นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครครั้งที่ 12/2565 ณ ห้องนพรัตน์ ชั้น 5ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เขตพระนครและประชุมผ่านระบบออนไลน์ โดยที่ประชุมรายงานความก้าวหน้าแผนปฏิบัติการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019รองรับการเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังโดยคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครได้นำไปเป็นแนวทางจัดทำแผนปฏิบัติการควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 รองรับการเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ระดับจังหวัด/กรุงเทพมหานคร และได้แก้ไขปรับปรุงแผนปฏิบัติการฯเตรียมนำเสนอต่อรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อเห็นชอบและเสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติภายในวันที่ 31 ต.ค. 2565 ต่อไป
ในปัจจุบันระบบการรายงานและการเฝ้าระวังโรคโควิด 19 ได้รายงานผ่านระบบ API และ EPI-Net แยกตามสังกัดเพื่อให้ที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าในการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19ภายหลังประกาศเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังโดยสำนักอนามัยจะนำไปดำเนินการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการฝึกซ้อมแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 กลายพันธุ์/โรคไข้หวัดนก ในวันที่ 21-22 ธ.ค. 2565
สำหรับสถานการณ์โรคติดต่อที่สำคัญในระยะนี้ มี 6 กลุ่มโรค ประกอบด้วย โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID 19) โรคฝีดาษวานร(Monkeypox) โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) โรคมือ เท้า ปาก และโรคไข้หวัดใหญ่
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบเรื่องการรณรงค์ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของกทม. เพื่อให้กลุ่ม 608 ผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจ ผู้มีความเสี่ยงที่จะรับเชื้อได้ง่าย เด็ก และผู้สูงอายุ สวมหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่องเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะและสถานที่ที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการรับเชื้อจากผู้อื่นและป้องกันการแพร่เชื้อของตนเองไปสู่ที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังเป็นการป้องกันฝุ่นละออง PM2.5ได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี