สภากทม. จี้ฝ่ายบริหาร หาแผนรับหลัง สปสช. ยกเลิกสิทธิบัตรทอง 9 รพ.เอกชน ฟาด สปสช.ต้องยันด้วย เพิ่มความมั่นใจให้ปชช.
วันที่ 28 กันยายน 2565 นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร แถลงก่อนการประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยที่สอง (ครั้งที่ 4) ประจำปีพุทธศักราช 2565 ถึงประเด็นที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการของโรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 9 แห่ง หรือ บัตรทอง ซี่งจะส่งผลกระทบกับประชาชนสิทธิ์บัตรทอง 6 แสนกว่าคน โดยมีนางกนกนุช กลิ่นสังข์ สมาชิกสภากรุงเทพมหานครเขตดอนเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการสาธารณสุขสภากรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงที่โถงชั้น 1 อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. ดินแดง
นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ประธานคณะกรรมการสาธารณสุขสภากรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การประชุมสภากรุงเทพมหานครวันนี้มีญัตติขอให้กรุงเทพมหานครเตรียมแผนรองรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาบริการสาธารณสุขโรงพยาบาลเอกชนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เข้าพิจารณา โดยส.ก.ทั้ง 50 เขตเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน สอบถามผู้บริหารกรุงเทพมหานครถึงแผนรองรับว่ามีการเตรียมแผนอย่างไร เพราะเป็นปัญหาเร่งด่วนที่กระทบประชาชนทุกเขต ในโรงพยาบาลที่ยกเลิก มีผู้ป่วยที่รักษาต่อเนื่องจำนวนมาก ทั้งที่รักษาโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน ฝากครรภ์ ใกล้คลอด ฟอกไต รักษามะเร็ง รวมถึงผู้ป่วย ICU จะทำอย่างไร ต้องมีแนวทางชัดเจนไปบอกกับพี่น้องประชาชน กรณี สปสช. แจ้งว่าขยายเวลาให้สามารถไปรักษาต่อเนื่องได้อีก 3 เดือน ไปถึงเดือนธันวาคม 2565 ขณะที่สัญญากับ 9 โรงพยาบาลสิ้นสุดสิ้นเดือนกันยายน สปสช.บอกทางเดียวไม่ได้ ต้องให้ 9 โรงพยาบาลยืนยันด้วย ก็ต้องถามกลับไปถึง สปสช.ในประเด็นนี้ จะแถลงร่วมกับ 9 โรงพยาบาลก็ได้เพื่อให้ประชาชนมั่นใจ ซึ่งก็ต้องฝากฝ่ายบริหารไปประสาน สปสช.
007
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี