สธ.เร่งเครื่องทำ 4 ด้าน ดันไทยขึ้นแท่นฮับกัญชา
5 ตุลาคม 2565 นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมาตรี ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ โดยเป็นการประชุมเพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินกัญชาทางการแพทย์ของหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุข โดยในครั้งนี้ได้เน้นการติดตามผลกระทบที่สังคมมีความกังวล โดยกรมการแพทย์ได้นำเสนอข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับพิษเฉียบพลันจากกัญชา จาก 3 แหล่ง คือ ฐานข้อมูลของกรมการแพทย์ ฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พบว่าเมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการปลดกัญชาออกจากรายการยาเสพติด จำนวนผู้ป่วยที่เกิดพิษเฉียบพลันจากกัญชายังไม่ได้มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และยังไม่พบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากพิษเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 81) อาการดีขึ้นหลังมารักษา โดยกลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 21-40 ปี ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ใช้ข้อมูลตรงนี้มาทำระบบการเฝ้าระวัง
นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการเฝ้าระวังผลกระทบ เรากำลังทบทวนข้อมูลจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการนำกัญชามาใช้ประโยชน์และทำให้เกิดควบคุมกำกับที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ อย่างในแคนาดา มีการทบทวนข้อมูลทางวิชาการอย่างเป็นระบบ โดยเมื่อเทียบความสามารถในการเสพติด ผลกระทบต่อสุขภาพและสังคมและการใช้ประโยชน์แล้วกัญชามีประโยชน์กว่ายาเสพติดอีกหลายชนิด จึงจัดกัญชาเป็น soft drug และได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้สาธารณชนเข้าใจ ทั้งด้านบวกและลบ และนำมาเป็นฐานคิดในการบริหารจัดการให้เกิดการนำมาใช้อย่างเหมาะสม แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทางกระทรวงก็คิดเช่นเดียวกับแคนาดา คือ ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการควบคุม
ทั้งนี้ เรามีตัวอย่างดีๆ จากการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพอีกมาก เมื่อเดือนก่อนผมก็ได้ลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานกัญชา และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ป่วย เกษตรกรพบว่า กัญชาช่วยชีวิตเขาได้มาก ทั้งในด้านความเจ็บป่วย และช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ วันนี้ทางโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น จังหวัดสกลนครก็มานำเสนอ เห็นเลยว่า 3 ปีที่เราเอากัญชามาใช้ประโยชน์มากกว่าโทษ มียาตำรับดีๆ ออกมาให้ประชาชนใช้ เกษตรกรมีรายได้จากการปลูก มีแหล่งสกัดที่เกษตรกรสามารปลูกแล้วนำไปสกัด แล้วนำสารสกัดมาทำผลิตภัณฑ์ต่อ ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงมีระบบดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน
“วันนี้ในที่ประชุมได้มีข้อสรุปหลังจากเราได้พิจารณาข้อมูลที่รอบด้านแล้วว่า เราต้องเร่งดำเนินการ 4 เรื่อง คือ การสื่อสารสร้างความเข้าใจจากข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน การวิจัยเพื่อสนับสนุนยาและผลิตภัณฑ์กัญชาใช้ การเข้าถึงการใช้ทางการแพทย์ของผู้ป่วย และการควบคุมกำกับที่เหมาะสมตามหลักวิชาการและวิถีชีวิต ซึ่งมั่นใจว่าหากดำเนินการครบ จะทำให้เกิดการนำมาใช้ประโยชน์บนความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง” นพ ประพนธ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี