นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงเกษตรกรชาวสวนยางที่สวนยางได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมขังหนัก กยท.จึงมีมาตรการช่วยเหลือกรณีสวนยางประสบอุทกภัยผ่านกองทุนพัฒนายางพารา โดยมีหลักเกณฑ์คือต้องเป็นสวนยางที่ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายจนเสียสภาพสวน หรือได้รับความเสียหายไม่น้อยกว่า 20 ต้นในแปลงเดียวกัน เกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือ รายละ 3,000 บาท
อย่างไรก็ดี กรณีสวนปลูกแทนที่ประสบอุทกภัย ซึ่งหากพบว่าเสียสภาพสวน จะให้ระงับการปลูกแทน โดยไม่เรียกเงินคืนในส่วนที่เสียหาย จากนั้นจึงอนุมัติให้การปลูกแทนใหม่ แต่ต้องไม่เกินเนื้อที่ที่ระงับการปลูกแทน กรณีไม่เสียสภาพสวน ต้นยาง หรือไม้ยืนต้นชนิดอื่น(พืชหลัก) อายุไม่เกิน 2 ปีครึ่ง ได้รับความเสียหายหนัก ไม่สามารถค้ำยันได้ ต้องปลูกซ่อมเท่านั้น โดย กยท.จะช่วยเหลือเป็นเงินค่าปลูกซ่อมครั้งเดียว อัตราต้นละ 45 บาท ส่วนต้นยางหรือไม้ยืนต้นชนิดอื่นที่เสียหายเอนล้ม แต่สามารถตัดแต่งและค้ำยันได้ กยท.จะช่วยเหลือค่าค้ำยัน โดยต้นยางที่มีอายุตั้งแต่ 2 ปีครึ่งขึ้นไป แต่ไม่เกิน 3 ปี อัตราต้นละ 35 บาท และต้นยางอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป อัตราต้นละ 110 บาท นอกจากนี้ได้กำชับให้ กยท.ในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ความรู้เกษตรกรในการดูแลสวนยางหลังจากถูกน้ำท่วมอย่างถูกวิธี