‘โจรข้าวเปลือก’โผล่
ซ้ำเติมชาวนาบุรีรัมย์
พ่อเมืองฯสั่งไฟเขียว
ตากข้าวในที่ราชการ
รักษาการผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ขอความร่วมมือส่วนราชการ เปิดพื้นที่ลานกว้าง อนุญาตให้ชาวนา ใช้พื้นที่ตากข้าวเปลือก ลดความชื้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน-ลดการตากข้าวริมถนนสาธารณะเพื่อป้องกันเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ โจรข้าวเปลือก อาละวาดซ้ำเติมชาวนาบุรีรัมย์ซึมโอดทำปีละครั้ง ยังไม่เห็นใจ
เมื่อวันที่ 18 พ.ย.65 นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาการ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ได้เข้าสู่ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว ทำให้เกษตรกรชาวนาในหลายพื้นที่ จะเริ่มทำการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งชาวนาจะนำข้าวเปลือกไปตากผึ่งแดด เพื่อลดความชื้นยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงรอมสองฝั่งถนน ก่อนที่จะนำไปขาย หรือนำไปเก็บรักษาไว้สำหรับบริโภค หรือเข้าร่วมโครงการต่างๆ ของรัฐบาล แต่ในระยะนี้พบว่าในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ มีฝนตกกระจายทั่วพื้นที่ตลอดสัปดาห์ จึงทำให้ข้าวเปลือกมีความชื้นสูง และต้องใช้เวลาในการตากผึ่งแดดเพื่อลดความชื้นเป็นระยะเวลาหลายวัน จึงส่งผลให้เกษตรกรชาวนาประสบปัญหาความเดือดร้อน ในเรื่องสถานที่ตากข้าวเปลือกเพื่อลดความชื้น ทำให้มีเกษตรกรชาวนาได้นำข้าวเปลือก ไปตากตามริมสองฝั่งถนนสาธารณะกันมากขึ้น ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นอันตรายและเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน
นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกร ชาวนา ได้มีสถานที่ที่เหมาะสมสำหรับการตากข้าว ที่ไม่ฝ่าฝืนกฎหมาย และไม่ก่อความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลทั่วไปและเพื่อป้องกันการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ตลอดจนเป็นการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้ประสานไปยังทุกภาคส่วน ผ่านทางที่ทำการปกครองอำเภอทุกแห่ง ทั้ง 23 อำเภอ ท้องถิ่นจังหวัด เกษตรจังหวัด ตลอดทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่วนราชการ ที่ว่าการอำเภอ องค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล วัด โรงเรียน ศาลาประชาคมหมู่บ้าน หรือสถานที่อื่นๆ ที่มีพื้นที่เป็นลานปูนกว้างเหมาะสม เท่าที่ไม่กระทบต่อการดำเนินภารกิจของสถานที่นั้น ได้เปิดพื้นและอำนวยความสะดวก เพื่อให้เกษตรกรชาวนาได้นำข้าวเปลือกไปตากในพื้นที่นั้นๆ เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกร
พร้อมทั้งประกาศเชิญชวนให้เกษตรกรชาวนา ติดต่อขอใช้พื้นที่ตากข้าวเปลือก โดยสามารถกำหนดเงื่อนไขในการใช้พื้นได้ตามความเหมาะสม หรือตามที่ผู้รับผิดชอบสถานที่กำหนด
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดปริมาณการตากข้าวบนถนน ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วย ซึ่งขณะนี้พบว่ามีส่วนราชการในหลายพื้นที่
อย่าง ที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัยได้เปิดสถานที่ อนุญาตให้เกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือกมาตากลดความชื้น ภายในลานปูนหน้าบริเวณที่ว่าการอำเภอพลับพลาชัยซึ่งได้มีเกษตรกรชาวนาที่ทราบข่าวทยอยนำข้าวเปลือกมาตากกันอย่างต่อเรื่อง รวมถึงสถานที่ราชการต่างๆและศาลาประชาคมในหมู่บ้าน ได้มีเกษตรกรชาวนานำข้าวเปลือก มาตากลดความชื้นเช่นเดียวกัน ส่วนหน้าที่ในการดูแลรักษาข้าวเปลือก หรือทรัพย์สินยังคงเป็นของเกษตรกรเองที่จะไม่ให้เกิดความเสียหาย
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้รับการร้องทุกข์จากชาวบ้าน ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายมาขโมยข้าวเปลือกที่ตากไว้ตามถนน อยากจะแจ้งเตือนเพื่อนเกษตรกรให้ระวัง เกรงว่าจะไปก่อเหตุซ้ำที่อื่นอีก ตรวจสอบที่บ้านโคกกลาง หมู่ 1 ต.โคกกลาง พบว่า มีชาวบ้านเอาข้าวที่เกี่ยวด้วยรถเกี่ยว นำข้าวที่ยังมีความชื้นอยู่มาตากตามถนนลาดยาง เพื่อระบายความชื้นออก เป็นจำนวนมาก
สอบถาม นางสมพร อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย ได้เล่าว่าทุกปีหลังเกี่ยวข้าว จะนำข้าวมาตากริมถนน ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการตากประมาณ 2-3 แดด จึงจะรวบรวมข้าวไปเก็บไว้ในยุ้งได้ หลังจากเกี่ยวเสร็จปีนี้ ได้นำข้าวประมาณ 3,000 กิโลกรัม จากนาที่ทำ 8 ไร่ ตากได้ 2 วัน เหมือนคนร้ายจะรู้ว่าข้าวเริ่มแห้งแล้ว ตื่นเช้าไปดูข้าวที่กองไว้พบว่าผ้าที่คลุมข้าวไว้เปิดออก มีร่องรอยของการตักข้าวออกไป คาดว่าจะหายไปประมาณ 150-160 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 2,400 บาท โดยข้าวที่หายไปถึงแม้จะเป็นจำนวนไม่มาก แต่รู้สึกเสียใจเพราะทำนาเก็บข้าวไว้กิน เพียงปีละครั้งเท่านั้นไม่น่าจะมาแอบขโมยไปแบบนี้ คาดว่ากลุ่มคนร้ายน่าจะมาด้วยกันประมาณ 2-3คน น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่หาเงินไปซื้อยาเสพติด
ด้านนายอานุภาพ อายุ 37 ปี สมาชิก อบต.หมู่ 1ต.โคกกลาง เผยว่ารู้สึกไม่สบายใจ เสียใจกับเจ้าของข้าวคนร้ายซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำนาเลย มาฉกเอาข้าวของชาวบ้านที่เขาทำด้วยความยากลำบากไปแบบง่ายๆ จึงอยากจะฝากให้พี่น้องเกษตรกรทั่วไปที่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ในขณะนี้ ให้ระวังข้าวที่ตากไว้เพราะเหตุนี้คนร้าย น่าจะเป็นวัยรุ่น ยานพาหนะมาใส่ได้ไม่มาก แต่หากเป็นโจรมืออาชีพเขาจะเอารถกระบะมาใส่ อาจจะมีมูลค่าความเสียหายมากกว่านี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี