‘ตรีนุช’ มอบนโยบาย ร.ร.เอกชน เตรียมความพร้อมก่อนเปิดเทอม เน้นปลอดภัย-ปลอดยาเสพติด ยกระดับคุณภาพการศึกษา
วันที่ 28 ตุลาคม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงนโยบายและการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียนของโรงเรียนเอกชน และมอบนโยบายส่งเสริมการจัดการศึกษาเอกชน โดยมีผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด (สช.จังหวัด) ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด (ส.ปส.กช.) นายกสมาคมทางการศึกษาเอกชน ผู้บริหาร และครูโรงเรียนเอกชน เข้าร่วม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Zoom Meeting
รมว.ศธ. กล่าวตอนหนึ่งในการประชุม ว่า โรงเรียนเอกชนมีบทบาทสำคัญในการจัดการศึกษาและการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศ อีกทั้งรัฐบาล โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาคนและพัฒนาการศึกษา ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนเอกชนสามารถจัดการศึกษาตามแนวทางนโยบายและจุดเน้นของศธ.ได้อย่างมีคุณภาพ ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการจัดการศึกษาได้เป็นอย่างดี ในการพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีขบวนการคิดวิเคราะห์ คุณภาพมีความพร้อมทั้งเก่ง ดี สามารถอยู่ในโลกปัจจุบันและในสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงได้
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาล และศธ.ได้ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาทุกๆกลุ่ม สำหรับการศึกษาเอกชนได้ดำเนินการสนับสนุนสำเร็จเป็นรูปธรรมแล้ว ได้แก่ 1.การปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายรายหัวสำหรับผู้เรียนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครอบคลุมนักเรียนโรงเรียนเอกชนในระดับก่อนประถมศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 1,974,774 คน โดยจะเป็นการปรับเพิ่มแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง 4 ปีงบประมาณ (พ.ศ. 2566 – 2569) 2.โครงการให้ความช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา เพื่อบรรเทาผลกระทบของผู้ปกครอง และนักเรียน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน เมื่อปีการศึกษา 2564 ที่ผ่านมา และ 3.การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย ในด้านการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคล ติดตามเด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคัน การปรับเพิ่มอัตราเงินอุดหนุนรายบุคคลสำหรับนักเรียนพิการในโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษา และโรงเรียนเอกชนประเภทอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และการสำรวจข้อมูลค่าใช้จ่ายจริงในการจัดการศึกษาเอกชน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประเภทสามัญศึกษา เพื่อนำข้อมูลไปประกอบการวิเคราะห์ทางเลือกและกำหนดแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนต่อไป รวมถึงอุดหนุนสมทบเงินเดือนผู้ช่วยครู(พี่เลี้ยงเด็กพิการ)ในโรงเรียนเอกชน
“สำหรับการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดภาคเรียนที่จะถึงนี้ ขอฝากให้โรงเรียนเอกชนร่วมดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้แก่ 1.การศึกษาเพื่อความปลอดภัย ที่ผ่านมา ศธ.ได้จัดตั้ง MOE Safety Center เพื่อจัดทำแผนและแนวทางการบริหารจัดการระบบมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับสถานศึกษาตามแนวทางที่ ศธ.กำหนด ในส่วนของ ศธ.จะร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปช่วยอบรม สร้างการรับรู้ สร้างความปลอดภัยให้สถานศึกษาในทุกสังกัด ส่วนของโรงเรียนเอกชน ขอให้ ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) สช.จังหวัด และโรงเรียนเอกชนร่วมดำเนินการดังกล่าว รวมไปถึงมาตรการในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน โดยกำชับส่วนราชการและสถานศึกษาในการดูแลเด็กและเยาวชน ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและอาวุธปืนโดยใช้กลไกตามนโยบายความปลอดภัยในสถานศึกษา จัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ เน้นการดำเนินงานด้านการป้องกัน การปลูกฝัง และปราบปราม รวมทั้งการดูแลรถรับส่งนักเรียนให้มีความปลอดภัย ควรมีการเน้นย้ำถึงเรื่องการตรวจตรา ฝึกซ้อมเรื่องความปลอดภัยบ่อย ๆเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นอีก” น.ส.ตรีนุช กล่าว
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า 2.การเตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือภัยพิบัติ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อดูแลให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา หน่วยงาน ครู นักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือจากผลกระทบของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และมีความพร้อมในการประสานงานช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่สถานศึกษา หน่วยงาน และผู้ประสบภัย ในภาพรวมของ ศธ. และ3. การยกระดับคุณภาพการศึกษา ในการส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษานำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็มรูปแบบ การจัดการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) การพัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) และการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม เพื่อเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี