มท.ตีปี๊บให้รีบขออนุญาต
ปล่อยผีปืนเถือน
สำหรับอาวุธสงคราม
ต้องมอบให้ทางราชการ
กรมปกครอง แจ้งด่วนใครมีปืนเถื่อน รีบนำมาขอรับอนุญาตให้ถูก ก.ม.ภายในเวลากำหนดโดยไม่มีโทษ ส่วนอาวุธสงคราม ประสิทธิภาพสูง ที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ต้องมอบให้ทางราชการอย่างเดียวโดยไม่มีค่าชดเชย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง ได้ลงนามเมื่อ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ในหนังสือกรมการปกครอง ด่วนที่สุดที่ มท 0307.4/ว 27182 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุดจังหวัด เรื่องการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทีมอาวุธ (ฉบับที่ ....) พ.ศ. ....
โดยเอกสารดังกล่าวระบุว่า ด้วยกรมการปกครองได้มีประกาศ เรื่อง การรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ (ฉบับที่ ....) พ.ศ. ....ลงวันที่ ตุลาคม 2565 เพื่อรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทีมอาวุธ (ฉบับที่ ....) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญคือ ให้บุคคลที่มีอาวุธปืน เครื่องกระสุน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย นำอาวุธปืน เครื่องกระสุน ดังกล่าว มาขอรับอนุญาต เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยไม่ต้องรับโทษ
สำหรับการครอบครองและจำหน่ายอาวุธปืนที่กฎหมายไม่อนุญาตให้มีและใช้ไว้ในครอบครองหรือจำหน่าย เนื่องจากประสิทธิภาพในการทำลายล้างสูง เป็นอันตรายต่อประชาชน ก็ให้ผู้ที่มีอาวุธปืนดังกล่าวไว้ในครอบครอง นำเอาอาวุธปืนนั้นมอบให้แก่หน่วยทหารที่ใกล้ที่สุด ภายในเวลาที่กำหนดโดยไม่ต้องรับโทษ โดยทางราชการไม่จำกัดต้องชดใช้ราคาและให้ตกเป็นของแผ่นดิน
และให้นายทะเบียนท้องที่มีอำนาจในการจัดทำรายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธปืน เช่น การนำมาทำเครื่องหมายทะเบียน การโอน การแจ้งย้ายไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งอาวุธปืนที่นำมาขึ้นทะเบียน เพื่อขออนุญาตตาม พ.ร.บ.นี้ เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องทางทะเบียนอาวุธปืน การตรวจสอบหาอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุอาชญากรรม หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดในทางราชการ รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย
ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อมูลหรือความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน จึงขอให้ทางจังหวัดประชาสัมพันธ์ประกาศดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และประชาชนทั่วไปได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ พ.ร.บ.ดังกล่าว
ก่อนหน้านี้- พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย แถลงภายหลังการประชุมเพื่อกำหนดมาตรการเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน ว่าแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ปืนที่มีใบอนุญาตและปืนเถื่อน สำหรับอาวุธที่ขออนุญาตของใหม่นี้จะมีมาตรการในการตรวจสอบพื้นฐานคุณสมบัติ โดยจะต้องมีการตรวจสอบเรื่องของจิตใจ เรื่องของสุขภาพจิตด้วย จะมีการเขียนรายละเอียดว่านายแพทย์จะต้องรับรอง
ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไปดูว่าสติฟั่นเฟือนหรือไม่ ก็ไม่ใช่ แต่อยู่ที่ความประพฤติของแต่ละคนด้วย ว่าเขาเป็นอย่างไร การจะดูว่าความประพฤติเหมาะสมหรือไม่ทางแพทย์จะดูไม่ได้ หากเป็นข้าราชการ ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับรองความประพฤติ เช่น ไม่ดื่มสุราอย่างขาดสติ หรือเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง ต้องมีความประพฤติไม่เป็นภัย โดยสรุปผู้ที่จะมาขอซื้ออาวุธปืนจะต้องมีการรับรองเรื่องความประพฤติด้วย ส่วนคนที่มีอาวุธแล้ว มีมติว่าจะต้องทบทวนในการที่จะให้มีและใช้อาวุธปืนได้ หมายถึงมีใบ ป.4 ใช้อาวุธได้ จะใช้เวลาในการทบทวน 3 ปีหรือ 5 ปี จะต้องไปคิดกัน และจะต้องทบทวนความประพฤติด้วยหรือไม่ รวมถึงผู้ที่พ้นหน้าที่ไปแล้ว มีความจำเป็นหรือไม่ในการใช้อาวุธ ถ้าไม่จำเป็นก็เพิกถอนได้ แต่ในกรณีที่ใครไปมีความผิดตรงนี้จะเพิกถอนเลย นี่คือความเปลี่ยนแปลง
“ยกตัวอย่างถ้าเขาให้คุณมีอาวุธปืนได้และใช้ แต่เขาไม่ได้ให้พกพา สื่อต้องทำความเข้าใจกับสังคมด้วยว่า เขามีให้ใช้คือเอาไว้ที่บ้านป้องกันทรัพย์สิน ไม่ได้ให้พกพาเอาไปไหน ถ้าพกพาอาจเพิกถอนได้ หากไปดื่มสุราและนำปืนไปด้วยตรงนี้ก็อาจจะเพิกถอน ซึ่งมีกฎหมายในการเพิกถอนอยู่ ส่วนอาวุธเถื่อนทั้งหมดได้ข้อยุติว่าจะต้องออกกฎหมายให้นำมาคืน เราทำอย่างนี้มาแล้ว แต่คราวนี้ให้นำมาคืนโดยไม่มีความผิดทางอาญาแค่นั้น และไม่ให้ขึ้นทะเบียน นี่คือความเปลี่ยน ส่วนถ้าใครยังครอบครองต่อไป ทางตำรวจจะเข้มงวดทางกฎหมายเกี่ยวกับการค้าอาวุธ”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี