ผู้ประกอบการร้อง “กลาโหม” ชดเชยค่าเสียหาย “บ้านสวัสดิการ ทบ.-เงินหักหัวคิว 5%” มูลค่า 40 ล้านบาท ด้าน “ทนายไพศาล” อ้างมีทหารตามประกบ แฉมีชื่อ 20 ทหารส่อเอี่ยว แต่ได้ดิบได้ดีขยับเป็น “นายพล”
19 ตุลาคม 2565 นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการที่ได้รับความเสียหายจากโครงการกู้ซื้อบ้านสวัสดิการ กองทัพบก (ทบ.) มายื่นหนังสือต่อกระทรวงกลาโหม ในฐานะหน่วยที่กำกับดูแลกองทัพบก
นายไพศาล ระบุว่า ตามที่กองทัพบกได้แถลงชี้แจงว่ามีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งลงโทษ งดบำเหน็จและปลดออกจากตำแหน่งไปแล้ว แต่ปรากฏว่ายังมีคนที่เกี่ยวข้อง ได้รับการเลื่อนยศและตำแหน่ง อีกทั้งกองทัพบกยังระบุว่าโครงการกู้เงิน อบท. การเคหะเพื่อการสงเคราะห์ ระงับไปแล้วตั้งแต่ปี 2564 แต่ในปี 2565 ยังมีการเรียกรับเงิน 5% เรื่องนี้ต้องตอบคำถามให้ได้
นายไพศาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยพูดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของผู้ประกอบการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตที่เป็นระดับนายทหาร แต่กองทัพบกได้แถลงว่ามีความเกี่ยวข้องกันก็ถือเป็นเรื่องดี เรื่องนี้เป็นประเด็นสังคม จึงต้องถามกลับไปที่กองทัพบก แม้จะระบุว่าเป็นเรื่องของส่วนบุคคลและอยู่ในขั้นตอนของศาล แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือ 5% กับจำนวนกำลังพลหลายร้อยนาย คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 30-40 ล้านบาทจะรับผิดชอบอย่างไร
“ผมอยากรู้ว่าเรื่องต่างๆเหล่านี้เมื่อเกิดขึ้นใครจะเป็นผู้เยียวยาผู้ประกอบการและกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ กองทัพบกก็ให้ความชัดเจนไม่ได้ จึงต้องมาที่กระทรวงกลาโหมซึ่งเป็นหน่วยเหนือ ที่กำกับดูแลกองทัพบกโดยตรง หากยังติดใจสงสัยอะไรหรือยังไม่มีหลักฐาน ผมจะนำไปให้ ไม่ต้องส่งใครมาประกบซ้ายประกบขวา มีอะไรก็ให้ติดต่อมา” นายไพศาล กล่าว
นายไพศาล ระบุว่า ที่ออกมาพูดเพราะกลัวว่ามันจะเกิดเหตุแบบที่โคราชอีก เพราะมันมีจุดเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องกันโดยตรง และการลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องมีแค่การงดบำเหน็จ เอาออกจากตำแหน่งแค่นั้นเองใช่หรือไม่ ซึ่งกองทัพบกบอกว่าลงโทษตั้งแต่ปี 2563 แต่ปัจจุบัน แต่ละคนได้ยศ ได้ตำแหน่งที่สูงขึ้น บางคนได้ขยับเป็นนายพล และบางคนเกษียณไปแล้ว บางคนลาออก ตนมีรายชื่อทหารเกี่ยวข้องประมาณ 20 รายชื่อ ที่มีจุดเชื่อมโยงเส้นทางทางการเงินชัดเจน อยากถามเช่นกันว่าบุคคลเหล่านี้ทำไมถึงยังได้เลื่อนยศและตำแหน่ง และจะติดตามเรื่องนี้ต่อไป
“ส่วนที่กองทัพบกยืนยันว่าไม่มีการหัก 5% ในการกู้ยืมเงินสวัสดิการกองทัพบกนั้น ทางทนายจะนำผู้เสียหายทั้งหมดไปแจ้งความ ถือเป็นการเรียกรับสินบนในขณะดำรงตำแหน่งหน้าที่ราชการ เพราะฉะนั้นหน่วยงานต้องรับผิดชอบ กองทัพบกต้องไปเยียวยาทางผู้ประกอบการและกำลังพลชั้นผู้น้อยประมาณร้อยกว่าราย” นายไพศาล กล่าว
นายไพศาล กล่าวอ้างว่า ได้รับการร้องเรียนจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นทหารที่กู้ซื้อบ้านตามโครงการสวัสดิการของกองทัพบก โดยรายหนึ่งพบว่าซื้อบ้านที่โคราช ผ่อนมา 10 ปี แต่ปรากฏว่าเป็นที่ สปก. ซึ่งกองทัพบกตั้งคณะกรรมการตรวจสอบตั้งแต่ต้นปี จนมาถึงขนาดนี้ยังไม่มีความคืบหน้า อีกกรณีหนึ่งที่ ภาคใต้ ที่มีการกล่าวอ้างว่าโดนโกง หักค่าหัวคิวจำนวนมาก ตัวการใหญ่ลอยนวล
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี