ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์เป็นประธานเปิดการสัมมนาเชื่อมโยงเครือข่ายประธานศูนย์ข้าวชุมชนระดับจังหวัด ปี 2566 พร้อมบรรยายพิเศษหัวข้อ นโยบายด้านการผลิตข้าวและการสร้างความเข้มแข็งให้แก่องค์กรชาวนา โดยมีผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ที่โรงแรมบางกอกพาเลส เขตราชเทวี กทม. ซึ่งปัจจุบันกรมการข้าว ได้เปิดรับการขึ้นทะเบียนศูนย์ข้าวชุมชนตามระเบียบว่าด้วยศูนย์ข้าวชุมชน 2560 แล้ว 2,977 ศูนย์ ในพื้นที่ 74 จังหวัด และได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการศูนย์ข้าวชุมชน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับจังหวัด ระดับเขต และระดับประเทศ เพื่อเป็นองค์กรในการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงเกษตรฯ สู่ชาวนาในพื้นที่ ตลอดจนสร้างเครือข่ายองค์กรชาวนาให้มีความเข้มแข็งในด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้งการอนุรักษ์ ฟื้นฟูวัฒนธรรมประเพณีที่เกี่ยวกับข้าวและชาวนา ดังนั้นเพื่อให้ผู้นำองค์กรศูนย์ข้าวชุมชนได้รับทราบถึงนโยบายกระทรวงเกษตรฯ นำไปกำหนดแนวทางในการพัฒนาการผลิตข้าวในพื้นที่ของตนเอง รวมทั้งเชื่อมโยงเครือข่ายศูนย์ข้าวชุมชนระดับจังหวัด
ดร.เฉลิมชัยกล่าวว่า ภาครัฐได้ให้ความสำคัญกับเกษตรกรโดยเฉพาะอาชีพการทำนา ได้มีนโยบายช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวในรูปแบบต่างๆ ให้พี่น้องชาวนามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเห็นถึงแนวทางแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทั่วถึงในระดับพื้นที่ จึงมีนโยบายให้กรมการข้าว พัฒนาและสนับสนุนให้ศูนย์ข้าวชุมชน เป็นศูนย์รวมในการบูรณาการงานด้านข้าวของทุกส่วนราชการในพื้นที่ เป็นแหล่งผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์และข้าวคุณภาพดีให้แก่ชุมชนอย่างพอเพียงและต่อเนื่อง รวมทั้งยกระดับเป็นจุดถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตข้าว การลดต้นทุนการผลิตข้าว การแปรรูปผลิตภัณฑ์ข้าว การจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี และการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปจากข้าว โดยมีเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุน รวมถึงการสร้างความเข้มแข็งของชาวนาผ่านการพัฒนาที่เป็นระบบและทั่วถึง มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมซึ่งจะขับเคลื่อนให้ศูนย์ข้าวชุมชนก้าวสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
สำหรับการสัมมนาในครั้งนี้ มุ่งหวังให้ประธานศูนย์ข้าวชุมชนและพี่น้องชาวนาทุกจังหวัด ได้ร่วมกันเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนากระบวนการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวของศูนย์ข้าวชุมชนทั้งประเทศให้ได้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดีตามมาตรฐานและตรงความต้องการของตลาด เพื่อลดการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของผู้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวทั่วประเทศ ตลอดจนสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายองค์กรชาวนา บูรณาการทำงานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนภายในชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาในพื้นที่ต่อไป สิ่งสำคัญคือ การรักษาคุณภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์และข้าวคุณภาพดีของศูนย์ข้าวชุมชนทุกแห่งไว้ และขอให้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งในการแก้ปัญหาด้านการผลิตข้าวร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลให้ชาวนาในชุมชนมีผลผลิตข้าวคุณภาพดี มีรายได้ที่มั่นคง สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขกับอาชีพที่มีความสำคัญต่อคนไทยทั้งประเทศบนรากฐานแห่งความพอเพียงที่ยั่งยืน