ความคืบหน้าคดีนายชัยคีรี ศรีเฟื่องฟุ้ง อายุ 69 ปี ทายาทธุรกิจกระจกไทยอาซาฮี รุ่นที่ 3 และเป็นพ่อของเชอร์รี่-ชัญญา ศรีเฟื่องฟุ้ง อดีตดาราสาวและไฮโซชื่อดัง ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตบนดาดฟ้าของอาคารเกียรติธานีซิตี้แมนชั่น เลขที่ 191/76 ซอยสุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เมื่อกลางดึกวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากเรื่องอะไร แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเกิดจากความเครียดนั้น
พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง ผกก.สน.ทองหล่อ กล่าวถึงสาเหตุการเสียชีวิตของ นายชัยคีรี ว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้าทำเป็นสถานที่นั่งเล่น พบผู้ตายนั่งอยู่บนเก้าอี้สนามแบบมีพนักพิง สภาพหน้าหงาย สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแลคสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด.357 เข้าที่ใต้คางทะลุหน้าผาก เป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลจากบาดแผลลงใส่เสื้อผ้าสีแดงฉาดและพบทูตมรณะเป็นปืนลูกโม่สีขาว ขนาด.357 ซึ่งเป็นของผู้เสียชีวิตอยู่ในมือขวาผู้ตายกำไว้หลวมๆตกอยู่ที่ตัก ตรวจสอบในรังเพลิงพบกระสุน 1นัดและปลอกกระสุน 1ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน บริเวณจุดเกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือร่องรอยที่จะบ่งบอกว่า เป็นเหตุฆาตกรรมจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายมากกว่าสาเหตุอื่น อันเนื่องมาจากความเครียด
“สอบสวนญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ยอมบอกว่า ผู้ตายเครียดเรื่องอะไร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเรียก น.ส.ชัญญา หรือ เชอร์รี่ ศรีเฟื่องฟุ้ง ลูกสาว รวมถึงเพื่อนชายของเชอร์รี่และคนรับใช้ อีก 1คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่อยู่คนละชั้น มาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งถึงสาเหตุการตาย เบื้องต้น น.ส.เชอรี่ ให้การว่า พ่อขึ้นไปนั่งเล่นบนดาดฟ้า สักพักก็ได้ยินเสียงปืน แต่ไม่มีใครเอะใจ จนถึงเวลากินข้าวเย็น ประมาณ 19.00น.เชอร์รี่ ใช้เพื่อนชายขึ้นไปตามพ่อกินข้าวจนพบพ่อเสียชีวิตแล้ว หลังจากรู้ผลการตรวจชันสูตรศพ ผลตรวจที่เกิดเหตุและผลการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้วคาดว่าอีก 2สัปดาห์ คงจะสรุปสาเหตุที่แน่ชัดได้” พ.ต.อ.ชุมพล กล่าว
ต่อมา เวลา 12.00น.วันที่ 20กันยายน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ “เชอร์รี่” ชัญญา ศรีเฟื่องฟุ้ง บุตรสาว นายชัยคีรี พร้อมญาติพี่น้องประมาณ 5-6คน เข้าพบ พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผบก.สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อติดตามความคืบหน้าผลผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายเพื่อจะนำไปประกอบการยื่นออกใบมรณบัตรและจะเดินทางมารับศพไปบำเพ็ญกุศลอีกครั้งในวันที่ 21กันยายนนี้ ที่วัดธาตุทอง ทั้งนี้ การมารับศพของญาติผู้ตายเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ เชอร์รี่ ซึ่งสวมชุดกระโปรงสีดำ ใส่แว่นตาดำ ยังร่ำไห้เสียใจตลอดเวลา ซึ่งทั้งตัวเชอร์รี่และญาติพี่น้อง ต่างไม่ให้ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์ บันทึกภาพและรายงานข้อมูลแต่อย่างใด
มีรายงานว่า ผลการชันสูตรพลิกศพ นายชัยคีรี ดำเนินเสร็จสิ้นแล้ว โดย พ.ต.ท.หญิง ณปภัช ณัฏฐสุมน นายแพทย์ (สบ 2) กลุ่มงานนิติพยาธิ นต.ระบุในใบแจ้งการตายว่า “กระสุนปืนทำลายสมอง” เพื่อให้ญาตินำไปยื่นต่อนายทะเบียนท้องถิ่นทำการออกใบมรณบัตรต่อไป
พล.ต.ต.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ ผบก.น.5 เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของ นายชัยคีรี โดยคาดว่าเกิดจากความเครียดหลายเรื่อง ทางญาติไม่ได้ติดใจอะไรเกี่ยวกับคดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำญาติและผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยคีรี เป็นบิดาของ เชอร์รี่ หรือชัญญา ศรีเฟื่องฟุ้ง ไฮโซสาวชื่อดัง ผู้ชื่นชอบการขี่ม้าเป็นชีวิตจิตใจและเคยเป็นพรีเซ็นเตอร์แชมพูสระผม ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวรักอยู่กับ แท่ง-ศักสิทธิ์ แท่งทอง ดารานักแสดงและนักร้องค่ายแกรมมี่ ก่อนจะเลิกรากันไป ขณะที่เชอร์รี่ก็จากวงการบันเทิงไปเปิดโรงเรียนสอนขี่ม้า
สำหรับ นายชัยคีรี เป็นทายาทรุ่นที่3ของตระกูลศรีเฟื่องฟุ้ง หลังมรณกรรมของ นายเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง บิดา ภารกิจดูแลรักษาอาณาจักรธุรกิจอันยิ่งใหญ่บริษัทกระจกไทย-อาซาฮี ตกอยู่กับ นายชัยคีรี ทายาทคนโตที่เพิ่งขึ้นมาเป็นกรรมการอำนวยการแทน นายสมบัติ พานิชชีวะ ตั้งแต่การปรับโครงสร้างการบริหารระดับสูงเมื่อไม่นานมานี้ การเปลี่ยนแปลงภายในบริษัทครั้งนั้น เป็นการผ่องถ่ายอำนาจการบริหารจากเกียรติสู่คนอีกรุ่นหนึ่ง โดย นายชัยคีรี ถูกคาดหวังให้สืบสานต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี