ในหลวง-ราชินี
ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ร.9
รัฐบาลเชิญชวนเฝ้าฯรับเสด็จ
ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
น้อมรำลึกวันสวรรคต13ต.ค.
สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
รัฐบาลเชิญชวนประชาชน เฝ้าฯ รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 9 ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2565 ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ค “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha” ระบุ ว่า เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2565 เวลา 17.00 นาฬิกา ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร นั้น ผมขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โดยพร้อมเพรียงกัน
สำหรับอุทยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรนั้น เป็นพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงตั้งพระราชหฤทัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยพระราชทานอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ แนวพระราชพระดำริของทั้งสองพระองค์ ผ่านองค์ความรู้เรื่องป่าและน้ำ อีกทั้งเป็นแก้มลิงรองรับน้ำ และเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ถือว่าเป็น “ปอดแห่งใหม่ ใจกลางกรุง” เพื่อทุกคนอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินการปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยจะเปิดให้บริการสู่สาธารณชนในลำดับต่อไปครับ
ทั้งนี้ สำหรับพี่น้องประชาชนที่ประสงค์จะเดินทางมาร่วมรับเสด็จฯ ทางรัฐบาลได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวก ทั้งรถเมล์ ขสมก. เรือข้ามฟาก-เรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry ในแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่จอดรถ เป็นต้น โดยขอให้ตรวจสอบข้อมูลและคำแนะนำล่วงหน้าจาก FB กรมประชาสัมพันธ์
จัดรถอำนวยความสำดวกให้ปชช.
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลเตรียมการอำนวยความสะดวกประชาชน เข้าร่วมพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ โดย ขสมก. จัดเดินรถโดยสารธรรมดาให้บริการฟรี จำนวน 4 เส้นทาง นำประชาชนไปยังจุดคัดกรองตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ก่อนเข้าสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ด้วย รถโดยสารเฉพาะกิจ จอดรับส่งทุกป้าย จำนวน 4 เส้นทาง ประกอบด้วย (1) เส้นทางสโมสรกองทัพบก - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – กรมทางหลวง (2) เส้นทางสนามศุภชลาศัย - กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ – กรมทางหลวง (3) เส้นทางวงเวียนใหญ่ - รร.ราชวินิต มัธยม (4) เส้นทางสนามหลวง - รร.ราชวินิต มัธยม ซึ่งเมื่อผ่านการคัดกรองตรวจ ATK ที่จุดกรมทางหลวง จะมีรถโดยสารนำสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ในส่วนจุดคัดกรองตรวจ ATK ที่ รร.ราชวินิต มัธยม สามารถเดินเข้าสู่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ได้ ทั้งนี้ รถโดยสารเฉพาะกิจเปิดให้บริการท่าต้นทาง เที่ยวแรก ตั้งแต่ 8.00 น. ท่าต้นทางเที่ยวสุดท้าย 16.00 น. และท่าปลายทางเที่ยวสุดท้าย 18.00 น. หรือจนกว่าผู้ร่วมงานจะหมดจากพื้นที่ ซึ่งรถจะปล่อยท่าต้นทางทุก 20 นาที
จัดพื้นที่จอดรถให้ประชาชน
ส่วนประชาชนที่นำรถมาเอง มีการให้บริการพื้นที่จอดรถสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมพิธีเปิดฯ 3 จุด คือ (1) สโมสรกองทัพบก สามารถจอดได้ 200 คัน โดยมีรถ shuttle Bus บริการรับและนำส่ง ณ จุดพักคอย (2) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สามารถจอดได้ 320 คัน โดยมีรถ shuttle Bus บริการรับและนำส่ง ณ จุดพักคอย และ (3) สนามศุภชลาศัย สามารถจอดได้ 200 คัน โดยมีรถ shuttle Bus บริการรับและนำส่ง ณ จุดพักคอย
สำหรับการเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ประชาชนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ที่จุดพักคอย 2 จุด ได้แก่ 1.กรมทางหลวง และ 2.โรงเรียนราชวินิต มัธยม ตั้งแต่เวลา 7.00 น. เป็นต้นไป จากนั้น จะมีรถ shuttle Bus นำท่านเข้าสู่จุดคัดกรอง 4 จุด รอบบริเวณอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ดังนี้ (1) จุดคัดกรองจุดกลับรถถนนศรีอยุธยา (2) จุดคัดกรองฝั่งตรงข้ามวัดเบญจมบพิตรฯ (3) จุดคัดกรองโรงเรียนราชวินิต มัธยม (4) จุดคัดกรองกรมทางหลวง โดยขอความร่วมมือสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าสีขาว ห้ามนำสิ่งของมีคมเข้าพื้นที่ พร้อมทั้งเตรียมแสดงบัตรประจำตัวประชาชน บัตรแสดงตน หนังสือเดินทาง ขณะเดินผ่านเครื่องตรวจกรุณายกขึ้นเสมอหูขวาเพื่อบันทึกภาพ ตรวจวัดอุณหภูมิ เปิดกระเป๋าสัมภาระให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ สำหรับผู้ปกครองที่มากับเด็ก กรุณาพบเจ้าหน้าที่เพื่อทำบัตรคล้องคอ และให้เขียนชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ปกครองติดไว้กับตัวเด็ก โดยหากมีโรคประจำตัว ให้พกยาประจำตัวมาด้วย ทั้งนี้ หากมีปัญหาสามารถสอบถามจิตอาสาได้
รองโฆษกฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลยังได้เตรียมจุดบริการประชาชนทั้งอาหารและเครื่องดื่ม โดยตั้งอยู่บริเวณประตูทางเข้าด้านทิศใต้ ภายในพื้นที่ก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ (ฝั่งถนนพิษณุโลก) ให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไปจนถึงภายหลังเสร็จพิธีฯ จุดจอดรถบริการน้ำดื่ม จำนวน 3 จุด ได้แก่ 1) โรงเรียนราชวินิต มัธยม 2) กรมทางหลวง และ 3) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร รวมทั้ง มีจุดบริการทางการแพทย์ จุดพยาบาลและรถพยาบาลประจำอยู่ภายในพื้นที่ก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมทั้งบริการรถสุขา จำนวน 3 จุด ภายในพื้นที่ก่อสร้างอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
ประธานรัฐสภานำทำบุญตักบาตร
เช้าวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร และกิจกรรมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ต.ค. พร้อมด้วยนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คณะผู้บริหาร และบุคลากรสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธี
โดยทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งพระสงฆ์ จำนวน 10 รูป นำโดยพระอาจารย์ชายกลาง อภิญาโณ ประธานมูลนิธิสหชาติ จากวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์ และเพื่อให้ศาสนิกชนได้ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจนำหลักธรรมทางศาสนาไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เสริมสร้างความรัก ความสามัคคีแก่ปวงชนชาวไทยโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ
ทั้งนี้ ในส่วนของเครื่องอุปโภค บริโภค ที่ได้จากพิธีทำบุญตักบาตรนี้จะนำไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำรวจตระเวนชายแดน และชาวบ้านในพื้นที่ในกิจกรรม “คิด-เช่น-ช้าง” ซึ่งเป็นการสนับสนุนการปฏิบัติงานและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้พิทักษ์ช้างป่าต่อไป
กองทัพบกจัดพิธีน้อมรำลึก
กองบัญชาการกองทัพบก พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธาน พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และกำลังพลร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสววรคต 13 ตุลาคม 2565 โดยกิจกรรมประกอบด้วย พิธีตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 89 รูป จากวัดโมสีโลกยาราม ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณลานด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 จากนั้นจึงกระทำพิธีวางพวงมาลา และกล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณฯ ณ ห้องรับรอง 221 อาคาร 2 ชั้น 2 กองบัญชาการกองทัพบก
กองทัพบก ในฐานะที่ดำรงไว้ซึ่งภารกิจการพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันอันสูงสุด ที่เป็นศูนย์รวมของจิตใจปวงชนชาวไทย มีภารกิจอันสำคัญยิ่ง คือ การถวายการรักษาความปลอดภัย และถวายพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และได้สนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กองทัพบกร่วมด้วยส่วนราชการ ภาครัฐ และเอกชน ต่างพร้อมใจกันจัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ณ สถานที่ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาคอย่างสมเกียรติ
กกต.จัดพิธีร่วมน้อมรำลึก
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ได้จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2565 โดยจัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมด้วยกรรมการการเลือกตั้ง เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้บริหาร พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ร่วมทำบุญตักบาตรแด่พระเทพปัญญามุนี(ทองดี ฐิตายุโก) เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม พร้อมพระภิกษุสงฆ์วัดอาวุธวิกสิตาราม รวม 9 รูป เพื่อถวายพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี