ปคม.จับนายหน้าค้ามนุษย์-โรฮีนจาเครือข่าย‘พล.ท.มนัส’ หนีคดีกบดานกาญจนบุรี
1 พฤศจิกายน 2565 พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. สั่งการ พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.3 บก.ปคม. , พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.กก.3 บก.ปคม. จับกุม น.ส.ศศิธร อายุ 51 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 397/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ข้อหา “สมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปค้ามนุษย์บุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ,ร่วมกันช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพและเรียกค่าไถ่” และหมายจับศาลจังหวัดนาทวี ที่ 420/2558 ลงวันที่ 11 ส.ค.2558 ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน” ได้ที่ บริเวณริมถนนแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 3 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อปี 2558 มีการพบศพ และหลุมฝังศพจำนวนมากบนเทือกเขาแก้ว หมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ถูกใช้เป็นค่ายสำหรับพักและกักขังชาวโรฮีนจา จากเมียนมาและบังกลาเทศ ก่อนส่งผ่านไปยังมาเลเซีย ซึ่งการพบศพและหลุมฝังศพจำนวนมากดังกล่าวนำมาสู่การสอบสวนขยายผลไปสู่ขบวนการค้ามนุษย์ พบการเชื่อมโยงบุคคลทั้งข้าราชการระดับสูง นักการเมืองท้องถิ่น และนายหน้าจากเมียนมา ต่อมามีการจับกุม พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก พร้อมกับพวก หลังพบมีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสืบทราบว่า น.ส.ศศิธร ผู้ต้องหารายนี้ซึ่งเป็นกลุ่มนายหน้าจัดหาคนต่างด้าวโรฮีนจา รวมถึงมีการรับโอนเงินผลประโยชน์จากเครือข่ายของผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์จำนวนหลายครั้ง และเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาที่ต้องการตัวมากที่สุดคนหนึ่ง ได้หนีมาซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สอบสวน น.ส.ศศิธร ให้การปฏิเสธ เบื้องต้นจึงนำตัวส่งคณะพนักงานสอบสวนคดีโรฮีนจา ตามที่อัยการสูงสุดแต่งตั้งขึ้น ซึ่งคดีนี้มีการโอนคดีจากศาลจังหวัดนาทวี มาพิจารณายังศาลอาญา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี