือ เลขที่ พศ.0006/09315 เรื่อง ขอส่งมติมหาเถรสมาคม แจ้งให้เจ้าคณะจังหวัดทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติตามมติ

“อาจกล่าวได้ว่าจากมติมหาเถรสมาคมและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว วัดนั้นจึงเป็นพื้นที่เขตอภัยทาน สัตว์ที่อยู่ในวัดจะอาศัยอยู่ได้ด้วยความร่มเย็นเป็นสุขปราศจาการเบียดเบียน แต่เจ้าของสัตว์นั้นก็ไม่ควรนำสัตว์ของตนมาปล่อย ละทิ้ง ในพื้นที่วัดโดยไม่มีเหตุอันควร เพราะปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดความรับผิดแล้ว และในพื้นที่วัดไม่ควรมีการค้าขายชีวิตสัตว์อันเป็นการกระทำฝ่าฝืนศีลธรรมในวัดอีกด้วย” ดร.สาธิต กล่าว

ดร.สาธิต กล่าวด้วยว่า ดังนั้นเรื่องจากรณีดังกล่าว ในเมื่อวัดมีมติขอความร่วมมือจากผู้ขายสัตว์ภายในวัด ให้ย้ายการขายสัตว์ออกนอกวัด ตามมติเถรสมาคมและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภายในระยะเวลา 1 เดือนนั้น ผู้ขายก็ควรมีการดำเนินการให้ถูกต้องเหมาะสม ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องก็ควรปฏิบัติกับผู้ค้าอย่างให้เกียรติและช่วยกันหาทางออกร่วมกันเพื่อสร้างสังคมและชุมชน ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขต่อไป  ///-005

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • TSPCA สัมมนาเครือข่าย‘ผู้รักสัตว์’ครั้งที่ 13 มุ่งสร้างเมตตาสัตว์ด้วยความรับผิดชอบ TSPCA สัมมนาเครือข่าย‘ผู้รักสัตว์’ครั้งที่ 13 มุ่งสร้างเมตตาสัตว์ด้วยความรับผิดชอบ
  • TSPCA 31 ปีแห่งการต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์ TSPCA 31 ปีแห่งการต่อสู้เพื่อสวัสดิภาพสัตว์
  • ‘TSPCA-สว.’ถกแก้ปัญหา‘ช้างป่า’ กางพิมพ์เขียวลดขัดแย้ง ‘TSPCA-สว.’ถกแก้ปัญหา‘ช้างป่า’ กางพิมพ์เขียวลดขัดแย้ง
  • อุปนายก TSPCA ลงพื้นที่ช่วยเหลือสัตว์ อุปนายก TSPCA ลงพื้นที่ช่วยเหลือสัตว์
  • TSPCAประชุมสามัญปี67 เตรียมพร้อมสู่ 3 ทศวรรษ‘สวัสดิภาพสัตว์’เพื่อก่อเกิด‘สวัสดิภาพคน’ TSPCAประชุมสามัญปี67 เตรียมพร้อมสู่ 3 ทศวรรษ‘สวัสดิภาพสัตว์’เพื่อก่อเกิด‘สวัสดิภาพคน’
  • 13 มีนาคม‘วันช้างไทย’ TSPCA ลุยตรวจสุขภาพดูแลรักษาช้าง 1,198 ครั้งในปี 2566 13 มีนาคม‘วันช้างไทย’ TSPCA ลุยตรวจสุขภาพดูแลรักษาช้าง 1,198 ครั้งในปี 2566
  •  

Breaking News

ฝังแพทองธาร! ‘ฮุน เซน’เตรียมแฉเปิดคลิปเสียงเต็ม 17 นาที

(คลิปเสียง) ว่อนคลิปเสียง 'อุ๊งอิ๊งค์' คุย 'ฮุน เซน' ชี้ 'มทภ.2'เป็นฝ่ายตรงข้าม

'ปิยบุตร'ทุบโต๊ะ'นายกฯ'ต้องยุบสภา เซ่นคลิปเสียงฮุนเซน-แย่งเก้าอี้ มท.

ด่วน! 'พ.อ.ซอเอวัน' ส่งมือชี้เป้าสังหารโหด 'ดีเจเตเต้' ให้ทางการไทยแล้ว!

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved