‘2 รอง ผบ.ตร.’ สนธิกำลังตำรวจ 200 นาย ปูพรมตรวจสถานบันเทิง 6 แห่งทั่วกทม. กวาดล้างยาเสพติด-สิ่งผิดกฎหมาย ขณะ ‘รองฯโจ๊ก’ เผยเตรียมเอาผิด ‘รองผกก.-รอง สว.’โรงพักยานนาวา ปล่อยนักเที่ยวจีนผับศูนย์เหรียญ
เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผบช.ภ.1 , พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. พร้อมชุดปฏิบัติการ บช.น. , บช.สอท. , บช.ปส. , บช.สตม. , กองพิสูจน์หลักฐาน และ บช.ทท. กว่า 200 นาย เข้าตรวจค้นสถานบันเทิง 6 จุดทั่วกทม. ซึ่งเชื่อว่าเป็นของนายทุนต่างชาติ และนอมินี ประกอบไปด้วยในพื้นที่มักกะสัน , ห้วยขวาง และคลองตัน
จุดแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอยู่ย่านเอกมัย เป็นผับขนาดใหญ่ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าตรวจค้นยังพบว่ามีนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดไฟและขอเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ได้นำชุดตรวจสารเสพติดออกมาวาง โดยให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแสดงตนและรับชุดตรวจสารเสพติดไปตรวจ จากนั้นเข้าตรวจสอบบาร์โฮสย่านเหม่งจ๋าย ยังพบนักท่องเที่ยวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เนื่องจากคืนนี้เป็นคืนวันฮาโลวีน ผลการตรวจค้นเบื้องต้นพบมีนักท่องเที่ยวปัสสาวะเป็นสีม่วง 2-3 รายต่อแห่ง
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานประกอบการครั้งนี้ ได้บูรณาการร่วมกันในส่วนงานป้องกันปราบปรามและงานสืบสวน โดยลงพื้นที่ 6 จุดทั่วกรุงเทพมหานคร ซึ่งใน 6 จุด จะมีสถานประกอบการบางแห่งที่ทางชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.รับผิดชอบงานสืบสวน ขยายผลมาจากสถานประกอบการที่พัทยาที่มีนายทุนจีนร่วม โดยการตรวจสอบจะเน้นหนักไปที่ยาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก หากพบว่าสถานประกอบการรายใดฝ่าฝืนต้องเพิกถอนใบอนุญาตสั่งปิด 5 ปี เรื่องนี้ทางพล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เน้นย้ำในการจัดระเบียบสถานประกอบการ
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า การที่สถานประกอบการปล่อยให้มียาเสพติด อาวุธปืน และเด็ก ทางสถานประกอบการต้องรับผิดชอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งงานป้องกันและงานสืบสวนจะทำงานร่วมกันเพื่อคุมเข้มจัดระเบียบสถานบันเทิงที่อาจเป็นต้นตอของการแพร่ระบาดของยาเสพติด อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่เป็นปัญหาคือการที่มีนายทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจที่บ้านเราและมามีอิทธิพลเป็นมาเฟีย ไม่เฉพาะแต่คนจีน แต่มีอีกหลายแก๊งที่เรากำลังสืบ จะเห็นได้ว่าเรามีการทำงานในหลายภาคส่วน มีตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจนครบาล ตำรวจภูธรต่างๆ บูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงานเพื่อที่จะตัดวงจรไม่ให้มีมาเฟียต่างชาติมาใหญ่ในบ้านเรา
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ต่อไปจากนี้ท้องที่จะต้องลงมา ซึ่งทางตนและรองโจ๊กลงมาตรวจสอบด้วยตนเอง ถ้าไม่สานต่อหากตรวจเจอท้องที่ต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าเป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง จะไม่มีครั้งที่สอง ซึ่งถ้าเจอสิ่งผิดกฎหมายต้องถูกปิดแน่ และหากแอบกลับมาเปิดอีกก็มีโทษจำคุก 1 ปี ซึ่งจะบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ใช้ยาแรงเลยเพราะทางผบ.ตร.สั่งมาแล้ว ซึ่งได้ให้แนวทางการตรวจสอบกับสถานบันเทิงกับท้องที่แล้ว อย่างไรก็ตามก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับสถานบันเทิงผู้ประกอบการด้วย ในกรณีที่พบนักเที่ยวฉี่ม่วง แต่ไม่พบว่ามีการขายยาเสพติดในสถานบันเทิง ก็ต้องมาสืบว่ามีการอัพยาจากไหนเพื่อที่จะดำเนินการ ส่วนนี้ก็ว่าไปตามข้อเท็จจริงถ้าพบในสถานบันเทิงก็ต้องใช้ยาแรง
ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การตรวจสอบประกอบการครั้งนี้ไม่ได้ เพ่งเล็งไปที่กลุ่มที่มีนายทุนจีนเท่านั้น ได้ตรวจสอบสถานประกอบการที่มีเจ้าของเป็นคนไทยเช่นกัน ซึ่งยอมรับว่าในการตรวจสอบก็มีบางส่วนที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ให้ข้อมูลมา ซึ่งในทางสืบสวนคดีที่มีนายทุนจีนเข้ามากระทำผิดกฎหมาย ทั้งเปิดผับโดยการนำยาเสพติดมาใช้มาจำหน่าย ผับศูนย์เหรียญต่างๆ ยืนยันว่าตอนนี้ทางชุดสืบสวนมีข้อมูลครบแล้ว อยู่ระหว่างการดำเนินการขออำนาจศาลออกหมายจับดำเนินคดีภายในสัปดาห์นี้
“ในส่วนกรณีตำรวจโรงพักยานนาวาที่ไปเกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวผู้ต้องหาชาวจีน ในวันพรุ่งนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาได้ ซึ่งในจำนวนนี้มีระดับรองผกก. สารวัตร และรองสารวัตร ที่เป็นพนักงานสอบสวน ซึ่งทาง ผบ.ตร.ได้ให้แนวทางนโยบายให้ดำเนินคดีทั้งหมด ที่ร่วมกันนำคนจีนไปฝากขัง แต่ไม่แจ้งให้ทางตรวจคนเข้าเมืองทราบทำให้ถูกปล่อยตัวไป ซึ่งเราดำเนินคดีทั้งหมด” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี