นายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ปัจจุบันเรือประมงพื้นบ้านทั้งฝั่งอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน มีการขึ้นทะเบียนทั้งสิ้น 49,800 ลำ การนำเรือประมงพื้นบ้านเข้าสู่ระบบ เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและติดตามการทำการประมง และรวบรวมข้อมูลเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล
ในการรับความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างสมดุลและยั่งยืนจึงกำหนดแนวทางการออกใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน รอบปีการประมง 2566-2567 เป็นครั้งแรก โดยผู้ที่มีความประสงค์จะขอรับใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้านต้องมีสิทธิทำการประมงในน่านน้ำไทย ไม่มีลักษณะต้องห้ามเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายประมง และมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในเรือประมงที่จะขอรับใบอนุญาต โดยเรือประมงต้องมีทะเบียนเป็นเรือไทยและผ่านตรวจวัดขนาดและจัดทำอัตลักษณ์กับกรมเจ้าท่าเรียบร้อยแล้ว ซึ่งระยะแรกจะพิจารณาให้เรือที่มีขนาดตั้งแต่ 3 ตันกรอส ขึ้นไปก่อน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน จึงพัฒนา “ระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน” หรือ Small Scale Service : SSS ในการบริหารจัดการข้อมูลให้สามารถจัดเก็บและวิเคราะห์ผลได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และสืบค้นได้ง่าย รองรับการบูรณาการความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยชาวประมงสามารถลงทะเบียนขอรับใบอนุญาต ทำการประมงพื้นบ้านผ่านช่องทางออนไลน์ได้ 2 ช่องทางคือ เว็บไซต์ http://sss.fisheries.go.th หรือ Application “ระบบการออกใบอนุญาตทำการประมงพื้นบ้าน” ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS โดยสามารถลงทะเบียนเข้าใช้งานระบบได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 นอกจากนี้คาดการณ์ว่าจะสามารถให้ยื่นคำขอพร้อมเอกสารหลักฐานด้วยตนเองผ่านระบบ SSS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-
28 กุมภาพันธ์ 2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี