วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'กรมประมง'ชี้แจง! บริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเล ยึด 3 หลัก'กฎหมาย-วิชาการ-สังคม'

'กรมประมง'ชี้แจง! บริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเล ยึด 3 หลัก'กฎหมาย-วิชาการ-สังคม'

วันจันทร์ ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565, 08.29 น.
Tag : กรมประมง ทรัพยากรประมงทะเล กฎหมาย วิชาการ สังคม ประมงพื้นบ้าน พาณิชย์ ใบเหลือง IUU
  •  

กรมประมง...ชี้แจง! การบริหารจัดการทรัพยากรประมงทะเล ยึด 3 หลัก กฎหมาย วิชาการ และสังคม 30 พ.ย.นี้ พร้อมหารือประมงพื้นบ้าน-พาณิชย์ เพื่อหาทางออกร่วมกัน

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 นายถาวร ทันใจ รองอธิบดีกรมประมง ในฐานะโฆษกกรมประมง เปิดเผยถึงกรณีมีข่าวระบุว่า มาตรการประมงไทย หลังปลดใบเหลือง IUU ได้เมื่อปี 2562 ไม่มีการควบคุมสัตว์น้ำวัยอ่อน ตามมาตรา 57 แห่ง พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 เอื้อประมงพาณิชย์ หวั่นปีหน้า ประมงไทยจะโดนใบเหลืองซ้ำ กรมประมงจึงขอชี้แจงประเด็นดังกล่าวดังนี้


กรมประมงมีการบริหารจัดการทรัพยากรประมงโดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของชาวประมง และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน และตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนตามหลักสากล โดยได้แบ่งทรัพยากรออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1) สัตว์น้ำหน้าดิน จับได้จากอวนลากเป็นหลัก 2) ปลาผิวน้ำ จับได้จากอวนล้อมจับเป็นหลัก และ 3) ปลากะตัก จับได้จากอวนล้อมจับปลากะตัก และอวนครอบ/ช้อน/ยกปลากะตัก เป็นหลัก ปัจจุบันมีเรือประมงพาณิชย์ 9,608 ลำ และเรือประมงพื้นบ้าน 50,012 ลำ โดยในปี 2564 มีผลจับสัตว์น้ำทั้งหมด 1,297,000 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำเศรษฐกิจซึ่งเป็นสัตว์น้ำที่สามารถนำมาบริโภคได้โดยตรง หรือนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เท่ากับ 978,000 ตัน หรือร้อยละ 75.4 ของผลจับสัตว์น้ำทั้งหมด และสัตว์น้ำขนาดเล็กที่เรียกว่าปลาเป็ด เท่ากับ 319,000 ตัน หรือร้อยละ 24.6 (ประกอบด้วยปลาเป็ดแท้ ปลากะตัก และสัตว์น้ำวัยอ่อน)

ซึ่งผลจับสัตว์น้ำจากอวนลากแบ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ และปลาเป็ด โดยปลาเป็ดประกอบไปด้วยสัตว์น้ำ 3 ส่วน คือ 1) ปลาเป็ดแท้ หมายถึง สัตว์น้ำที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วยังมีขนาดเล็กอยู่ ซึ่งไม่นิยมนำมาบริโภค 2) ปลากะตัก เป็นปลาผิวน้ำขนาดเล็ก ความยาวลำตัวสูงสุด 8 - 9 เซนติเมตร นิยมนำมาทำน้ำปลา และ 3) สัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อน ซึ่งสามารถเจริญเติบโตเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่นำมาบริโภคได้ ในปี 2564 ปริมาณการจับสัตว์น้ำจากอวนลากในน่านน้ำไทยเท่ากับ 554,600 ตัน แบ่งเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจ 262,300 ตัน และปลาเป็ด 292,300 ตัน โดยเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจวัยอ่อนประมาณ 190,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 34.3 ของผลจับสัตว์น้ำทั้งหมดจากอวนลาก ส่วนอวนล้อมจับ อวนล้อมจับปลากะตัก และอวนครอบ/ช้อน/ยกปลากะตัก มีผลจับปลาเป็ดรวมกัน 22,635 ตัน ทั้งนี้ สัตว์น้ำเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ปลาทู พบว่า ปริมาณการจับปลาทูในน่านน้ำไทยเฉลี่ยรอบ 10 ปี (ปี 2551-2560) เท่ากับ 94,458 ตัน โดยในปี 2563 และ 2564 มีปริมาณการจับปลาทู 26,562 และ 31,810 ตัน ตามลำดับ ส่วนในปี 2565 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณการจับปลาทูไม่ต่ำกว่า 42,000 ตัน แสดงให้เห็นว่า ปริมาณการจับปลาทูมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี

ในส่วนของการอนุรักษ์สัตว์น้ำขนาดเล็กตามมาตรา 57 นั้น กรมประมง และทุกภาคส่วนมีความพยายามที่จะหาแนวทางดำเนินการหาทางออกร่วมกันมาโดยตลอด โดยที่ผ่านมา เมื่อปี 2563 ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาการกำหนดมาตรการควบคุมการจับสัตว์น้ำขนาดเล็ก เพื่อกำหนดชนิดและขนาดที่เหมาะสมของสัตว์น้ำเศรษฐกิจ และหลักเกณฑ์ในการกำหนดร้อยละของสัตว์น้ำขนาดเล็ก ตามมาตรา 57 และ 71 (2) สำหรับเป็นแนวทางในการประกาศกำหนดการจับ หรือการนำสัตว์น้ำขนาดเล็กขึ้นเรือประมง และในช่วงปี 2564 - 2565 กรมประมงนำข้อมูลจากการศึกษาของคณะทำงานไปประชุมรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ผู้ทรงคุณวุฒิจากคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ข้าราชการและสมาคมประมงที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ได้นำมาเสนอคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพาณิชย์และการประมงนอกน่านน้ำไทย และคณะอนุกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงพื้นบ้าน แต่ยังไม่ได้ข้อยุติที่เหมาะสมที่จะนำไปปฏิบัติได้จริง

กระทั่ง ล่าสุดกรมประมงได้เสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานมาตรการควบคุมการจับสัตว์น้ำขนาดเล็กตามมาตรา 57 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาศักยภาพการประมงไทย ครั้งที่ 4/2565 เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 โดยมีการนำเสนอข้อมูล ทั้งเรื่องของความเป็นมาในการดำเนินตามมาตรา 57 การรับฟังความคิดเห็นมาตรการในการจัดการทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับสัตว์น้ำขนาดเล็กที่บังคับใช้ในปัจจุบัน เช่น การประกาศมาตรการปิดอ่าว ในช่วงฤดูกาลสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ และเลี้ยงตัววัยอ่อน การกำหนดห้ามมิให้อวนล้อมจับที่มีขนาดตาอวนเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตรทำการประมงในเวลากลางคืน การกำหนดขนาดตาอวนก้นถุงของเรืออวนลากไม่น้อยกว่า 4 เซนติเมตร การกำหนดขนาดตาอวนครอบหมึกไม่น้อยกว่า 3.2 เซนติเมตร การกำหนดขนาดตาอวนครอบปลากะตักไม่น้อยกว่า 0.6 เซนติเมตร และการกำหนดตาอวนของลอบปูไม่น้อยกว่า 2.5 นิ้ว และบทกำหนดโทษฯ ซึ่งมีโทษปรับต่ำสุด 10,000 บาท กรณีเรือพื้นบ้านขนาดเล็ก และสูงสุดถึง 30 ล้านบาท กรณีเรือตั้งแต่ 150 ตันขึ้นไป และถือว่าเป็นการทำการประมงโดยฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ที่อาจถูกคำสั่งทางปกครองให้เพิกถอนใบอนุญาตและมีผลถึงการขอใบอนุญาตในรอบปีการประมงถัดไป อีกทั้ง ผลการบริหารจัดการทรัพยากรประมงในปัจจุบันพบว่า การลงแรงประมงลดลงและอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับการลงแรงประมงที่ให้ผลผลิตสูงสุดที่ยั่งยืน (msy) นั่นคือไม่อยู่ในสภาวะการทำประมงเกินกำลังการผลิต (Overfishing)

โดยในการแก้ปัญหาการคุ้มครองสัตว์น้ำวัยอ่อน กรมประมงจะเร่งดำเนินมาตรการใน 3 แนวทาง ดังนี้ 1) โครงการนำเรือออกนอกระบบ กลุ่มเรือ 1,434 ลำ เพื่อลดการลงแรงประมง 2) การปรับปรุงประกาศกรมประมง เรื่อง กำหนดพื้นที่และระยะเวลาฤดูสัตว์น้ำมีไข่ วางไข่ เลี้ยงตัวอ่อนในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เพื่อคุ้มครองพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาทู และ 3) การปรับปรุงประกาศเกี่ยวกับการกำหนดขนาดตาอวน เช่น การกำหนดขนาดตาอวนทั้งผืนให้มีขนาดตาอวนไม่น้อยกว่า 4 เซนติเมตร เพื่อเป็นการลดการจับสัตว์น้ำขนาดเล็ก เป็นต้น มาตรการดังกล่าวเหล่านี้จะทำให้สามารถลดการจับสัตว์น้ำขนาดเล็กได้ในภาพรวมต่อไป

อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 30 พฤศจิกายน 2565 ที่จะถึงนี้ กรมประมงได้เชิญผู้แทนจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งประมงพื้นบ้าน ประมงพาณิชย์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เข้ามาหารือร่วมกันเพื่อพิจารณาหาแนวทางการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้ จึงอยากขอให้ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

รองอธิบดีฯ กล่าวสรุปสุดท้าย ว่าในการต่อสู้กับการประมงผิดกฎหมาย รัฐบาลได้มีความร่วมมือกับสหภาพยุโรป มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลไกคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลไทยกับสหภาพยุโรปในการต่อต้านการประมง IUU ภายหลังจากการปลดใบเหลืองของไทยเมื่อปี 2562 โดยคณะทำงานได้มีการพูดคุยหารือกันในมิติต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการประมง IUU ได้แก่ กรอบกฎหมาย การบริหารจัดการกองเรือและทรัพยากรประมง การติดตาม ควบคุมและเฝ้าระวัง การบังคับใช้กฎหมาย และการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนของทรัพยากรสัตว์น้ำและการทำการประมงของชาวประมงไทยต่อไป โดยยึดหลักทางกฎหมาย วิชาการ และสังคม ตามมาตรฐานสากล ดังคำที่ว่า "ทรัพยากรอยู่ได้ ชาวประมงอยู่ได้" ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมชลฯ ประชุมขับเคลื่อนสายงานวิชาการ ติดตามความก้าวหน้าภายใต้นโยบาย RID UNITED กรมชลฯ ประชุมขับเคลื่อนสายงานวิชาการ ติดตามความก้าวหน้าภายใต้นโยบาย RID UNITED
  • ‘ก.เกษตรฯ’เปิดพิกัดความชุก‘ปลาหมอคางดำ’ แถลงยิบมาตรการแก้ปัญหา ‘ก.เกษตรฯ’เปิดพิกัดความชุก‘ปลาหมอคางดำ’ แถลงยิบมาตรการแก้ปัญหา
  • ส่องอีกหลายประเทศ จัดการ‘ปลาหมอคางดำ’อย่างไร? ส่องอีกหลายประเทศ จัดการ‘ปลาหมอคางดำ’อย่างไร?
  • รออีก 2 ข้อ!‘กรมประมง’แจงคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้อง‘ม็อบปลาหมอคางดำ’ รออีก 2 ข้อ!‘กรมประมง’แจงคืบหน้า 4 ข้อเรียกร้อง‘ม็อบปลาหมอคางดำ’
  • \'ม็อบปลาหมอคางดำ\'19 จังหวัดบุกทำเนียบ ขู่ขน 5 ตันเทประจานรัฐบาล 'ม็อบปลาหมอคางดำ'19 จังหวัดบุกทำเนียบ ขู่ขน 5 ตันเทประจานรัฐบาล
  • \'อัครา\'ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำฟื้นฟูแหล่งน้ำใน จ.พะเยา 'อัครา'ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำฟื้นฟูแหล่งน้ำใน จ.พะเยา
  •  

Breaking News

โอละพ่อ! คนสนิท 'สว.โชคชัย' บอกพิกัดบ้านผิด ทำ 'กกต.-DSI' หลงทาง

สอยคิวลุ้น! บรรจุแข่งโอลิมปิกเกมส์

ครั้งประวัติศาสตร์!อังกฤษลุยถ้วยใหญ่ยุโรป6ทีม

จอดรถถ่ายรูป'ว่าที่ สท.คนดัง' โดนล้อมรถทุบกระจกร้าว อึ้งตำรวจไม่รับแจ้งความ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved