ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายงัดแผนเดิมป้องกันหมอกควัน ประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในช่วงระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์-15 เมษายน 2566
วันที่ 21 พ.ย.65 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ 18 อำเภอ ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 60-70 เป็นพื้นที่สันเขาและเทือกเขาสูง มีเขตพื้นที่ป่าสงวนและเขตอุทยานจำนวนมาก ประกอบกับประชากรส่วนมากยังยึดอาชีพเกษตรกรรม ทำนาข้าว ทำไร่ข้าวโพด และมันสำปะหลัง ซึ่งตามวิถีชาวบ้านในทำการการเกษตรกรมักใช้วิธีในการเผาตอซังข้าวหรือวัชพืชต่างๆ ซึ่งทำกันมานานหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ในช่วงฤดูแล้งจะเกิดภาวะหมอกควันขึ้น
นายภาสกร กล่าวว่า ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าได้ผลสำเร็จเป็นอย่างมากเพราะแทบไม่พบจุดฮอตสปอร์ต หรือการเผาไหม้เลย ทั้งปีมีการตรวจพบไฟไหม้พื้นที่ทางการเกษตรและพื้นที่ป่าเพียง 26 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา แต่ละปีจะมีจุดความร้อนและการเผาไหม้นับ 1,000 ครั้งโดยปีนี้ จ.เชียงราย จะยึดแผนการดำเนินการในปีที่ผ่านมาเป็นหลัก โดยจะประกาศห้วงระยะเวลาห้ามเผาโดยเด็ดขาดในช่วงระหว่างวันที่ 15 ก.พ.-15 เม.ย.66 ซึ่งเป็นห้วงระยะเวลาที่ชัดเจนไม่ประกาศก่อนหรือต่อระยะเวลาเพื่อให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่จะมีการวางแผนในการทำภาคเกษตรกรรมได้ถูกต้อง ซึ่งบางคนก็อาจชิงเผาก่อนถึงช่วงการประกาศหรือเลี่ยงไปเผาหลังพ้นระยะเวลาห้ามเผาไปแล้ว ซึ่งการที่จะไม่ให้เผาเลยนั้นไม่ได้ แต่ในช่วงเวลาที่ห้ามเผาก็ต้องห้ามจริงๆ หากมีการฝ่าฝืนก็จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดไม่มีการละเว้น
นายภาสกร กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามทางจังหวัดเชียงราย ก็มีรณรงค์ให้มีแปรรูปตอซังข้าวและเศษวัชพืชอัดแท่งเพื่อใช้เป็นอาหารสัตว์ หรือนำไปทำปุ๋ยสำหรับทำปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยธรรมชาติใส่พืชผักผลไม้ นอกจากนี้ยังจะดึงกลุ่มพรานล่าสัตว์ และกลุ่มคนหาของป่ามาเป็นอาสาสมัครในการแจ้งเหตุและระงับเหตุไฟไหม้ ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความชำนาญพื้นที่แบะทราบเหตุการณ์ของแต่ละพื้นที่ดี ซึ่งช่งยป้องกันเหตุก่อนที่จะขายวงกว้างได้
"ปีนี้จะมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน เฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงและคอยระงับเหตุ โดยให้ส่วนงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 18 อำเภอ จัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ รถดับเพลิง สำหรับรับมือสถานการณ์ไฟไหม้ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งจังหวัดขอความร่วมือประชาชนทุกคนร่วมกันปฎิบัติตามแผนอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพของประชาชน ภาคการท่องเที่ยว ด้านสังคม และด้านเศรษฐกิจของพื้นที่" นายภาสกร กล่าว - 003