ดิจิท โซล จับมือจุฬาฯ ดำเนินโครงการตรวจสอบผลCU-TEP ด้วยบล็อกเชน เสริมความปลอดภัยให้ระบบข้อมูล สู่ใบปริญญา NFT ที่ใครๆ ก็ตรวจสอบได้
Digit Soul (ดิจิท โซล) บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี (Technology Provider) ของไทย ที่มอบบริการสนับสนุนธุรกิจด้วยเทคโนโลยีแบบครบวงจร ภายใต้การบริหารของ คุณธนพล เอี่ยมสกุล ล่าสุดได้ลงนามดำเนินงานร่วมกับศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP) ดำเนินโครงการพัฒนาการแสดงผลการสอบและการตรวจสอบผลคะแนนทดสอบทางวิชาการโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่มีความปลอดภัย ง่ายต่อการตรวจสอบ และเป็นมิติใหม่ของวงการการศึกษาไทย พร้อมผลักดัน Blockchain Innovation ในงานเอกสารของสถาบันการศึกษาแบบองค์รวม สู่ใบปริญญา NFT (NFT Certificate) ที่ใครๆ ก็ตรวจสอบได้
จากการเรียนรู้ในสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ในระดับมหาวิทยาลัย สู่การได้รับโอกาสทำงานในองค์กรอิสระของภาครัฐด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park Thailand), ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)และได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยีความปลอดภัยในบริษัทชั้นนำระหว่างประเทศ สิ่งเหล่านี้คือการสั่งสมประสบการณ์ให้
คุณธนพล เอี่ยมสกุลก่อตั้งและดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดิจิท โซล จำกัด (Digit Soul)ซึ่งเป็นบริษัท Technology Provider ของไทย ที่ให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยด้านไซเบอร์ให้กับองค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากมาย ล่าสุดได้นำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และ NFT มาใช้ในวงการการศึกษา พร้อมลงนามความร่วมมือกับศูนย์ทดสอบทางวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU-TEP) สถาบันการศึกษาอันดับต้นๆ ของประเทศ ดำเนินโครงการพัฒนาการแสดงผลสอบและการตรวจสอบผลคะแนนทดสอบทางวิชาการโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งพัฒนาโดย Digit Soulสร้างความปลอดภัย หมดปัญหาการปลอมแปลงแก้ไข มีความน่าเชื่อถือ ง่ายต่อการตรวจสอบ และเป็นมิติใหม่ของวงการศึกษาไทย
“เทคโนโลยีบล็อกเชน ถ้าจะให้ผมเล่าแบบเข้าใจง่ายๆคือ เวลาเราจะทำธุรกรรมด้านดิจิทัลอะไรก็ตาม ระบบบล็อกเชนไม่ได้เก็บข้อมูลลำพังที่ใดที่หนึ่งสมมติผมมีเหรียญคริปโต 500เหรียญแต่จะโอนให้เพื่อน 100 เหรียญ แต่เหรียญคริปโตนั้นไม่มีธนาคารเป็นตัวกลาง ถ้าจะทำธุรกรรม ผมจะต้องประกาศธุรกรรมนี้ให้โลกบล็อกเชนรู้ ต้องมีคนที่อยู่ในบล็อกเชนตรวจสอบและอนุมัติทุกคน ถ้าผมจะทุจริต ก็ต้องแก้ไขทุกคนในวงบล็อกเชนพร้อมกัน เวลาเดียวกัน ซึ่งโอกาสในการทุจริตแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือการ Decentralize ไม่มีตัวกลางเก็บข้อมูลที่ใดที่หนึ่ง การตรวจสอบข้อมูลจึงทำได้ง่ายและโปร่งใสขึ้น” คุณธนพลกล่าว
ซึ่งเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้เอง ที่ทำให้คุณธนพล และทีมนักพัฒนาของดิจิท โซล ต่อยอดพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชน สู่การใช้ NFT สร้างรหัสโทเคนขึ้นบนเอกสารดิจิทัลภายในสถาบันการศึกษาอย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัย ตรวจสอบได้เพียงใช้ QR Code ที่บล็อกเชนให้การรับรองจึงยากต่อการปลอมแปลง
โดยคุณธนพลกล่าวต่อไปว่า “ไม่ใช่เฉพาะแค่ที่จุฬาฯ สถานศึกษาหลายแห่งก็เริ่มเก็บเอกสารผลการศึกษาเป็นไฟล์ดิจิทัลแล้ว ถ้ายังไม่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาช่วยในการตรวจสอบหรือบันทึก โทเคน (Token) ลงในไฟล์นั้นๆ ผู้ที่ได้รับไฟล์ดิจิทัลต่อมาจะสามารถตัดต่อหรือปลอมแปลงค่าต่างๆ เช่น ผลการสอบหรือเกรดบนทรานสคริปต์ให้ผิดไปจากความจริงอย่างไรก็ได้ แต่เมื่อเอกสารเหล่านั้นอยู่ในระบบบล็อกเชนและทำการติดโทเคน (Token) ให้กับเอกสารแล้ว เมื่อมีการนำไฟล์มาปรับเปลี่ยนนอกระบบ โทเคนนั้นจะถูกตัดออกจากระบบในทันที และเมื่อมีตรวจสอบไฟล์นั้นผ่าน QR Codeก็จะกลายเป็นไฟล์ที่ไม่มีอยู่ในระบบบล็อกเชนของทางมหาวิทยาลัย ดังนั้น ผมจึงมีความภูมิใจที่จะพัฒนาและนำเสนอเทคโนโลยีบล็อกเชนนี้ ไม่ใช่เพียงแค่ผลการสอบจาก CU-TEP แต่จะต่อยอดสู่การทำ
ใบปริญญา NFT ที่สามารถตรวจสอบได้ง่ายๆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลบริษัทใดอยากตรวจสอบเอกสารก็แค่สแกน QR Code ผ่านบล็อกเชนของทางมหาวิทยาลัยได้เลย”
และเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบความปลอดภัยของข้อมูล ดิจิท โซล จึงมีพาร์ตเนอร์ด้านเทคโนโลยีมาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยของระบบที่บริษัทฯ พัฒนาขึ้น ผ่านสองบริษัทคือ Cloudsec Asia และDatafarmมาตรวจสอบอย่างเข้มข้นหลายขั้นตอน พร้อมออกใบรับรอง (Certification) เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าของดิจิท โซลทุกคน
ส่วนเป้าหมายต่อไปของดิจิท โซลนั้นไม่ได้มีเพียงในแวดวงหน่วยงานรัฐหรือบริษัทขนาดใหญ่ คุณธนพลยังให้ความสนใจการพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชน (Blockchain Innovation) มาใช้ในแวดวงการเกษตรด้วยการนำบล็อกเชนมาใช้ร่วมกับสินค้าการเกษตรที่ส่งออกไปขายทั้งในและต่างประเทศ โดยการสร้าง QR Code เพื่อแจ้งข้อมูลให้กับสินค้าว่าผลิตที่ไหน เมื่อไหร่ เวลาใดที่ควรรับประทาน เพื่อสร้างมูลค่าและความน่าเชื่อถือให้กับผู้ผลิต รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับทั้งพ่อค้าคนกลาง ห้างร้าน ไปจนถึงผู้บริโภค
“แน่นอนว่าบล็อกเชนมีความปลอดภัยและตรวจสอบได้ นอกจากการศึกษาและการเกษตรแล้ว ถ้าหน่วยงานราชการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปใช้กับระบบฐานข้อมูลที่มีอยู่ เปลี่ยนจากเอกสารกระดาษให้เป็นดิจิทัลพร้อมติดโทเคน (Token) การตรวจสอบก็จะง่ายขึ้น และความปลอดภัยก็จะเพิ่มขึ้น เพราะต่อให้แฮกเกอร์เจาะระบบเข้ามาได้ แต่ถ้าไม่มีโทเคน (Token) ก็เข้าไปดูเอกสารเหล่านั้นไม่ได้ จริงอยู่ อาจจะต้องใช้เงินลงทุนสักหน่อย แต่เทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นปลอดภัยและคุ้มค่าต่อการลงทุนแน่นอน” คุณธนพลกล่าวทิ้งท้าย
ด้วยความมุ่งมั่นของทีมพัฒนาจากดิจิท โซลทุกคน พร้อมบริการด้านดิจิทัลแบบครบวงจร ที่ไม่ได้มีเพียง Cyber Securityแต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาจึงมั่นใจได้ว่า ดิจิท โซล เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี (Digital Provider) ที่คุณมั่นใจได้ ให้ธุรกิจคุณเดินต่อได้อย่างแข็งแกร่งและเป็นไปได้ตามที่มุ่งหวัง ดังพันธกิจของดิจิท โซล ว่า “Make Your Soul Real – ทำจิตวิญญาณทางธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จที่เป็นจริง”
สนใจดูรายละเอียดการให้บริการของ Digit Soul เพิ่มเติมได้ที่ https://www.digitsoul.co.th/
หรือที่เฟซบุ๊กhttps://www.facebook.com/Digitsoulcompany
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี